หมูยอ เป็นอาหารแปรรูปจากเนื้อหมูที่มีชื่อเสียงในภาคอีสาน โดยมีลักษณะเด่นคือการห่อด้วยใบตองหนาๆ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มกลิ่นหอม แต่ยังช่วยรักษาความสดของอาหารให้เก็บได้นานขึ้น
การใช้ใบตองหนาๆ จะช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้ามาปนเปื้อนในหมูยอ นอกจากนี้ บางผู้ผลิตอาจเติมสารกันเสียเพื่อหยุดยั้งการเติบโตของเชื้อที่ทำให้เน่าเสียและเชื้อที่ก่อโรค ทำให้สามารถเก็บหมูยอได้ในระยะยาว และส่งขายได้แม้ในพื้นที่ที่ไกล
สารกันเสียที่นิยมใช้ในอาหารแปรรูปจากเนื้อหมู เช่น โพแทสเซียมไนไตรต์ และโซเดียมไนไตรต์ ซึ่งได้รับการอนุญาตจากกฎหมายให้ใช้ในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 381 พ.ศ. 2559 ได้กำหนดให้การใช้โพแทสเซียมไนไตรต์และโซเดียมไนไตรต์ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เพราะหากได้รับไนไตรต์มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
เมื่อร่างกายได้รับสารไนไตรต์จากอาหาร สารนี้จะทำให้ฮีโมโกลบินในเลือดมีความผิดปกติ จึงไม่สามารถส่งออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้ ส่งผลให้เซลล์ขาดออกซิเจนและเกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ หายใจลำบาก ตัวเขียว หัวใจเต้นเร็ว เกิดอาการเป็นลมและหมดสติ
หากได้รับสารไนไตรต์ในปริมาณน้อยๆ เป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้เกิดพิษสะสมในร่างกายและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง เนื่องจากไนไตรต์สามารถทำปฏิกิริยากับสารประกอบเอมีนในเนื้อสัตว์และกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งนำไปสู่การเกิดสารไนโตรซามีนที่เป็นสารก่อมะเร็ง
ในวันนี้ สถาบันอาหารได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างหมูยอจาก 5 ยี่ห้อที่ผลิตในประเทศไทยจำนวน 5 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณของไนไตรต์ ผลการทดสอบพบว่า หมูยอทุกตัวอย่างไม่พบสารไนไตรต์
ตอนนี้คนไทยสามารถทานหมูยอได้อย่างสบายใจ แต่ขอแนะนำให้มีการทานอาหารหลากหลาย ไม่ควรทานอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวันเพียงเพราะความชอบ เพื่อสุขภาพที่ดีและร่างกายที่แข็งแรง
