แกงไตปลา เป็นหนึ่งในอาหารไทยที่คนชื่นชอบจากรสชาติจัดจ้าน แต่กลับถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 1 ของเมนูที่ยอดแย่ที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ TasteAtlas อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบในแกงไตปลานั้นกลับอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย พร้อมทั้งมีรสชาติที่ครบเครื่องในเมนูเดียว
ที่มาของแกงไตปลา
แกงไตปลา หรือที่บางครั้งเรียกว่าแกงพุงปลา เป็นอาหารท้องถิ่นของภาคใต้ของประเทศไทยที่มีรสชาติแซ่บจัดจ้านและมีกลิ่นเฉพาะตัวจากเครื่องแกงที่ใช้ พริกขี้หนูและพริกไทยเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งจะให้ความเผ็ดและความร้อนที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ในแกงไตปลา
ชื่อของแกงไตปลามาจากส่วนประกอบสำคัญคือไตปลา หรือพุงปลา ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารแบบดั้งเดิมของภาคใต้โดยการนำกระเพาะปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่นๆ มาหมักกับเกลือจนได้ที่ และนำไปทำอาหารได้หลายชนิด
แกงไตปลามีรสชาติร้อนแรงและมีปริมาณโซเดียมสูง จึงควรกินคู่กับผักสดเพื่อลดโซเดียมในร่างกาย และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำแกงมากเกินไป (ภาพจาก iStock)แกงไตปลาอุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียมจากปลาทู ไตปลา รวมถึงวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารจากผักต่างๆ ทำให้เป็นเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียที่รสเค็มจัดและโซเดียมสูง ผู้ที่มีปัญหากับการรับโซเดียม เช่น ผู้ป่วยโรคไต เบาหวาน หรือผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้
เนื่องจากแกงไตปลามีรสชาติที่จัดจ้านทั้งเผ็ดและเค็ม ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำแกงมากเกินไปและควรกินคู่กับผักสด หรือเครื่องเคียงอื่นๆ เช่น ปลาทอด เพื่อช่วยลดภาระให้ไต เนื่องจากการรับประทานอาหารเค็มมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้นควรกินในปริมาณที่พอดีและควรเสริมด้วยอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอื่นๆ ด้วย
แกงไตปลา ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 1 ของเมนูอาหารที่ยอดแย่ที่สุดในโลกจาก TasteAtlas
ถึงแม้แกงไตปลาจะเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากคนไทยหลายคน แต่กลับถูกมองว่าเป็นอาหารที่รสชาติ 'แย่ที่สุด' จากมุมมองของชาวต่างชาติ จนติดอันดับที่ 1 ใน 100 เมนูอาหารที่รสชาติเหลวแย่ที่สุดจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ TasteAtlas ด้วยคะแนน 1.3 ซึ่งไม่แปลกใจเลย เพราะแกงไตปลามีรสชาติที่ร้อนแรงและเข้มข้น พร้อมทั้งกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้กระทั่งบางคนในไทยยังไม่คุ้นเคยกับรสชาติของมันเช่นกัน
แม้แกงไตปลาจะถูกชาวต่างชาติยกให้เป็นอาหารที่รสชาติเหลวแย่ที่สุดจนติดอันดับที่ 1 ของโลก แต่ในวัตถุดิบและส่วนประกอบนั้นมีประโยชน์มากมายกว่าที่หลายคนคิด (ภาพจาก iStock)10 อันดับแรกของอาหารยอดแย่ที่สุดในโลกมีดังนี้
- แกงไตปลา จากประเทศไทย
- Hákarl จากประเทศไอซ์แลนด์
- Fesikh จากประเทศอียิปต์
- Yerushalmi Kugel จากประเทศอิสราเอล
- Luther Burger จากประเทศสหรัฐอเมริกา
- Pani ca meusa จากประเทศอิตาลี
- Jellied Eels จากประเทศอังกฤษ
- Calskrove จากประเทศสวีเดน
- Peladillas จากประเทศสเปน
- Smalahove จากประเทศนอร์เวย์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : ศูนย์การเรียนรู้ อาหารไทย, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล, TasteAtlas
