ในวันออกพรรษาปี 2567 ที่ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะมีการทำบุญตามประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญคือการ "ตักบาตรเทโว" หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า "เทโวโรหณะ" ซึ่งหมายถึงการลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ความเชื่อเกี่ยวกับวันออกพรรษา
ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชน วันออกพรรษาคือวันที่พระพุทธเจ้าทรงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาประทับที่เมืองสังกัสนคร หลังจากการเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา และมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาทำบุญตักบาตรด้วยความศรัทธา
ประเพณีตักบาตรเทโวมีที่มาจากความเชื่อที่ว่าทุกเหตุการณ์ในตำนานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนทำบุญ เช่น การถวายทาน รักษาศีล เพื่อสั่งสมบุญกุศล
การตักบาตรเทโวเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ของพุทธศาสนิกชน ซึ่งได้รับการปฏิบัติสืบทอดมาอย่างยาวนาน บางวัดและบางพื้นที่อาจจะกำหนดให้ทำตักบาตรเทโวในวันออกพรรษา คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แต่บางแห่งก็สามารถทำในวันรุ่งขึ้นคือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ตามความสะดวกของแต่ละพื้นที่
วันออกพรรษาคือวันสุดท้ายที่พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาตามพระพุทธบัญญัติ เมื่อพระสงฆ์จำพรรษาครบไตรมาสแล้ว ท่านสามารถจาริกไปยังที่อื่นได้ตามที่เห็นสมควรโดยไม่ผิดพระธรรมวินัย และยังได้รับอานิสงส์จากการไปนั้น เช่น ไม่ต้องบอกลา ไม่จำเป็นต้องถือผ้าไตรครบชุด และได้รับโอกาสในการอนุโมทนากฐินที่สามารถขยายเวลาอานิสงส์ออกไปอีก 4 เดือน
วันออกพรรษามีอีกชื่อหนึ่งว่า "วันปวารณา" หรือ "วันมหาปวารณา" ซึ่งมีความหมายว่าเป็นวันที่พระสงฆ์ทุกระดับ เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมสงฆ์ได้ว่ากล่าวตักเตือนกันเพื่อปรับปรุงพฤติกรรม คำกล่าวปวารณาในภาษาบาลีมีดังนี้
"สังฆัมภันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทันตุ มัง อายัสมันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปฏิกะริสสามิ"
แปลว่า ข้าพเจ้าขอปวารณาต่อพระสงฆ์ทั้งหลาย หากข้าพเจ้าได้เห็นหรือได้ยินสิ่งใดที่ไม่เหมาะสม ขอพระสงฆ์โปรดแนะนำและตักเตือน เพื่อให้ข้าพเจ้าสามารถประพฤติตัวให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
พระท่านกล่าวปวารณาเพื่อให้มีโอกาสได้รับการตักเตือนหรือแนะนำจากผู้อื่น เนื่องจากพระสงฆ์แต่ละองค์อาจมีข้อบกพร่องในพฤติกรรมที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้เอง เช่น การมองไม่เห็นผงในตาของตน แม้ผงจะอยู่ใกล้กับตา แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือการใช้กระจกในการตรวจสอบ
ดังนั้น พระท่านจึงใช้วิธีการปวารณาให้พระท่านอื่น ๆ ได้เห็นหรือได้ยินข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่ดีหรือไม่ดี ทุกคนสามารถช่วยตักเตือนกันได้โดยไม่ต้องมีความเกรงใจ ทั้งพระผู้ใหญ่และพระผู้น้อย ต่างก็ทำด้วยเจตนาที่ดีเพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติที่ถูกต้อง
พิธีกรรมของชาวพุทธในวันออกพรรษา
ในวันออกพรรษา ชาวพุทธจะประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างบุญกุศล เช่น การทำบุญตักบาตร การรักษาศีล การปฏิบัติธรรม การฟังธรรม และการทอดกฐิน ที่วัดใกล้เคียง
ประเพณีที่ชาวพุทธนิยมทำกันในวันออกพรรษาคือการตักบาตรเทโว หรือที่เรียกในชื่อเต็มว่า เทโวโรหณะ ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงจำพรรษาครบ 3 เดือน ท่านทรงปวารณาพระวัสสาและเสด็จลงจากดาวดึงส์เทวโลกมายังโลกมนุษย์ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 โดยเสด็จลงทางบันไดแก้วทิพย์ที่ตั้งอยู่ระหว่างบันไดทองทิพย์และบันไดเงินทิพย์ ซึ่งทั้งสามพาดผ่านยอดเขาพระสิเนรุราช สถานที่ที่ถือว่าเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ที่เชิงบันไดตั้งอยู่บนแผ่นศิลาใกล้ประตูเมืองสังกัสสนคร ซึ่งประชาชนเห็นว่าเป็นสถานที่มีความหมายดี จึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าหรือที่เรียกว่า "อจลเจดีย์"
ทำไมต้องเป็นข้าวต้มมัด ข้าวต้มลูกโยน
ในวันเสด็จของพระพุทธเจ้า มหาชนได้รวมตัวกันทำบุญตักบาตรอย่างคับคั่ง โดยพิธีนี้มีความสำคัญในการตักบาตรเทโว ซึ่งเปรียบเสมือนการทำบุญต้อนรับพระพุทธเจ้าที่เสด็จลงจากเทวโลก

บางวัดจะจัดให้คฤหัสถ์แต่งตัวเป็นเทวดาหรือพรหมเพื่อแสดงความเคารพ โดยจะประดิษฐานพระพุทธรูปบนบุษบกที่มีล้อเคลื่อนและวางบาตรไว้ข้างหน้าพระพุทธรูป คนลากนำพระสงฆ์ ขณะที่ทายกและทายิกาตั้งแถวใส่บาตร เพื่อจำลองพิธีกรรมที่ใกล้เคียงกับการต้อนรับพระพุทธเจ้า
ในวันทำบุญตักบาตรนั้น อาหารที่นำมาใช้มีทั้งข้าวและข้าวต้มมัดใต้ รวมถึงข้าวต้มลูกโยนที่ห่อด้วยใบมะพร้าวหรือใบลำเจียกให้หางยาว ข้าวต้มลูกโยนมีประวัติมาแต่สมัยพระพุทธเจ้าทรงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยมีความตั้งใจที่จะโยนข้าวไปให้พระพุทธเจ้ารับในบาตร เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าไปใส่บาตรได้ในขณะนั้น
ข้อมูล : วัดท่าไม้