ปีใหม่มาเยือน... “คุณชาย 3” ตัดสินใจหลบจากเมืองหลวงมาหาพักผ่อนที่หัวหาดเมืองพัทยาติดกับนาจอมเทียน เช็กอินที่โรงแรมสุดหรู ‘โรดินา บีช’ จอมเทียน แต่กลับตกใจเมื่อเห็นเรือขุดทรายกลางทะเลมาถมชายหาด กลายเป็นหาดเทียมเหมือนที่สิงคโปร์ที่ไม่มีหาดธรรมชาติเลยสักนิด
อยากบ่นดังๆ ทำไมพวกนักสมุทรศาสตร์หายไปไหนกันหมด? เมื่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของนิเวศทะเลกำลังจะกระทบหาดทรายพัทยา ปี 2565 เมื่อสมาชิก TiK Tok ชมวิวทะเลพัทยาจนติดอันดับ 2 ของโลก แต่กลับต้องพบกับปัญหาสัตว์น้ำที่ย้ายถิ่นที่อยู่ และความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ทำให้น้ำตาไหลไม่หยุดเลย!
หลังจากบ่นแล้ว...โชคดีที่ได้พบกับสาวสวยอดีตนางงามกัลยกร “กัลย์” เจ้าของโคโคนัท ทราเวลฯ ผู้เป็นเจ้าของกิจการทัวร์และคนทำธุรกิจการท่องเที่ยว เธอแนะนำว่าในปัจจุบัน ร้านสไตล์ “โอเพ่น มาร์เกต” ได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่นนาจอมเทียน ที่มีของอร่อยให้เลือกมากมายพร้อมความปลอดภัยจากโควิดและฝุ่น
แหล่งของอร่อยนี้เรียกว่า “เดอะ บิ๊ก มาร์เก็ต จอมเทียน” ตั้งอยู่ริมถนนเลียบหาดนาจอมเทียน เมืองพัทยา ใกล้นาจอมเทียน สามารถเข้าได้ทางซอย 16 เพียงแค่ 50 เมตรถึงตลาด และมีลานจอดรถที่สะดวกสบายอีกด้วย
ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของ สุกัญญา ใจตรง หรือ ‘เก๋’ และ ทาเมียร์ รอน ชาวอิสราเอล ผู้เป็นอาสาสมัครกู้ชีพพัทยามาหลายปี พร้อมกับเครื่องมือครบมือ โดยได้รู้ว่าตลาดแห่งนี้เพิ่งเปิดได้เพียง 7 เดือนที่ผ่านมา คนขายส่วนใหญ่เป็นร้าน ‘สตรีทฟู้ด’ ที่ตั้งอยู่ริมถนนใกล้หาด วันดีคืนดีเทศบาลก็เข้ามาไล่ที่บอกว่าจะมีการจัดระเบียบถนนใหม่ในอนาคต...

อ้าว! ทำไมมีรถจอดเต็มไปหมดข้างทางอย่างนี้?
ด้วยความเสียดาย...ร้านสตรีทฟู้ดริมทางเหล่านี้ก็อร่อยไม่แพ้ร้านหรูที่รับทัวร์บางแห่ง มีลูกค้าประจำและบางร้านทำรายได้ถึงหลักหมื่นบาทในหนึ่งวัน จึงตัดสินใจเช่าที่ 10 ไร่เพื่อสร้างตลาดให้ร้านสตรีทฟู้ดเข้ามาขาย โดยมีข้อกำหนดว่าอาหารและสถานที่ต้องสะอาด รสชาติและราคาต้องมีมาตรฐานเดียวกัน คิดค่าเช่าซุ้มละ 100 บาทต่อวัน ตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม
น่าดีใจที่มีร้านรวงเข้าร่วมถึง 250 ร้าน พร้อมที่นั่งสำหรับลูกค้า 650 คน และยังมีการจัดการเก็บขยะทุกวันโดยเจ้าหน้าที่จากเมืองพัทยา
@@@@@@
แหล่งนี้มีเสน่ห์สุดๆ ด้วยอาหารหลากหลายให้เลือกสรรเป็นร้อยเมนู ใครที่อยากกินซูชิแนะนำให้ไปที่ “ร้านสุโค่ย แซมเบ้” ที่ตั้งอยู่ใกล้ร้านพิซซ่า สปาเกตตีคาโบนารา หรือจะเลือกสเต๊กเนื้อหลากหลายสไตล์ยุโรป... สำหรับคนชอบลูกชิ้นยืนกินแบบซุปตาร์ลิซ่า แบล็กพิ้งค์ ต้องไปที่ร้าน “ธัญชนก” ส่วนใครที่กำลังรีบก็สามารถเลือกกิน “ข้าวไข่เจียว” ได้เลย
แต่สำหรับสาวอีสาน “เสี่ยว” ที่หลงใหลใน “ส้มตำ” ผลจากการสำรวจของดีลิเวอรีเผยว่า ปี 2565 “ตำหมากหุ่ง” คือเมนูที่มีความแซ่บนัวและมีออเดอร์มากที่สุด ทั้งตำปลาแดก ตำไทย ตำป่า ตำมั่ว ตำซั่ว ตำลาว ที่มีข้าวเหนียวให้จิ้ม หรือหากอยากกินลาบ ไส้กรอก อ่อม หรือปลาส้ม ก็ให้ไปเดินด้านใน รับรองไม่ผิดหวัง

ไม่รู้ตัวเลย...อุ๊ย! กัลย์หายไปไหนแล้ว? สักครู่เห็นเธอกลับมาพร้อมกับ “ไก่เขย่า” ร้อนๆ อยู่ในมือ หาโต๊ะที่เหมาะๆ นั่งลงแล้วลองชิมทันที เมนูนี้เด็กๆ ชอบสั่งเพราะไม่เผ็ด มีเอ็นข้อกับหนังไก่และเห็ดเข็มทองทอดกรอบๆ โรยผงปาปริก้าแล้วเขย่าให้เข้ากัน...เคี้ยวได้สนุก มีเอ็นข้อกับหนังไก่ให้เคี้ยวเพลินๆ และผู้ใหญ่ก็ชอบกินด้วย
ของกินชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากอเมริกาใต้ เป็นอาหารที่ผู้ใช้แรงงานในอเมริกากินในช่วงกลางวันเพื่อประหยัดเวลาเรียกว่า “ไก่ป๊อป คอร์น” แต่คนไทยมักเรียกกันสั้นๆ ว่า “ไก่ป๊อป” โดยชาวอเมริกันเคยเรียกมันว่า “จั๊ง ฟู้ด” หรือ “อาหารขยะ” สำหรับคนทำงานหนัก แต่ตอนนี้ในยุค “ลุงโจ ไบเดน” อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว
@@@@@@
มาทะเลทั้งที...จะพลาดอาหารทะเลได้ยังไง? หนีไปลอง “ยำหอยนางรมสด” ที่แม้ไม่ใช่ร้านดังของหาดนาจอมเทียนที่มักจะมีคนมายืนรอคิวยาว แต่ร้านนี้ก็ไม่แพ้กัน ความอร่อยไม่ต้องรอนานและราคายังถูกกว่าอีกด้วย จึงไม่รอช้ารีบตรงดิ่งไปที่ “ร้านป้าส้มยำหอยนางรม” ทันที
หากย้อนกลับไปดูประวัติร้านนี้ เคยขายแหนมสดกับแม่อยู่ที่ตลาดลานโพธิ์ บางละมุง มาก่อน เพิ่งจะมาขายยำหอยนางรมสดได้เพียง 6 เดือน แต่ยังคงเสน่ห์ความอร่อยไว้ครบ ทั้งยำรสเด็ด 3 รส ใส่หอมแดง ตะไคร้ ผักชีใบเลื่อย น้ำพริกเผา พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู กระเทียมซอย และราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มรสชาติเข้มข้น ใส่ยอดกระถินเคียงข้างให้เป็นทางเลือก

โอ้โห! หอยขาวจั๊วะตัวใหญ่เกินคาด ขนาดใหญ่กว่าหอยอ่างศิลาซะอีก แต่ยังไม่ใหญ่เท่าหอยตะโกรมจากสุราษฎร์ฯ ที่คนมักจะลองชาเลนจ์เชื่อว่า ถ้ากินสดๆ 8 ตัวจะทำให้มีพลังเกินความคิดถึงขั้นตะกายฝา...คุณชายขอบอกเลยว่า ลองแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นเลยนะ 555
ยำหอยนางรมจากร้านป้าส้ม อร่อยสมคำร่ำลือ หอยสดๆหวานแท้ ใส่เครื่องปรุงรสครบทั้งสามรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ถึงใจ กินทีเดียวไม่เกิน 8 ตัว คงไม่มีพลังมาถึงขั้นตะกุยฝา...ราคา 100 บาทไม่ว่าจะสั่งจานเดียวหรือแพ็กกลับบ้าน ก็เต็มอิ่มไม่ผิดหวัง อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคือ “หมูกรอบ” กับ “ขาหมูเยอรมัน” ร้านนี้เคยขายริมทางขายได้ถึงหลักหมื่น ต่อมาก็ย้ายมาขายที่ใหม่ ก็ยังคงขายได้หลักหมื่นเหมือนเดิม
ร้านทำหมูกรอบทุกวันประมาณ 30-50 กิโลกรัม ราคาขายจานละ 1.5 ขีด 100 บาท หมูกรอบนอกกรอบใน นุ่มไม่แห้งจนเกินไป สะอาดและไม่อมน้ำมันจนเยิ้มทั้งหมูกรอบและขาหมูที่ทำ
สูตรการทำหมูกรอบเป็นสูตรแต้จิ๋วของแม่ที่ดิษชยานันต์ ไพบูลพูนทรัพย์ เปิดเผยว่า ใช้หมูสามชั้นต้มในน้ำมันร้อนๆ 10-15 นาที จากนั้นให้ผึ่งแดดให้หนังแห้งแล้วทอดต่ออีก 15-30 นาที และผึ่งแดดหรือเป่าพัดลมจนแห้งสนิท ขาหมูยากกว่าเพราะต้องต้มนานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ต้องระวังไม่ให้หนังเปื่อยยุ่ย กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือซีอิ๊วหวาน ยิ่งอร่อยมาก
ขาหมูทำวันละ 15-25 ขา ขายเป็นจานหรือกล่องราคาตั้งแต่ 100 บาท สำหรับขา 7-8 ขีดราคาประมาณ 350 บาท ส่วนราคาขาหมูขายตามกิโลกรัมที่ 450 บาท อีกหนึ่งร้านที่ดังไม่แพ้กันคือ “หมูกรอบร้อยล้าน” ที่ขายอร่อยไม่แพ้กัน เมื่ออิ่มแล้วอย่าลืมไปชิม “ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้” ร้านคุณเพ็ญศรี ก็จะพบกับรสชาติอร่อยที่ทำให้ยิ้มได้แน่นอน

คุณชาย 3