
ความเชื่อเกี่ยวกับ “วันเดือนดับ”
“เดือนดับ” คือ ปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรตรงกับดวงอาทิตย์ ทำให้ด้านมืดของดวงจันทร์หันเข้าหาโลก ซึ่งทำให้เรามองไม่เห็นดวงจันทร์ ปรากฏการณ์นี้อาจมีทั้งความดีและความร้าย ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลว่าจะมองมันอย่างไร ดังนี้
วันเดือนดับกับความเชื่อโบราณ
ตามความเชื่อโบราณ หากเกิด “เดือนดับ” ในวันใดไม่ควรทำการปลุกเสกสิ่งของมงคล เนื่องจากเชื่อว่าจะมีการดูดซับความชั่วร้ายจากความมืดที่ไม่มีแสงสว่างที่ปรากฏขึ้น
การขอพรจากพระในช่วงเดือนดับไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้สิ่งที่ไม่ดีเข้ามาแทนที่สิ่งดีๆ ที่เคยหวังไว้
ปรากฏการณ์ “เดือนดับ” เกี่ยวข้องกับ “ราหู” ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์ไทย ดาวอังคาร (3) และดาวราหู (8) เป็นพระเคราะห์คู่ธาตุลม ส่งผลให้เกิดความผันผวนและไม่แน่นอนในชีวิต
มีความเชื่อว่า วิญญาณที่กลับมาบนโลกในวันนี้มีพลังอำนาจที่รุนแรง ดังนั้นผู้ที่มีความรู้ทางด้านอาคมจึงนิยมทำพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลังและทำคุณไสยในวันนี้ เพราะเชื่อว่าพลังของสิ่งที่ทำจะมีอานุภาพสูงมาก
ช่วงเวลาที่นิยมทำพิธีปล่อยของคือช่วงพลบค่ำ หากผู้ใดอยู่ในเส้นทางของสิ่งนั้นก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้เจ็บป่วยหรือเกิดปัญหาทางสุขภาพ ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและดวงของแต่ละคน หากมีจิตอ่อนหรือดวงตกอาจได้รับผลกระทบเต็มๆ แต่หากเป็นคนดวงแข็งหรือมีพลังอำนาจดี ผลกระทบอาจน้อยหรือไม่มีเลย
ดังนั้นคนโบราณจึงแนะนำว่าในคืนวันโกน วันพระ หรือวันเดือนดับ ควรกลับบ้านก่อนมืดเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนสิ่งที่ผู้มีวิชาอาคมปล่อยออกมา
ความเชื่อสมัยใหม่เกี่ยวกับ "วันเดือนดับ"
อย่างไรก็ตาม สำหรับวันเดือนดับ หลายคนยังคงเชื่อว่าเป็นสัญญาณของเหตุการณ์ไม่ดี ควรหลีกเลี่ยงการทำสิ่งใดที่เป็นมงคล เพราะอาจเปลี่ยนจากดีเป็นร้ายได้
ไม่ว่าจะมีความเชื่อในวันเดือนดับอย่างไร สิ่งที่สำคัญคือการทำดี คิดดี และกระทำดีต่อผู้อื่น ซึ่งจะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีวันเดือนดับหรือไม่