การจัดสวนให้เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ย
เพื่อให้บ้านของเราสวยงามและเสริมพลังฮวงจุ้ย การจัดสวนมีบทบาทสำคัญ โดยส่วนใหญ่การเลือกต้นไม้เป็นปัจจัยหลักในการจัดสวน บางพื้นที่เหมาะกับไม้ยืนต้น ขณะที่บางจุดเหมาะกับไม้ล้มลุก
ทิศทางของบ้านแต่ละทิศมีพลังที่ส่งผลต่อการเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมเพื่อเสริมความโชคดี การจัดสวนให้เหมาะสมทั้งภายนอกและภายในบ้านจะช่วยให้ได้พลังที่ดีจากต้นไม้เหล่านั้น ซึ่งมีปัจจัยที่ควรพิจารณา ดังนี้
1. ลักษณะของต้นไม้ที่เป็นมงคลและนำโชค
ต้นไม้ใหญ่ควรมีลำต้นที่ตรงและสวยงาม เพื่อไม่ให้ลำต้นเอนออกไปนอกบ้าน ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ที่ไม่ตรงจะทำให้ความช่วยเหลือจากผู้อื่นห่างเหิน นอกจากนี้ใบของต้นไม้ต้องมีรูปทรงที่สวยงาม กิ่งก้านไม่บิดเบี้ยวและไม่มีปลายแหลม โดยใบต้องมีปลายกลมหรืออ่อนนุ่ม ไม่ควรเป็นใบแหลมที่มีหนาม เพราะจะกระตุ้นความรุนแรงและดึงดูดปัญหามาถึงบ้าน เช่น
เคยมีโครงการบ้านจัดสรรบางแห่งที่นำต้นปาล์มที่มีลำต้นและใบแหลมมาปลูกเรียงรายเป็นต้นไม้หลักที่ใช้ตกแต่งถนนและหน้าบ้าน ผลก็คือเกิดการทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้งในหมู่บ้าน ดังนั้นควรเลือกต้นไม้ที่ไม่มีหนามแหลมหรือส่วนที่อาจทำให้เกิดอันตราย เช่น หนามที่อาจทิ่มตาคนบอด หรือกลิ่นที่ทำให้เวียนหัว หากมีผลควรเป็นผลที่สามารถรับประทานได้หรือไม่เป็นพิษต่อสมาชิกในบ้าน
สำหรับไม้พุ่มและไม้คลุมดิน รูปทรงควรดูสวยและมีใบอวบอิ่มที่มีสีสันเหมาะสมกับทิศทางต่างๆ ของบ้าน เช่น ต้นไม้ที่มีสีสันผสมแดงจะเสริมพลังธาตุไฟ เหมาะกับทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศของธาตุไฟ ช่วยเสริมความโดดเด่นและไอเดียของลูกสาวในบ้านให้แข็งแกร่ง แต่ไม่ควรปลูกในทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศของธาตุทอง เพราะธาตุไฟจะเผาธาตุทอง ทำให้ผู้ชายสูงอายุหรือสามีมีดวงชะตาไม่ดี เช่นเดียวกับไม้ล้มลุกที่มักมีดอกสวยๆ
แม้ต้นไม้บางต้นจะสวยงาม แต่หากปลูกในทิศทางที่ไม่เหมาะสม หรือในช่วงเวลาที่ไม่ดีอาจเกิดปัญหามือที่สามขึ้นมาได้ เช่น การปลูกต้นไม้ในทิศเสน่ห์ หรือเลือกฤกษ์ไม่ดีในการขุดดินปลูก ซึ่งอาจทำให้คู่รักมีปัญหาผู้อื่นมาชอบคนในบ้านได้ นอกจากนี้ต้นไม้บางต้นที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น “โป๊ยเซียน” แม้จะเป็นดอกไม้ที่มีลักษณะดอก 8 ดอกตามชื่อ แต่หากมีหนามแหลมอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินและการฟ้องร้องได้ หากปลูกหน้าบ้าน
2. ทิศทางที่เหมาะสมในการปลูกต้นไม้
การปลูกต้นไม้ใหญ่ควรปลูกห่างจากตัวบ้านไม่น้อยกว่า 3 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รากของต้นไม้ไปดันพื้นบ้านจนเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของบ้าน หากโครงสร้างบ้านได้รับความเสียหายจะส่งผลกระทบต่อกระดูกและโครงสร้างร่างกายของคนในบ้าน ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกควรหลีกเลี่ยงการมีใบหรือกิ่งที่สัมผัสหลังคาหรือผนังบ้าน เพราะจะทำให้โชคลาภลดลง
ทิศตะวันออก เป็นทิศของพลังธาตุไม้ การปลูกต้นไม้ในทิศนี้จึงเสริมพลังได้ดี โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีดอกและใบสีเขียว, ฟ้า, น้ำเงิน, เทา หรือดำ ถือเป็นต้นไม้ที่เหมาะสมมาก ในทิศนี้ยังสามารถจัดสวนน้ำ เช่น บ่อปลา น้ำพุ หรือน้ำตก เพื่อช่วยเสริมพลังและทำให้บ้านเย็นสบาย ต้นไม้ยืนต้นที่ปลูกในทิศนี้ยังช่วยดักจับกระแสพลังงาน (ชี่ หรือ Qi) จากลมได้อีกด้วย

ต้นกวักมรกต
ทิศใต้ เป็นทิศที่มีพลังของธาตุไฟ การปลูกต้นไม้ที่เป็นธาตุไม้ในทิศนี้ถือเป็นการเสริมพลังที่ดี ธาตุไม้ช่วยสนับสนุนพลังงานของธาตุไฟ ทำให้ผู้ปลูกได้รับความเมตตาและการสนับสนุนจากผู้อื่น ต้นไม้ที่เหมาะสมกับทิศนี้ควรมีดอกและใบสีสันสดใส เช่น เขียว แดง ชมพู เช่น หมากแดง โกสน เข็มแดง หรือแก้วกาญจนา แต่ทิศใต้ไม่ควรปลูกไม้น้ำ เช่น อ่างบัว เพราะพลังของทิศและพลังธาตุน้ำขัดแย้งกัน ทำให้ส่งผลเสียต่อชื่อเสียง รายได้ และสุขภาพ โดยเฉพาะระบบเลือด หัวใจ และความดันโลหิต

ต้นโกสน
ทิศตะวันตกเป็นทิศที่มีพลังของธาตุทอง การปลูกต้นไม้ในทิศนี้จะช่วยเสริมโชคลาภและพลังบวกให้กับบ้าน ทำให้คนในบ้านมีความกระตือรือร้น เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการประมูลหรือการแข่งขัน ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกในทิศนี้ยังช่วยบังแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งมักจะร้อนจัด ทำให้บ้านเย็นขึ้น ต้นไม้ที่เหมาะสมควรมีดอกหรือใบที่มีสีเหลือง ขาว หรือส้ม เช่น มะลิซ้อนและไม่ซ้อน พุด พุดพิชญา พุดซ้อน พุทธชาด พุดกุหลาบ ราชาวดี ชวนชมสีขาว ลีลาวดี หิรัญญิการ์ จำปี กาหลง ปีบ โมกทั้งซ้อนและไม่ซ้อน โมกพวง รสสุคนธ์ ต้นนีออนแคระ กุหลาบหิน เบญจมาศเงิน กระดุมไม้ใบสีเงิน ซินนิงเกีย ลูโคไตรชา ยูคาซิลเวอร์ดอลลาร์ ซีนาซีโอสคาโปซัส ดัสตี้มิลเลอร์ ซึ่งช่วยเสริมพลังของทิศนี้ อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการใช้สีแดงหรือชมพูมากเกินไป เพราะเป็นธาตุไฟ ซึ่งอาจทำร้ายพลังของทิศนี้ได้

ต้นกระดุมไม้ใบเงิน
ทิศเหนือ (ธาตุน้ำ) ควรปลูกดอกไม้ที่มีสีฟ้า น้ำเงิน หรือสีดำ เช่น อัญชัน (สีน้ำเงิน) ไฮเดรนเยีย (ดอกสีฟ้า) ดอกฟอร์เกตมีนอต (ม่วงอมฟ้า) สร้อยฟ้า หรือดอกไม้สีขาว (ทอง)

ดอกไฮเดรนเยีย
ทิศอื่นๆ เช่น ทิศที่มีคำว่า “เฉียง” เช่น ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ฯลฯ ซึ่งมีพลังของธาตุดินประจำทิศ
ทิศเหล่านี้มักชื่นชอบสีที่เป็นโทนอบอุ่น เช่น สีเหลือง สีส้ม ครีม หรือสีน้ำตาล เช่น ดอกดาวเรือง (ที่มีทั้งสีเหลืองและสีส้ม) ดาวกระจาย ดาวกระจายซ้อน กุหลาบสีเหลืองและสีส้ม บานบุรี ทองอุไร เข็มสีเหลือง ผกากรอง หางนกยูงสีเหลือง เยอบีร่า พุดบุศย์ ดอกลีลาวดีสีเหลืองนวล พวงแสดสีเหลืองอมส้ม หรือส้มจี๊ดที่เต็มต้นด้วยลูกสีส้ม ส่วนสีแดง ชมพู และเลือดหมู (ไฟ) ก็ยังสามารถนำมาผสมได้ แต่ทิศนี้ไม่ชอบการปลูกต้นไม้มากนัก ควรปลูกในปริมาณที่พอเหมาะ และการปลูกต้นไม้ในทิศเหล่านี้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางฮวงจุ้ย เพื่อป้องกันการเกิดผลร้าย นอกจากนี้ ทิศตะวันตกในปี 2566 ถือเป็นทิศที่ร้ายที่สุดในรอบหลายปี หากต้องขุดดินหรือพลิกหน้าดิน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนดำเนินการ มิฉะนั้นจะนำเรื่องร้ายๆ เข้ามาหาคนในบ้านได้อย่างรวดเร็ว

3. ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน ต้องคำนึงถึงชัยภูมิฮวงจุ้ยของหน้าบ้านเป็นหลักสำคัญ เพราะหน้าบ้านเปรียบเสมือนปากทางที่พลังงานจากภายนอกเข้ามาได้มากที่สุด ถ้าหน้าประตูบ้านโล่ง โปร่ง และรับแสงลมได้ดี ก็จะช่วยให้พลังงานดีๆ ไหลเข้าสู่บ้าน การปลูกต้นไม้ใหญ่ไม่ควรให้ลำต้นและกิ่งขวางทางประตูหรือหน้าต่าง เพราะจะทำให้การหมุนเวียนของลมและพลังงานในบ้านสะดุด
การวางต้นไม้ใหญ่ในตำแหน่งทางด้านขวาหรือซ้ายของหน้าบ้าน สามารถช่วยดักจับพลังงานลมได้ หากรู้ทิศทางลม ซึ่งจะทำให้โชคลาภเข้ามามากขึ้น ด้านซ้ายมือเมื่อมองจากภายในบ้านเป็นทิศมังกรเขียว ซึ่งหมายถึงการเสริมพลังให้ผู้ชายในบ้าน หากผู้หญิงเป็นผู้นำของบ้าน ควรปลูกต้นไม้สูงในฝั่งขวามือ ซึ่งเป็นทิศเสือขาวแทน ส่วนต้นไม้ที่มีความสูงไม่มาก หรือไม้คลุมดิน เช่น หญ้า นั้นเหมาะสำหรับปลูกที่หน้าประตู เพื่อสะสมพลังงานลมและให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก บริเวณนี้มักชอบลานโล่งที่เรียกว่า “เหม่งตึ๊ง” ซึ่งถ้าพื้นที่โล่งและกว้าง จะช่วยให้พลังเงินทองไหลเวียนเข้ามาได้ดี