
เมื่อได้รู้ว่าตัวเองได้รับบทในละคร “หงส์ฟ้า” รู้สึกอย่างไร?
“ตอนแรกตื่นเต้นและท้าทายมากๆ จริงๆ เพราะเราไม่เคยเจอดราม่าหนักขนาดนี้ พอได้อ่านบทและเรื่องย่อแล้วก็เตรียมตัวอย่างเต็มที่ เพราะกลัวถ่ายทำจริงแล้วร้องไห้ไม่ออก แต่พอไปฟิตติ้งแล้วได้ใส่ชุดเจ้าหญิงจริงๆ ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์และตื่นเต้นมาก อยากเล่นบทนี้มากขึ้น และได้เห็นการเติบโตของตัวละครอย่างชัดเจน”
ความยากของการแสดงตัวละครนี้คืออะไร?
“ยากตรงที่ตัวละครหงส์ฟ้ามีเรื่องราวที่ซับซ้อนมาก เริ่มต้นชีวิตด้วยการถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาได้เพราะการเลี้ยงดูของยายและพ่อบุญช่วย หงส์ฟ้าเป็นเด็กที่กตัญญูค่ะ และจะไม่สู้กับคนที่มีพระคุณกับเรา แต่จะสู้กับคนที่ทำร้ายเรา สำหรับกานต์มันยากมาก เพราะตัวละครพูดน้อย แต่ทุกคำพูดมีความหมายลึกซึ้งและอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึก เรื่องบางเรื่องก็ทำให้สะเทือนใจและร้องไห้ออกมา ซึ่งกานต์ไม่ค่อยร้องไห้เวลาเห็นหนัง แต่พอเล่นเรื่องนี้ได้รู้วิธีการร้องไห้จริงๆ น้ำตามาเองเลยค่ะ”

อะไรที่ทำให้รู้สึกกดดันมากที่สุด?
“มันเป็นเรื่องที่ทำให้เราต้องร้องไห้เยอะมากจริงๆ แต่โชคดีที่มีพี่แชมป์ (อินทนนท์ รัตนากาญจน์) ผู้กำกับและพี่น้อง (พรสุดา ต่ายเนาว์คง) ที่ช่วยอธิบายให้เข้าใจว่า ทำไมตัวละครหงส์ฟ้าถึงรู้สึกแบบนี้ พอร้องไห้ไปแล้วบางครั้งมันทำให้รู้สึกดิ่ง แต่มันก็มีคนในทีมคอยให้กำลังใจและช่วยฟื้นฟูจิตใจจนกลับมามีกำลังใจเหมือนเดิม ตอนแรกเรารู้สึกท้อมาก พี่น้ำผึ้ง (ณัฐริกา) ที่แสดงเป็นแม่เรา ก็ทำให้เราอึ้งไปเลย เมื่อเห็นพี่เขาดีดนิ้วแล้วร้องไห้ได้ทันที เราต้องยอมรับว่าตอนนั้นเราแทบยืนไม่ติดเพราะไม่รู้จะทำยังไง แต่ครูและน้องๆ คอยให้กำลังใจว่าอย่ากดดันตัวเอง อย่าหลุดออกจากตัวละครเลย เพราะถ้าเราหลุดจากตัวละคร เราจะต้องใช้เวลานานในการกลับมาเป็นหงส์ฟ้าอีกครั้ง”
การได้ร่วมงานกับพี่โอ๊ต-ชาคริต เป็นอย่างไรบ้าง?
“ตอนแรกพี่โอ๊ตยังค่อนข้างเงียบๆ กับกานต์ค่ะ (หัวเราะ) เขาจะนิ่ง แต่กานต์ก็หาวิธีพูดคุยอยู่ตลอด เพราะเราและพี่โอ๊ตต่างก็เป็นนักแสดงใหม่ จึงมีหลายเรื่องที่เราต้องพูดคุยและปรึกษากันมากขึ้น”
แล้วเรื่องฉากหวานๆ กับพี่โอ๊ตในเรื่องนี้ล่ะ?
“ในเรื่องนี้จะมีความน่ารักและอาการกุ๊กกิ๊กตั้งแต่เริ่มเรื่อง แต่มันก็จะมีอุปสรรคเข้ามาให้ลุ้นว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ตอนต้นๆ จะเป็นความกุ๊กกิ๊กแบบเด็กๆ แต่ในช่วงท้ายๆ ก็จะมีฉากเลิฟซีนมาให้แฟนๆ ได้ลุ้นกัน อยากให้ติดตามและลุ้นกันต่อไปนะคะ”

ในเรื่องนี้ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่มากมาย รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“รู้สึกดีใจมากที่ได้ทำงานในเรื่องนี้ ช่วงแรกค่อนข้างกดดันเพราะต้องร่วมงานกับรุ่นใหญ่ที่ทั้งเก่งและมีชื่อเสียง แต่พี่ๆ เขาก็ให้ความเอ็นดูและคอยแนะนำเรา พี่แจ็บ (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) แม้จะร่วมเล่นแค่ไม่กี่ฉาก แต่ก็ยังคอยให้คำแนะนำจนรู้สึกเหมือนเขาคือพ่อของเรา พี่ๆ ทุกคนเป็นกันเองและน่ารักมาก ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดีค่ะ”
เป็นนางเอกดาวรุ่งที่มาแรงมากในปีเดียว ทำละครถึง 5 เรื่อง เริ่มจาก เขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ, เสาร์ 5, หงส์ฟ้า และละครใหม่อีก 2 เรื่อง คือเรื่องอะไรบ้าง?
“หลังจากจบหงส์ฟ้าแล้ว เรื่องใหม่ที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำมีเรื่องฤทัยบดีและมนตราตะเกียงแก้วค่ะ ฤทัยบดีเป็นบทที่ท้าทายมากเพราะมีเรื่องของการข้ามภพด้วย ต้องแต่งตัวย้อนยุคและยังต้องแสดงความสามารถด้านพลังจิตด้วยค่ะ อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับพี่โด (โดนัท-ภัทรพลฒ์) ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่ทำงานกับค่าย 9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ ของพี่เวอร์ (โอริเวอร์ บีเวอร์) นอกจากนี้ยังมีละครเรื่องมนตราตะเกียงแก้ว ที่กานต์ตื่นเต้นมากเพราะในเรื่องนี้ได้เล่นบทเรนี่ ซึ่งต้องใช้เวทมนตร์และจินตนาการกับคาถาอีก เรื่องนี้คู่กับพี่ภูมิ (เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์) และเป็นบทที่สนุกมาก อยากให้แฟนๆ ติดตามกันนะคะ รับรองว่าจะชอบกันแน่ๆ ค่ะ”
