
จุลชัยยะมงคลคาถา หรือที่รู้จักในชื่อ จุลละชัยปกรณ์ และ ไชยน้อย เป็นบทสวดโบราณที่เขียนด้วยภาษาบาลีผสมภาษาลาว ได้รับความนิยมในการสวดในชุมชนสองฝั่งแม่น้ำโขง ปัจจุบันยังคงมีการสวดในวัดป่าสายพระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บทสวดนี้กล่าวถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้าที่มีเหนือเหล่ามาร รวมถึงอำนาจของพรหม มาร เทวดา ท้าวจตุโลกบาล และสรรพสัตว์ เชื่อกันว่าบทสวดนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ สามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายและอันตรายทั้งปวง ทั้งต่อผู้สวดและชุมชนที่อาศัย
จุลชัยยะมงคลคาถา จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ มหาชัยยะมงคลคาถา หรือ ไชยใหญ่
บทสวดจุลชัยยะมงคลคาถา
นะโม เม พุทธะ เตชัสสา ระตะนะตะยะ ธัมมิกา
เตชะ ปะสิทธิ ปะสีเทวา นารา ยะปะระเมสุรา
สิทธิ พรัหมา จะ อินทา จะ จะตุโลกา คัมภี รักขะกา
สะมุททา ภูตุง คังคา จะ สะหรัมพะ ชัยยะ ปะสิทธิ ภะวันตุ เต
ชัยยะ ชัยยะ ธ รณิ ธ รณี อุทะธิ อุทะธี นะ ทิ นะ ที
ชัยยะ ชัยยะ คะคนละตนละนิสัย นิรัยสัย เสน นะ เมรุราช ชะพล น ระชี
ชัยยะ ชัยยะ คัมภีระ โสมภี นาเคน ทะนาคี ปิศาจ จะ ภูตะกาลี
ชัยยะ ชัยยะ ทุน นิมิต ตะ โรคี ชัยยะ ชัยยะ สิงคีสุทา ทา นะมุขะชา
ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ศาตรา ชัยยะ ชัยยะ จัมปาทินาคะ กุละคัณโถ
ชัยยะ ชัยยะ คัชชะคน นะตุรง สุกะระภุชง สีหะ เพียคฆะ ทีปา
ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ยาตรา ชิตะ ชิตะ เสน นารี ปุนะสุทธิ น ระดี
ชัยยะ ชัยยะ สุขา สุขา ชีวี ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี ตะเล สะทา สุชัยยา
ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี สาน ติน สะทา
ชัยยะ ชัยยะ มังกะ ราชรัญญา ภะวัคเค ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะยักเข
ชัยยะ ชัยยะ รักขะเส สุระภุ ชะเตชา ชัยยะ ชัยยะ พรัหเมนทะคะณา
ชัยยะ ชัยยะ ราชา ธิราช สาชชัย ชัยยะ ชัยยะ ปะฐะวิง สัพพัง
ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตา ปัจเจกะพุทธะสาวัง ชัยยะ ชัยยะ มะเหสุโร หะโรหะริน เทวา
ชัยยะ ชัยยะ พรัหมา สุรักโข ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬหะโก วิรูปักโข จันทิมา ระวิ
อินโท จะ เวนะเตยโย จะ กุเวโร วะรุโณปิจะ
อัคคิ วาโย จะ ปาชุณโห กุมาโร ธะตะรัฏฐะโก
อัฏฐาระสะ มะหาเทวา สิทธิตาปะสะอาทะโย
อิสิโน สาวะกา สัพพา ชัยยะ ราโม ภะวันตุ เต
ชัยยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะปาโล จะ ชัยยะกัง
เอเตนะ ชัยยะเตเชนะ ชัยยะ โสตถี ภะวันตุ เต
เอเตนะ พุทธะเตเชนะ โหตุ เต ชัยยะมังคะลัง
ชัยโยปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะ ปาปิมะโต ปะราชะโย
อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโมทิตา ชัยยะ ตะทา พ๎รัหมะคะณา มะเหสิโน
ชาวพุทธในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงนิยมสวดพระคาถานี้ ด้วยความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลและขับไล่สิ่งอัปมงคลออกไป มีการเล่าขานกันว่า หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอริยเจ้าจังหวัดเลย ได้แนะนำให้ประชาชนสวดมนต์บทนี้ โดยเฉพาะในงานมงคลต่างๆ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า "หากเกิดสงครามหรือปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือแม้แต่ภายในครอบครัว การสวดมนต์บทนี้เป็นประจำจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้"