
- การรับขันธ์คือกระบวนการเปิดทางให้เทพเจ้าสถิตในตัวเรา เพื่อใช้ร่างกายของเราทำภารกิจต่างๆ
- ผู้ที่สามารถรับขันธ์ได้ต้องมีญาณพิเศษ เช่น หูแว่ว เห็นนิมิต หรือมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น
- หมอปลาย พรายกระซิบ กล่าวว่า เทพเจ้าที่ใช้ในการรับขันธ์ส่วนใหญ่มักเป็นเทพของชาวอินเดีย
หลายคนอาจเคยเห็นพิธีรับขันธ์ตามสำนักต่างๆ และเข้าใจว่าเป็นการทำเพื่อรักษาโรค คืนดีกับคนรัก หรือให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
แต่แท้จริงแล้ว การรับขันธ์คืออะไร? หมอปลาย พรายกระซิบ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
ความหมายของการรับขันธ์
การรับขันธ์คือการเปิดทางให้เทพเจ้าสถิตในตัวเรา เพื่อใช้ร่างกายของเราทำภารกิจต่างๆ เหมือนเป็นผู้ส่งสารของเทพองค์นั้น วิธีการคือนำเศียรเทพมาครอบศีรษะและบริกรรมคาถา โดยต้องเป็นผู้มีบุญบารมีในทางเดียวกัน หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นพี่ในวงการรับขันธ์
ใครบ้างที่สามารถรับขันธ์ได้
ต้องดูว่าใครมีความคลื่นคล้อยกับเทพองค์ใด เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถบังคับได้ มันต้องเกิดขึ้นเอง บางคนเห็นนิมิต บางคนได้ยินเสียง บางคนเห็นภาพแวบหรือรู้สึกวูบวาบ อย่างกรณีของปลายที่เริ่มจากได้ยินเสียงท่านยม แล้วจึงเริ่มสื่อสารกัน นั่นหมายความว่าไม่ใช่ใครจะเลือกรับขันธ์อะไรก็ได้
การนับถือเจ้าแม่กวนอิมและรับขันธ์เจ้าแม่กวนอิมนั้น ไม่ใช่เจ้าแม่กวนอิมจริงๆ อาจเป็นเจ้าแม่กวนเองก็ได้ ปลายอยากเตือนทุกคนว่า อย่าทำเล่น เพราะถ้ารับแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไป แต่ถ้ารับแล้วมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตัว อาจทำให้เสียสติได้
วิธีการรับขันธ์แบบ หมอปลาย พรายกระซิบ
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่จากที่ท่านยมบอกปลายมา เทพที่เราสามารถรับขันธ์เพื่อเป็นสื่อได้มีเพียงเทพของชาวอินเดียเท่านั้น เช่น พระศิวะ พระแม่ลักษมี พระแม่อุมา พระนารายณ์ พระพิฆเนศ และเทพอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
ผลลัพธ์หลังการรับขันธ์เป็นอย่างไร?
อาการของแต่ละคนแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะคล้ายกับตอนเริ่มต้น เช่น บางคนที่เริ่มจากหูแว่วก็จะได้ยินชัดเจนขึ้น บางคนที่เห็นนิมิตก็จะเห็นชัดขึ้น แต่ถ้ารับขันธ์แล้วมีอาการตัวสั่น แลบลิ้น ตาเบิกโพลง นั่นมีสองสาเหตุ คือไม่จริงหรือทำผิดวิธี
คำแนะนำจากหมอปลาย
หลังรับขันธ์ ชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล การใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องมองไกล ปลายคือตัวอย่างที่ชัดเจน คิดให้ดีก่อนตัดสินใจรับ สุดท้ายนี้ปลายขอยืมคำของเชฟป้อมมาเตือนว่า “เตือนแล้วนะ”
แหล่งข้อมูล : หมอปลาย พรายกระซิบ