เหรียญหล่อหลวงปู่ไปล่ วัดกำแพง ราคา 6 หลักดึงดูดความสนใจจากนักเลงพระ

หลวงพ่อไปล่ หรือ "ฉันทสโร" เกิดในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2403 ที่ตำบลบางบอนใต้ อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี

หลังจากที่ได้รับอุปสมบทได้ 2 พรรษา หลวงพ่อไปล่าสามารถสวดปาฏิโมกข์ได้ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตบางขุนเทียน และด้วยปฏิปทาของท่านทำให้ชาวบ้านมีความเคารพนับถือ ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงตั้งแต่ปี พ.ศ.2431

หลวงพ่อไปล่ หรือ "ฉันทสโร" มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2489 รวมสิริอายุได้ 86 ปี 63 พรรษา

ชื่อเสียงของหลวงพ่อไปล่โด่งดังจนกลายเป็นคำขวัญของเขตบางขุนเทียนคือ "หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง แหล่งเกษตรกรรม วัฒนธรรมมอญบางกระดี่ และพื้นที่ทะเลกรุงเทพฯ"

พุทธคุณที่ทรงพลังและประสบการณ์อันลึกซึ้งทำให้เหรียญของท่านเป็นที่ต้องการของนักเลงพระ จึงส่งผลให้ราคาของเหรียญเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้ต้องนับเป็น "หลักแสน" เลยทีเดียว

เหรียญหลวงพ่อไปล่ยังคงความงดงามในด้านศิลปะ มีคำขวัญที่ว่า "มีเหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ใครจะมาฆ่าแกงก็ไม่ต้องกลัว ถึงไหนถึงกัน คงกระพันชาตรีดีนักแล" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

วัตถุมงคลของหลวงพ่อไปล่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะเหรียญหล่อรุ่นแรกในปี 2478 ซึ่งสร้างเป็น 2 เนื้อ คือ เนื้อทองฝาบาตรและเนื้อสัมฤทธิ์กลับดำ มีการจัดสร้างเพียง 2 พิมพ์ คือ พิมพ์จอบใหญ่และพิมพ์รูปไข่ ซึ่งการจัดสร้างมีจำนวนจำกัดมาก และในวันนี้ผมจะมาสอนเทคนิคการดูเหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่กันอย่างละเอียด เรียกได้ว่าเป็นการชี้จุดจ่ายตังค์เลยทีเดียว

ลักษณะของเหรียญหลวงพ่อไปล่ ด้านหน้าเป็นภาพหลวงพ่อไปล่ นั่งขัดสมาธิราบบนฐานชั้นเดียวรูปทรงจอบ มีเส้นโค้งนูนทั้งด้านขอบเหรียญ 2 เส้น พื้นผิวใบหน้าของท่านมีรายละเอียดชัดเจน ครองจีวรที่มีการรัดประคดอย่างชัดเจน ด้านบนเหรียญมีหูหล่อในตัว ส่วนด้านหลังของเหรียญเป็นพื้นเรียบ โดยมีอักษรไทยจารึกว่า "ที่ระฤก ๒๔๗๘"

พุทธคุณของเหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ ถูกกล่าวว่า "เหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ใครจะมาฆ่าแกงก็ไม่ต้องกลัว ถึงไหนถึงกัน คงกระพันชาตรีดีนักแล" ซึ่งถือเป็นคำสอนอันทรงพลังจากท่าน

เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่เป็นพระ 2 หน้า โดยการตีหุ่นเทียนประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมติดหูปิง มีซุ้มที่มีเส้นซ้อน และคอพระจะมีเม็ดพอกพร้อมทั้งมีดินขี้เบ้าติดอยู่ตามซอก รวมถึงมีเม็ดข้างอยู่ในซุ้ม

ด้านหลังบางองค์อาจพบคราบตะกันแดงๆ ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของออกไซด์ หูเชื่อมจะติดจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง ส่วนพระที่ใช้ไปแล้วจะมีสภาพสึกผิวเรียบเนียน และบางครั้งอาจเห็นเป็นรอยหลุดตามด

ข้างองค์พระบางด้านไม่หนามีรอยประกบพิมพ์และต่อชนวนเข้าด้วยกัน

Line ID : @tone8888

เพจ : โทน บางแค FC.