
จันทร์เพ็ญ และ จันทร์ดับ คืออะไร และวันเหล่านี้ถือเป็นวันดีหรือไม่ มาทำความเข้าใจความหมายและความแตกต่างของทั้งสองวันในมุมมองโหราศาสตร์
อ.ปราณเวท โหราพยากรณ์ ได้ให้คำอธิบายเกี่ยวกับจันทร์เพ็ญและจันทร์ดับไว้ดังนี้ ทั้งสองวันนี้เกิดขึ้นทุกเดือน ได้แก่ จันทร์เพ็ญหรือปูรณมี (ขึ้น 15 ค่ำ) และจันทร์ดับหรืออมาวสี (แรม 15 ค่ำ) ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ตามการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ซับซ้อน แค่ทำบุญ ถือศีล สวดมนต์ ไหว้พระ และฝึกจิตใจให้สงบมีสติก็เพียงพอ
จันทร์ดับ (อมาวสี แรม 15 ค่ำ)
ทุกเดือนตามปฏิทินจันทรคติ ดาวจันทร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับดวงอาทิตย์ในนักษัตรฤกษ์หรือราศีเดียวกัน เรียกว่า อมาวสี หรือแรม 15 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่องศาของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เท่ากัน (ทับกันสนิท) เรียกว่า จุดอามาวสี ในคืนนี้เราจะมองไม่เห็นดวงจันทร์ ถือเป็นคืนเดือนมืด และเป็นช่วงที่ให้โทษรุนแรงที่สุด ในตำราของ อ.เปี่ยม ระบุว่า จุดอามาวสี คือ จุดวิบัติ และท่านยังได้ให้หลักการพยากรณ์ไว้ว่า
จุดอามาวสีที่ทับกับดวงอาทิตย์ในดวงชาตา หมายความว่าในปีใดที่แรม 15 ค่ำ ตรงกับวันเกิดของเจ้าชะตา ปีนั้นเจ้าชะตาจะเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรง หากทับกับดาวใดในดวงชาตา ดาวนั้นจะได้รับผลกระทบรุนแรงภายใน 30 วัน และหากตกอยู่ในภพใด ภพนั้นจะไม่ส่งผลดีต่อเจ้าชะตาเลยตลอดเดือนนั้น
โหราจารย์หลายท่านได้ระบุไว้ในตำราว่า ห้ามทำการมงคลในวันจันทร์ดับหรืออมาวสี โดยกิจกรรมที่สามารถทำได้มีเพียงพิธีกรรมปลุกเสกเครื่องรางของขลังเท่านั้น บางท่านยังใช้จุดอมาวสีในการพยากรณ์ชะตาบุคคลในแต่ละเดือนอีกด้วย
จันทร์เพ็ญ (ปูรณมี ขึ้น 15 ค่ำ)
ในหนึ่งเดือนทางจันทรคติ ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกัน (เล็งกัน) ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงและสว่างที่สุด จุดนี้ถือว่าให้คุณประโยชน์อย่างมากต่อเจ้าชะตา อ.เปี่ยมเรียกจุดนี้ว่า จุดสมบัติ หากวันเกิดของเราตรงกับขึ้น 15 ค่ำในปีใด ปีนั้นจะถือเป็นปีที่รุ่งเรืองที่สุด หลักการพยากรณ์จะคล้ายคลึงกับจุดอามาวสีตามที่ได้กล่าวมา
อย่างไรก็ตาม อ.ปราณเวทได้เน้นย้ำว่า การตัดสินว่าดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับมุมมอง ทัศนคติ และวิจารณญาณของแต่ละบุคคล เราไม่สามารถกำหนดหรือชี้ชัดได้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด จำเป็นต้องอาศัยสติ ข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผลของผู้พิจารณาเองด้วย