พระนางจามเทวี คือตำนานท้องถิ่นที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.2554 เป็นเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงกับการตั้งถิ่นฐานของชาวไทยในภาคเหนือหลายจังหวัด เช่น ลำพูน ลำปาง ซึ่งในสมัยก่อนมีชื่อว่า เขลางค์นคร และเป็นเมืองคู่แฝดของอาณาจักรหริภุญไชย
เรื่องราวของพระนางจามเทวี
เรื่องราวของพระนางจามเทวีถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารและศิลาจารึกต่างๆ ถือเป็นตำนานทางศาสนาที่เชื่อมโยงกับพุทธศาสนาในภาคเหนือของไทย เรื่องเล่านี้เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเมืองหริภุญไชย ซึ่งเป็นความทรงจำที่ชาวบ้านเล่าสืบต่อกันมา ตำนานของพระนางจามเทวีมีหลาย版本ที่แตกต่างกันออกไป เช่น
พระนางจามเทวีคือลูกชาวบ้านที่เดินทางไปศึกษาที่เมืองละโว้
บางตำนานเล่าถึงประวัติของพระนางจามเทวีว่า พระนางเป็นบุตรสาวของชาวบ้านที่เกิดในจังหวัดลำพูน และเดินทางไปศึกษาที่เมืองละโว้ ก่อนจะกลับมาครองเมืองหริภุญไชย เรื่องเล่านี้ปรากฏเป็นภาพเขียนบนฝาผนังในวัดหลายแห่งของจังหวัดลำพูน
พระนางจามเทวีคือพระธิดาจากเมืองละโว้
ตำนานพระนางจามเทวีฉบับพระปริยัติธรรมธาดา บรรยายถึงการที่พระพุทธเจ้าทำนายสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยเล่าว่าฤาษีวาสุเทพและฤาษีสุกกทันต์ร่วมกันสร้างเมืองหริภุญไชยนคร ฤาษีสุกกทันต์ได้ขอพระนางจามเทวี พระธิดาจากเมืองละโว้ มาเป็นผู้ปกครองเมืองหริภุญไชย ต่อมามีพระยามิลักขุพยายามยึดครองเมืองหริภุญไชย พระโอรสทั้งสองของพระนางจามเทวีจึงต่อสู้และขยายอาณาเขต สร้างเมืองเขลางค์นคร หรือลำปางในปัจจุบัน
เว็บไซต์นครลำปางกล่าวถึงตำนานพระนางจามเทวีว่า ในราวปี พ.ศ.1200 ฤาษีวาสุเทพและฤาษีสุกกทันต์ร่วมกันสร้างเมืองหริภุญไชย เจ้าเมืองละโว้ได้ส่งพระธิดามาปกครองเมือง ขณะนั้นพระนางทรงพระครรภ์แฝด และได้นำแพทย์ บัณฑิต ช่างฝีมือ เศรษฐี และคหบดี จำนวน 500 คนจากแต่ละกลุ่มติดตามมาด้วย ทำให้เมืองมีความเจริญรุ่งเรืองในหลายด้าน รวมทั้งด้านพระพุทธศาสนา พระนางประสูติพระโอรสแฝด พระโอรสองค์พี่ชื่อ “เจ้ามหันตยศกุมาร” ครองเมืองหริภุญไชย ส่วนองค์น้องชื่อ “พระอันตยศกุมาร” เป็นพระอุปราช ต่อมาพระอันตยศกุมารได้ขึ้นครองเมืองเขลางค์นคร
อาณาจักรหริภุญไชยครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดลำพูน มีอายุมากกว่า 1,300 ปี ข้อมูลจากเว็บไซต์จังหวัดลำพูนอ้างอิงตำนานจามเทวีฉบับที่พระนางจามเทวีเป็นพระธิดาจากเมืองละโว้ ถูกฤาษีวาสุเทพเชิญมาปกครองเมืองหริภุญไชย ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างแม่น้ำกวงและแม่น้ำปิง พระนางจามเทวีเป็นปฐมกษัตริย์ และภายหลังเมืองนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนาโดยเจ้าขุนเม็งรายมหาราช ก่อนจะรวมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2475 เจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายคือ พลตรีเจ้าจักรคำ ขจรศักดิ์ ได้ถึงแก่อสัญกรรม ทำให้เมืองลำพูนเปลี่ยนสถานะเป็นจังหวัด และมีผู้ว่าราชการจังหวัดสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
พระนางจามเทวี ขอพรเกี่ยวกับอะไรได้บ้าง

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวีตั้งอยู่ที่จังหวัดลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 1 กิโลเมตร พระนางจามเทวีได้รับการยกย่องว่าเป็นสตรีที่มีความงดงามและเฉลียวฉลาด เป็นผู้ปกครองเมืองที่ชาญฉลาดและเป็นผู้นำในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในภาคเหนือของประเทศไทย ผู้คนนิยมมาขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ การงาน และความรัก
นอกจากอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีที่ผู้คนมาขอพรเรื่องความรักแล้ว ยังมี “กู่ช้าง” ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพช้างคู่บารมีของพระนางจามเทวี กู่ช้างตั้งอยู่ที่ตำบลกู่ช้าง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีรูปปั้นปู้ก่ำงาเขียว เชื่อกันว่าหากใครลอดใต้ท้องช้างจะได้รับสิริมงคลในชีวิต