คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า หรือที่มีชื่อเรียกว่า "คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย" เป็นบทสวดโบราณที่ได้รับการเชื่อถือว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ ช่วยส่งเสริมความเมตตา และการสร้างความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองจากภัยอันตรายต่างๆ สำหรับผู้ที่สวดคาถาบทนี้จะต้องทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และมีเจตนาที่ดี เพื่อให้เกิดผลเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว
ประวัติของคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นคาถาที่ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ท่านได้ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป โดยเชื่อว่าคาถานี้มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันอันตรายได้ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า รัชกาลที่ 5 ทรงใช้คาถาบทนี้เสกหญ้าให้ม้าพยศกิน จนทำให้ม้าเชื่องและยอมให้จับได้โดยไม่ต่อต้าน จึงมีการนำคาถาบทนี้ไปใช้ในการเสกหญ้าให้ม้า วัว หรือควาย เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านี้ทำร้าย และยังใช้ในการป้องกันอันตรายจากศัตรูเมื่อต้องเดินทางไกลหรือออกสงคราม
พุทธคุณและอานิสงส์ของคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
หากนำคาถานี้ไปใช้ในทางกุศล จะช่วยเสริมพุทธคุณให้กับผู้สวด ทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายในการเดินทางไกล แปลงร้ายให้กลายเป็นดี ใช้เสริมสิริมงคล ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ป้องกันโรคภัย และยังช่วยเจริญสติปัญญา ทำให้จิตใจสงบและมีสมาธิยิ่งขึ้น
ในอดีตคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าเป็นคาถาเก่าแก่ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราพิชัยสงคราม ซึ่งนิยมสวดก่อนออกไปรบเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองจากพุทธคุณ บ้างก็เชื่อว่าคาถานี้ทำให้ร่างกายคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ในปัจจุบัน คาถามงกุฎพระพุทธเจ้าถูกใช้เพื่อเสริมความสำเร็จในชีวิตและการงาน อีกทั้งยังช่วยเสริมเมตตามหานิยม โดยผู้สวดมักจะเสกน้ำล้างหน้า เพื่อให้ผู้พบเห็นรักใคร่และเสริมความเจริญรุ่งเรืองในการเจรจาค้าขาย ไม่มีอุปสรรคจากผู้คน ทั้งนี้ต้องเริ่มต้นด้วยการท่องนะโม 3 จบก่อน จากนั้นจึงสวดบทคาถาดังนี้
บทสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
คำแปล: ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระคุณอันยิ่งใหญ่จากพระพุทธเจ้า และกระแสแห่งพระนิพพานที่ประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงยกย่องและสรรเสริญ ขอให้พระคุณเหล่านี้เป็นมงกุฎแห่งความดีประดับบารมีและครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดไปทุกเมื่อเทอญ
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
พุทธะมะอะอุ ทุกขัง
อนัตตา สัมปจิตฉามิ
(สวด 3 จบ)
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (จากหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท)
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
หมายเหตุ : คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า จากหลวงพ่อกวย มักใช้ในการเป่าหัวหรือเป่ากระหม่อม บางคนเลือกที่จะสักยันต์บนศีรษะ โดยเฉพาะเพราะหลวงพ่อกวยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ท่านมีชื่อเสียงในด้านพุทธาคม และลูกศิษย์มักเดินทางไปขอให้ท่านเสกคาถาผูกยันต์ให้ เพื่อเสริมสิริมงคลและป้องกันอันตรายในยามคับขัน

เคล็ดลับในการสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า สวดกี่จบ?
การสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าให้ได้ผลดีนั้น มีเคล็ดลับสำคัญอยู่ที่การ "ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ" ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จำเป็นในการท่องและบูชาคาถาบทนี้ ผู้สวดควรทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ระลึกถึงการหายใจเข้าออก และปล่อยให้จิตใจโล่ง ไม่คิดถึงสิ่งใดระหว่างการสวด
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เปรียบเสมือนการทรงมงกุฎพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา เป็นการปฏิบัติธรรมที่ช่วยให้ผู้สวดพัฒนาอารมณ์จิตให้มั่นคง โดยมีจุดมุ่งหมายในการเจริญสติกรรมฐาน เคล็ดลับในการสวดเพื่อให้ได้ผลคือการตั้งจิตและสติในการปฏิบัติ
"ขออาธารณาบารมีพระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า เพื่อปกปักรักษา คุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ"
หลังจากที่สวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า 9 จบแล้ว ในแต่ละรอบของการสวดให้กำหนดอาราธนาพุทธนิมิตไปยังทิศต่างๆ รอบตัว เริ่มจากการระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในทิศต่างๆ ดังนี้
จบที่ 1 : กำหนดอาราธนาพุทธนิมิต อยู่ที่หน้าศีรษะ
จบที่ 2 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางขวาของศีรษะ
จบที่ 3 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางด้านหลังศีรษะ
จบที่ 4 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางซ้ายของศีรษะ
จบที่ 5 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
จบที่ 6 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
จบที่ 7 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
จบที่ 8 : กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
จบที่ 9 : กำหนดพุทธนิมิตพระพุทธเจ้าพระองค์ใหญ่เสด็จมาอยู่ที่กลางศีรษะ พระพุทธเจ้าทั้ง 9 พระองค์ประทับอยู่เหนือศีรษะของเรา

การสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า โดยทั่วไปนิยมสวด 9 จบเพื่อเสริมโชคลาภ เมตตามหานิยม และป้องกันภัยต่างๆ แต่ถ้าหากเลือกสวดจำนวนอื่นๆ ก็จะมีความหมายต่างกันไป เช่น สวด 8 จบ เพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้ทำร้าย, สวด 18 จบ เพื่อให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา, หรือสวด 108 จบ เพื่อฝึกสมาธิและเสริมสติปัญญา แต่ไม่ว่าจะสวดจำนวนเท่าไหร่ พุทธคุณของคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าจะเสริมบารมีตามจิตที่มีสมาธิ และการรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด