“หยิ่วกี่” ย่านประดิพัทธ์ สะพานควาย เชิญชวนแฟนๆ มาพิสูจน์ความอร่อยกับเส้นระดับตำนานที่มีรสชาติจัดจ้านในย่านนี้

ร้าน “หยิ่วกี่” ตั้งอยู่ที่ถนนประดิพัทธ์ ห่างจากสี่แยกสะพานควายประมาณ 800 เมตร เป็นตึกแถวสองคูหาที่ดูเหมือนสตรีทฟู้ดสุดคลาสสิก หาไม่ยากเลย อยู่ที่ปากซอยประดิพัทธ์ 10 ใกล้โรงแรมมิโด้ และตรงข้ามกับโรงแรมกานต์มณี มีทางม้าลายอยู่หน้าร้านพอดี
หนึ่งในผู้แนะนำร้าน “หยิ่วกี่” คือ นพ.ธงชัย ลิมปวัฒนศิริ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและแฟนเพลงยุคซิกตี้ที่รู้จักเพลงของคลิฟฟ์ ริชาร์ด แอนด์ เดอะชาโดว์ส เมนูที่ต้องลองให้ได้คือเมนูเส้นทุกรูปแบบ
ตั้งแต่ราดหน้าปลาเต้าซี่ ผัดซีอิ๊ว โกยซีหมี่ จนถึงบะหมี่ปู...ก้ามปู และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผัด ยำ ตุ๋น ทอด หรือแกงจืด กว่า 100 เมนูที่การันตีว่า...อร่อยเด็ดทุกคำ

เริ่มต้นความอร่อยจากของว่างอันยอดเยี่ยมอย่างขนมจีบ ซาลาเปา และหมูสะเต๊ะ...ไม่ใช่คนที่ชอบอะไรเยอะ ขอแค่ซาลาเปาร้อนๆ จาก “ลังถึง” ที่หน้าร้านมีไส้หมูแดง หมูสับ ไส้ครีม และถั่วดำ ทำสดใหม่ทุกวันไม่เก็บค้างคืน
ซาลาเปาลูกใหญ่ราคา 20 บาท แป้งนุ่มไม่แฉะ ไส้หมูสับละเอียดหนึบหนับ จับเป็นก้อนน่ากิน กลิ่นหอมเครื่องปรุงพร้อมรสชาติที่ลงตัว...กินแล้วรู้สึกดีสุดๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ก็มีหนึ่งในทายาทหยิ่วกี่มาทักทาย เล่าถึงเรื่องราวกำเนิดร้านที่เปิดมานานกว่า 60 ปี ตั้งแต่สมัยย่านนี้เป็นตลาดวัวควายและกลายเป็นถนนดำในปัจจุบัน...มีพี่น้องจากกวางโจว มณฑลกวางตุ้งเข้ามาหาโชคที่นี่

“หยิ่วกี่” ซึ่งแปลว่า “น้อง” เคยทำงานเป็นคนครัวในร้านเหลาชื่อดังย่านบ่อนไก่ในกรุงเทพฯ ยุคเก่าก่อน ต่อมาได้ออกมาเปิดร้านที่สะพานควาย และย้ายไปตามย่านต่างๆ จนมาสร้างร้านถาวรเป็นตึกแถว 2 คูหาที่นี่จนถึงวันนี้ ก่อนจะจากไปเมื่ออายุเข้าสู่วัยคุณตา ทิ้งตำนานหยิ่วกี่ไว้ และเป็นสองหลานสาวที่สานต่อร้านนี้ คนแรกคือ จีรวรรณ วรพงษ์ทรัพย์ และคนที่สอง วราภรณ์ วรพงษ์ทรัพย์ หรือ “ตุ๊กตา” วัย 51 ปี ทั้งคู่ช่วยกันรักษาและพัฒนาร้านนี้ต่อไป
เคล็ดลับในการทำอาหารที่รุ่นเก่าของคนครัวหยิ่วกี่ได้สอนเอาไว้ จึงทำให้วันนี้ร้านยังคงตั้งอยู่และเป็นที่รู้จักอย่างยาวนาน
“รับรองได้ว่าอาหารทุกจานรสชาติยังคงเหมือนเดิมทุกประการ” ตุ๊กตาได้การันตีไว้ก่อนที่เมนูแรกของมื้อจะถูกเสิร์ฟออกมา เป็น “ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่” หนึ่งในเมนูสุดเด็ดที่ร้าน...หน้าตาน่าทานมากๆ

“ถ้าเป็นราดหน้าเนื้อหรือหมู เราจะใช้ผักคะน้า แต่ราดหน้าปลาเต้าซี่จะใช้ผักกวางตุ้ง หรือผักไต้หวันแทน และก็ยังมีเห็ดฟาง พร้อมตกแต่งด้วยแครอทสองสามชิ้นเพื่อเพิ่มสีสันให้จานอาหารดูน่ากินยิ่งขึ้น”
ปลาที่ใช้คือ “กะพง” ซึ่งชุบแป้งบางๆ ก่อนนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน โดยใช้ไฟอ่อน แล้วนำมาปรุงกับเต้าซี่ที่คล้ายเต้าเจี้ยว ก่อนจะนำมาผัดรวมกับบะหมี่อีกที...แค่ราดหน้ายังร้อนๆ ก็ไม่รอช้า ลงมือชิมทันที...คำแรกบอกเลยว่าอร่อยไม่แพ้ร้านดัง รสชาติเหมือนขึ้นโต๊ะเสวยในราชสำนักจีนจริงๆ
“อาหารกวางตุ้งมีความพิเศษตรงที่มีรสหวาน นุ่ม มันต้องพอดี และรสจัดจ้าน รสชาติครบถ้วน ทั้งเปรี้ยว หวาน ขมนิดๆ ของต้องสดใหม่ เค็มพอเหมาะ และเผ็ดนำ” ตุ๊กตาเสริม พร้อมกับคุณชายที่ไม่ขอปฏิเสธว่า “ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่” ชามนี้...ครบสูตรอาหารกวางตุ้งอย่างแท้จริง


