ปลาแซลมอน ปลาทะเลที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 โปรตีน วิตามินบี วิตามินดี โปแตสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ คนไทยนิยมรับประทานปลาแซลมอนในรูปแบบซาชิมิหรือรมควัน
การรมควันเป็นวิธีหนึ่งในการถนอมอาหาร ที่ช่วยยืดอายุของปลาแซลมอนไม่ให้เน่าเสียง่าย และคงสีเนื้อปลาไม่ให้ซีด ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และช่วยให้เนื้อปลายังคงรูปได้อย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การรมควันก็อาจนำไปสู่การปนเปื้อนของเชื้อโรคบางชนิด เช่น ลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส
เชื้อ ลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส พบได้ในแหล่งน้ำ น้ำเสีย อุจจาระของมนุษย์และสัตว์ ซึ่งสามารถปนเปื้อนลงในวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้ง่าย เชื้อนี้มักพบในอาหารประเภทนม เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และไส้กรอก หากสถานที่จำหน่ายหรือผลิตอาหารไม่สะอาด โอกาสที่อาหารจะปนเปื้อนเชื้อดังกล่าวก็จะสูง เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ หรือโรคลิสเทอริโอซิส ซึ่งมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้และอาเจียน หากติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ เด็กทารก หรือผู้สูงอายุ อาจมีอาการรุนแรงมาก
สถาบันอาหารได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างปลาแซลมอนรมควันจำนวน 5 ตัวอย่างจาก 5 ยี่ห้อ ที่จำหน่ายในกรุงเทพฯ มาตรวจหาเชื้อ ลิสทีเรีย โมโนไซโตจิเนส และพบการปนเปื้อนในตัวอย่างหนึ่ง ตามประกาศกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกี่ยวกับเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหาร ที่ห้ามพบเชื้อนี้ในอาหาร 25 กรัม ดังนั้น ควรเลือกทานปลาแซลมอนที่ผ่านการปรุงสุก หรืออบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 นาที เพื่อความปลอดภัยจากโรคอาหารเป็นพิษ

Mytour+ สถาบันอาหาร โครงการอาหารปลอดภัย