กรณียเมตตสูตร คือพระสูตรที่มุ่งเน้นการฝึกฝนตนเองเพื่อให้เกิดเมตตาธรรม โดยมีคาถาตามรูปแบบฉันทลักษณ์ภาษาบาลีโบราณทั้งหมด 10 บท ซึ่งปรากฏในขุททกปาฐะของพระสุตตันตปิฎก ตามความเชื่อของชาวพุทธ การสวดมนต์บทกรณียเมตตสูตรนี้จะช่วยป้องกันภัยอันตราย เทวดาจะคุ้มครองรักษา และศัตรูที่คิดร้ายจะเปลี่ยนไปเป็นมิตรแทน
ประวัติของบทสวดกรณียเมตตสูตร
กรณียเมตตสูตร หรือที่เรียกกันในบางครั้งว่า "เมตตสูตร" ถือเป็นบทสวดที่ใช้สำหรับให้พระภิกษุทั้งหลายร่วมกันเจริญเมตตา ไม่ทำร้ายกันเอง และเป็นมิตรกับสัตว์ทุกชนิด โดยมีประวัติย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าได้สอนพระกรรมฐานแก่พระภิกษุจำนวน 500 รูปในป่า หลังจากการเรียนรู้ พระภิกษุก็แยกย้ายไปเจริญกรรมฐานใต้ต้นไม้ในป่าหิมวันต์
รุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ในต้นไม้เริ่มรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นภิกษุจำนวนมากมานั่งสมาธิในป่า พวกเขาคิดว่าเหล่าภิกษุต้องการฝึกสมาธิเป็นเวลานาน จึงรู้สึกเดือดร้อนและพยายามหลอกหลอนพระภิกษุ ด้วยการแปลงกายให้ดูน่ากลัว ทั้งรูปและกลิ่นเพื่อขับไล่พระภิกษุออกไปจากพื้นที่
ภิกษุทั้งหลายประสบกับความยุ่งเหยิงและความไม่สงบในจิตใจ จึงตัดสินใจเดินทางไปหาพระพุทธเจ้า เพื่อขอรับคำแนะนำ พระองค์จึงทรงตรัสพระคาถากรณียเมตตสูตร เพื่อให้ภิกษุได้กลับไปฝึกกรรมฐานตามเดิม พร้อมกับสวดบทคาถานี้เพื่อแผ่เมตตาไปยังรุกขเทวดาและมารที่คอยขัดขวาง เมื่อรุกขเทวดาได้ยินคำสวดจากพระคาถากรณียเมตตสูตร ก็มีจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปในทางดี อ่อนโยนและร่วมอนุโมทนา ช่วยปกป้องภัยทั้งหลาย เพื่อให้ภิกษุสามารถบรรลุธรรมได้ตามปรารถนา

กรณียเมตตสูตร: บทสวดและคำแปล
- กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี
สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิยา รัสสะกา อะณุกะถูลา
ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
ภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ
พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ
มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
เอวัมปิ สัพพะภุเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน
กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ
กรณียเมตตสูตร แปลว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสบทคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลายว่า ผู้ที่มีปัญญาและมุ่งหวังบรรลุธรรม ควรมีความพยายามในการปฏิบัติ ต้องเป็นผู้มีความกล้าหาญ ซื่อตรง เคร่งครัดและไม่เย่อหยิ่ง ควรเป็นผู้ที่มีความสันโดษ พึ่งพาตนเองได้ และมีปัญญาในการดูแลตัวเอง ไม่ควรมีความทะเยอทะยานและไม่ควรทำสิ่งใดที่อาจทำให้ผู้อื่นตำหนิ
ควรแผ่เมตตาไปยังสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีลักษณะกายหรือขนาดกายอย่างไร ขอให้ทุกตัวทุกตัวมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใกล้เคียงหรือไกล ภูตผีหรือสัมภเวสีทั้งหลาย ขอให้สัตว์เหล่านั้นมีความสุข ไม่มีการข่มเหง หรือดูหมิ่นกันในทุกกรณี ไม่ปรารถนาให้เกิดทุกข์แก่กัน ไม่ควรมีโกรธหรือความแค้นในใจ แผ่เมตตาจิตออกไปไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีศัตรูในใจ ด้วยความรักและห่วงใยเหมือนมารดาที่มีต่อลูก
ผู้ที่มีจิตเมตตาควรรักษาความสงบของสติอยู่เสมอ โดยดำรงตนด้วยเมตตาและพรหมวิหาร ไม่ยึดติดกับความคิดเห็นส่วนตัว และต้องมีศีลที่สมบูรณ์ เมื่อสามารถกำจัดความยินดีในสิ่งที่เป็นกามคุณได้แล้ว ก็จะไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก

ผลบุญจากการสวดกรณียเมตตสูตร
บทสวดกรณียเมตตสูตรมีความยาวและไม่มีเวอร์ชันย่อ ผู้ที่ต้องการสวดจะต้องมีจิตที่มั่นคง เพื่อให้เกิดสมาธิและการเจริญสติ เชื่อว่าผู้ที่สวดเป็นประจำจะได้รับการรักและคุ้มครองจากเหล่าเทวดา มีชีวิตที่ปลอดภัย ใบหน้าสดใส นอนหลับสนิท และพบเจอแต่สิ่งดีงาม
ในปี 2561 เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เชิญชวนให้คนไทยร่วมกันสวดกรณียเมตตสูตร และศึกษาให้เข้าใจความหมายของพระสูตรบทนี้ เพื่อส่งกำลังใจและเมตตาธรรมไปยังทุกชีวิตที่ประสบเหตุการณ์ครั้งนั้น
ที่มา : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย