ย่านราชประสงค์ เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาช้อปปิ้งและสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ที่นี่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารมิชลินที่นักชิมควรแวะไปลิ้มลอง
รางวัลมิชลิน คือรางวัลที่ร้านอาหารและเชฟทั่วโลกต่างต้องการ เพราะเป็นการรับรองคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ ความคุ้มค่า และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละร้าน ซึ่งรางวัลมิชลินนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ รางวัลมิชลินสตาร์ (Michelin Star), รางวัลมิชลินเพลท (The Plate Michelin), และรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) โดยในย่านราชประสงค์มีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินในทุกประเภท
รางวัลมิชลินสตาร์ (Michelin Star) ถือเป็นรางวัลสูงสุดในมิชลินไกด์บุ๊ก แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- มิชลินสตาร์ 1 ดาว สำหรับร้านอาหารที่มีคุณภาพสูง ควรค่าแก่การแวะชิม
- มิชลินสตาร์ 2 ดาว สำหรับร้านอาหารที่ยอดเยี่ยม ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อไปชิม
- มิชลินสตาร์ 3 ดาว สำหรับร้านอาหารระดับโลก ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิม
1. อิกนีฟ แบงคอก (IGNIV Bangkok)
ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งแห่งนี้ก่อตั้งโดยเชฟแอนเดรียส คามินาดา เชฟชาวสวิตเซอร์แลนด์ผู้ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวจากร้าน Schloss Schauenstein อิกนีฟ แบงคอกเป็นสาขาแรกนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ และในปี 2022 ก็ได้รับดาวมิชลินดวงแรกมาแล้ว

อิกนีฟ แบงคอก เป็นห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอประสบการณ์แบบแชร์ริ่ง ด้วยบรรยากาศอบอุ่นและการบริการที่เอาใจใส่ โดยมีเชฟเดวิด ฮาร์ดวิก เชฟอาเน่ รีน และเรจินา เดอซูซา เป็นทีมงานหลักในการนำเสนอเมนูอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของยุโรป 4 ครั้งต่อปี ซึ่งประกอบไปด้วย ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว เพื่อให้ได้ลิ้มลองวัตถุดิบตามฤดูกาลที่มีรสชาติดีที่สุดในช่วงเวลานั้น
ในฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ เชฟเดวิด ฮาร์ดวิก ได้แรงบันดาลใจจากวันขอบคุณพระเจ้าและวันฮาโลวีนที่ฉลองในมหานครนิวยอร์ก โดยเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและของพิเศษ เช่น เนื้อกวาง เนื้อแก้มหมู ฟัวกราส์ ชีสกรูแยร์ กุ้งแลงกูสทีน คาเวียร์ ถั่วเฮเซล และอื่นๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่รอให้คุณมาสัมผัสเมนูใหม่ๆ ตลอดทั้งปี
ที่ตั้ง: ชั้น 1 ของโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
2. กินซ่า ซูชิ อิชิ (Ginza Sushi Ichi)
ร้านซูชิโอมากาเสะที่มีต้นตำรับจากสไตล์เอโดะ มาเสิร์ฟตรงจากย่านกินซ่า กรุงโตเกียว มาถึงเกษร วิลเลจ เมนูซูชิโอมากาเสะที่นี่อาจดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความพิถีพิถันจากเชฟญี่ปุ่น ที่คัดเลือกเฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่สุด สดใหม่ ส่งตรงจากญี่ปุ่น อาทิ ข้าวพันธุ์ดีจากจังหวัดอาคิตะและสูตรน้ำปรุงรสข้าวซูชิที่เหมือนสาขาหลักที่โตเกียว

โดยเฉพาะสองวัตถุดิบหลักที่สำคัญอย่าง ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) และ อูนิ (Sea Urchin) ซึ่งทุกท่านสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพ เนื่องจากร้านนี้จะเสิร์ฟเฉพาะวัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีให้ท่านได้ลิ้มลอง
ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของเกษร เซ็นเตอร์ ภายในเกษรวิลเลจ
3. แคมส์ โรสต์ (KAM’S ROAST)
ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในด้านเมนูอาหารย่างสไตล์ฮ่องกง โดยทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล Kam ที่มีประวัติความยาวนานมากกว่า 70 ปี ซึ่งได้รางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาวติดต่อกันถึง 9 ปี เมนูที่โดดเด่นคือห่านและเป็ดย่างที่ใช้กระบวนการหมักและการย่างที่พิถีพิถันตามสูตรเฉพาะของร้าน อีกทั้งหมูหันของที่นี่ยังเป็นที่รู้จักดีในเรื่องของการทำที่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการเฝ้าดูระหว่างการย่าง

อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองคือเป็ดผีผา ซึ่งเป็นเป็ดย่างสูตรพิเศษที่ผ่านการหมักด้วยซอสและเครื่องเทศ ผสมผสานกับเปลือกส้มจีนที่มีอายุ 23 ปี ทำให้เนื้อนุ่ม หนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสพิเศษ และยังมีเมนูหมูกรอบและหมูแดง ที่เลือกใช้เนื้อหมูคุณภาพสูง ย่างในสไตล์ฮ่องกง ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หากคุณอยากสัมผัสรสชาติของแคมส์ โรสต์ โดยไม่ต้องไปถึงฮ่องกง ก็สามารถมาได้ที่ร้านในย่านราชประสงค์
ที่ตั้ง: ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
หมายเหตุ: ขณะนี้เมนูห่านย่างยังไม่ได้เปิดจำหน่าย เนื่องจากทางร้านกำลังดำเนินการจัดหาวัตถุดิบตามมาตรฐานที่ตั้งไว้จากฮ่องกง
ประเภทรางวัล: มิชลินเพลท (The Plate Michelin) ร้านอาหารที่มีคุณภาพสูง ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอาหารด้วยความพิถีพิถัน
4. บิสก็อตติ (Biscotti)
ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งร่วมสมัยที่มีรสชาติอิตาเลียนแท้ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1998 ภายในโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โดยได้รับรางวัลมิชลินเพลทต่อเนื่องถึง 4 ปี และได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำกรุงเทพมหานคร 2023 จุดเด่นของร้านคือความสามารถในการเพลิดเพลินกับการทำอาหารของเชฟเควิน มอนเตอร์ฟาโน และทีมงานเชฟจากครัวเปิดที่สามารถมองเห็นการทำอาหารได้อย่างใกล้ชิดระหว่างรับประทาน

ร้านนี้มีความโดดเด่นในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการสร้างสรรค์เมนู อาทิเช่น ซิกเนเจอร์ฟอคคาเซีย เนื้อสไลด์สไตล์อิตาลีสูตรเฉพาะ สเต๊กปลาค็อดซอส Puttanesca สเต๊กเนื้อวากิว A5 เทนเดอร์ลอยน์ที่มีความนุ่มละลายในปาก
ที่ตั้ง: ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
5. เอราวัณ ที รูม (Erawan Tea Room)
ห้องอาหารไทยระดับตำนานที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่งเสิร์ฟอาหารไทยรสชาติแท้และดั้งเดิม ทุกจานใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่คัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และมาจากแหล่งผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดังนั้นห้องอาหารนี้จึงได้รับรางวัลมิชลินเพลท เมนูแนะนำ เช่น ข้าวผัดเอราวัณ ข้าวผัดสูตรเฉพาะที่มีกลิ่นหอม และแกงคั่วปูเห็ดแครงใบชะพลูที่จัดจ้านพร้อมเส้นหมี่อัญชันสีสวย

นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดๆ อย่าง กุ้งแม่น้ำย่างราดซอสมะขาม ปูทะเลผัดผงกะหรี่ และยำส้มโอปูนิ่มทอดกรอบ ที่ไม่ควรพลาด ส่วนของหวานที่ต้องลอง ได้แก่ สาคูเปียกน้ำกะทิ และไอศกรีมข้าวหอมมะลิ ที่จะทำให้มื้ออาหารสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ไทยที่เลือกชาชั้นดีมาพร้อมขนมไทยสุดพรีเมียม ที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน
ที่ตั้ง: ชั้น 2 เอราวัณ แบงค็อก
6. ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์ (FirePlace Grill and Bar)
ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์ยุโรปภายในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลมิชลินเพลท ด้วยการเลือกสรรวัตถุดิบพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงจากหลากหลายประเทศ ไฟร์เพลส กริลล์ แอนด์ บาร์ มีเมนูหลากหลายให้เลือก อาทิ หอยนางรมสดเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นก่อนเริ่มมื้ออาหาร

เมนูที่คนรักเนื้อแกะต้องไม่พลาด เช่น สเต๊กซี่โครงแกะราดซอสไวน์แดงที่เชฟปรุงอย่างพิถีพิถัน หรือถ้าไม่ชอบเนื้อแกะก็สามารถเลือกสเต๊กปลาแซลมอนโอเชียนเทราต์ได้เช่นกัน ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานซิกเนเจอร์อย่างเบกอลาสก้า ที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเนื้อเค้กเนย ไอศกรีม และเมอแรงค์
ที่ตั้ง: ชั้น G โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
7. อูโนมาส (Uno Mas)
ร้านอาหารสเปนบนดาดฟ้าชั้น 54 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเชฟ Roberto Gonzalez Alonso ที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับเมนูสเปนระดับพรีเมียม พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามของกรุงเทพฯ ร้านนี้ตกแต่งในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และได้รับรางวัลมิชลินเพลทจากการใช้วัตถุดิบที่นำเข้ามาจากประเทศสเปนเพื่อรสชาติต้นตำรับ

เมนูที่ได้รับการแนะนำจากหลายคนว่าเป็นเมนูที่ต้องลอง คือ ปาเอญ่า (Paella) หรือข้าวผัดสเปน โดยแนะนำให้สั่งเป็น Half & Half Paella ที่ผสมผสานระหว่างปาเอญ่ากุ้งมังกรและปาเอญ่าต้นตำรับ และอีกหนึ่งเมนูเด่นที่หาทานได้ยากในไทยคือ โคชินิลโล (Cochinillo) หรือหมูหันสเปน ที่หมักด้วยเครื่องเทศเฉพาะตัวและย่างในเตาอบพิเศษ ทำให้หนังกรอบ เนื้อข้างในนุ่ม และหากทานคู่กับไวน์ชั้นเลิศจากสเปนจะยิ่งเพิ่มความอร่อย
ที่ตั้ง: ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
รางวัล: มิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) เสิร์ฟอาหารคุณภาพยอดเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่า
8. ติ่น ไท่ ฟง (Din Tai Fung)
เสี่ยวหลงเปา ที่ทุกคนคิดถึงต้องยกให้ร้านติ่น ไท่ ฟง ร้านอาหารจีนไต้หวันที่มีชื่อเสียงจากต้นตำรับเสี่ยวหลงเปา ที่เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในไต้หวันเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 161 สาขาใน 13 ประเทศทั่วโลก และได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ หนึ่งในสาขาคือที่ชั้น 3 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เสี่ยวหลงเปาของร้านนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ได้รับการรังสรรค์มาอย่างสมบูรณ์แบบ จนทำให้ทุกคำเต็มไปด้วยรสชาติที่น่าติดใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด เช่น ยำสาหร่าย แพนเค้กกุ้งกรอบ ข้าวผัดหน้าพอร์คชอพ และซาลาเปาไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม

ที่ตั้ง: ชั้น 3 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
9. แสนยอด (SANYOD)
ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งแท้ที่มีตำนานยาวนานกว่า 60 ปี ตั้งอยู่ในย่านบางรัก โดยร้านนี้ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ ติดต่อกันถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2018-2023 เมนูเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ เป็ดย่างเตาถ่าน ซึ่งได้รับการย่างด้วยเตาถ่านอย่างพิถีพิถัน ทำให้เนื้อเป็ดมีความนุ่มแน่นและหนังกรอบอร่อย น้ำราดก็มีรสหวานนำเค็มอย่างลงตัว ทานคู่กับบะหมี่ลวกที่เส้นเหนียวนุ่มแบบฉบับแสนยอด ยิ่งอร่อยไปอีก

10. ซงฟา บักกุ๊ดเต๋ (Song Fa Bak Kut The)

ที่อยู่: ชั้น 3 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
11. บ้านเบญจรงค์ ปาย
ร้านอาหารไทยจากอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้รับรางวัลมิชลินบิบกูร์มองด์ติดต่อกัน 5 ปี (2019-2023) เสิร์ฟอาหารรสชาติไทยแท้แบบโบราณ ด้วยสูตรลับที่ตกทอดจากในวัง เมนูเด่นที่ต้องลองคือ ซี่โครงหมูอบปลาเค็ม ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของปลาเค็ม ปรุงรสได้กลมกล่อม ยำคะน้ากุ้งสด คะน้ากรอบและกุ้งสดนำมายำแบบชาวเหนือ รวมถึงหมี่กรอบเบญจรงค์ อาหารทานเล่นสไตล์สมัย ร.5 ที่รสชาติครบครัน และปลากะพงผัดชะอม น้ำพริกหรูผักหลาม ต้มข่าปลาสลิด เป็นเมนูที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจ

สถานที่ตั้ง: ชั้น 1 โซนฮักไทย ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
12. เกตุโอชา
ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 40 ปีและได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ 2 ปีติดต่อกัน สิ่งที่ทำให้ร้านนี้มีเอกลักษณ์คือ ‘น้ำซุป’ ที่มีการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและมีเครื่องปรุงรสกว่า 20 ชนิด โดยใช้เวลานานในการเคี่ยวจนได้น้ำซุปที่เข้มข้น หอมและกลมกล่อมไม่เหมือนใคร เสริมรสชาติด้วยเนื้อตุ๋นที่นุ่มกำลังดี ซึ่งเนื้อที่ใช้ในร้านมีคุณภาพดี ชิ้นใหญ่เต็มคำ พร้อมให้เลือกได้ทั้งเนื้อตุ๋นที่เคี่ยวจนเปื่อยจนละลายในปาก

ร้านนี้เอาใจคออาหารเนื้อด้วยก๋วยเตี๋ยวเนื้อเอกัสออสเตรเลียที่มีการคัดสรรเนื้อคุณภาพดี ผสมผสานกับน้ำซุปที่กลมกล่อมและเนื้อที่เนียนนุ่มละลายในปาก สำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อ ทางร้านยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูคุโรบุตะที่ใช้หมูคุณภาพดีและหมักด้วยสูตรลับ รวมไปถึงเมนูก๋วยเตี๋ยวเบคอนสไลซ์ที่เบคอนชิ้นบางกำลังดี เนื้อนุ่มละมุน มาพร้อมกับหมูตุ๋นและลูกชิ้นเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง: ชั้น 7 โซนฟู้ดเวิลด์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นอกจาก 12 ร้านที่กล่าวถึงแล้ว ในย่านราชประสงค์ยังมีแหล่งรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดรางวัลมิชลินที่ห้ามพลาด ที่ศูนย์อาหารเดอะ คุ้ก (The Cook) ที่ชั้น 4 ของเกษรอัมรินทร์ นอกจากนี้ยังสามารถตามรอยร้านมิชลินที่ได้รางวัลทั้งหมด 5 ร้านในที่เดียว ดังนี้

- บุญเลิศ บะหมี่หมูย่างซีอิ๊ว ร้านดังในตลาดนางเลิ้ง เมนูแนะนำ บะหมี่เกี๊ยวหมูย่างซีอิ๊ว และบะหมี่เกี๊ยวน้ำรวม
- นายอ้วนเย็นตาโฟเสาชิงช้า ร้านเย็นตาโฟรางวัลมิชลิน 4 ปีซ้อน มีจุดเด่นที่หมูบะเต็งและเสิร์ฟเครื่องจัดเต็ม รสชาติอร่อยไม่ต้องปรุง
- ราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี ร้านเก่าแก่เปิดมานานกว่า 40 ปี เมนูเด่นคือ ราดหน้าเส้นใหญ่หมู และผัดซีอิ๊วหมู
- ข้าวมันไก่โกอ่าง (ประตูน้ำ) ข้าวมันไก่ต้นตำรับประตูน้ำ ต้องมาลิ้มลองหรือเลือกข้าวมันไก่ทอดก็อร่อยไม่แพ้กัน เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปและน้ำจิ้มสูตรพิเศษ
- ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ สวนมะลิ ร้านตำนานกว่า 60 ปี เมนูก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กลิ่นเตาถ่านอร่อยห้ามพลาด และยังมีเมนูแปลกใหม่อย่างก๋วยเตี๋ยวอบทะเล (ไข่ไม่สุก)
สามารถสัมผัสรสชาติอร่อยจากร้านสตรีทฟู้ดมิชลินได้ที่เดอะ คุ้ก ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.