ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามประเพณีดั้งเดิม มักมีการบูชาเทวดานพเคราะห์ ซึ่งหมายถึงเทพเจ้า 9 องค์ที่เชื่อกันว่าคอยควบคุมดวงชะตาของมนุษย์ ความเชื่อนี้มีรากฐานมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่ให้ความสำคัญกับพระอาทิตย์ และบริวารอีก 8 องค์ ที่อาจนำพาโชคร้ายหรือสร้างความยากลำบากมากกว่าจะให้พร ดังนั้นจึงต้องมีเทพผู้ควบคุมเหนือสิ่งเหล่านี้ นั่นคือพระคเณศ เทพเจ้าแห่งการขจัดอุปสรรคทั้งปวง

เมื่อความเชื่อเกี่ยวกับเทวดานพเคราะห์เข้ามาสู่ประเทศไทย ก็มีการปรับเปลี่ยนตามบริบทท้องถิ่น และเกิดความเชื่อใหม่ที่ว่าเทวดานพเคราะห์นั้นกำเนิดมาจาก “พระอิศวร” ลักษณะของเทวดานพเคราะห์ในไทยจึงแตกต่างจากคติฮินดูดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานความเชื่อนี้เข้ากับหลักพุทธศาสนามากกว่าฮินดู สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวของเทวดานพเคราะห์ สามารถไปชมได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งในช่วงสงกรานต์ 12-14 เมษายน 2565 นี้ พิพิธภัณฑ์ได้อัญเชิญเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ ออกมาให้ประชาชนสรงน้ำขอพรตามประเพณีโบราณ ที่ไม่นิยมนับอายุตามวันเกิด แต่จะนับอายุตามการเริ่มศักราชใหม่ในช่วงสงกรานต์ หากปีใดมีโรคภัยหรือถึงเวลาต้องเปลี่ยนทักษา โดยเฉพาะเหล่าเจ้านายจะทำพิธีส่งเทวดาเก่าและรับเทวดาใหม่ เชื่อว่าจะนำพามาซึ่งสิริมงคลในศักราชใหม่

สำหรับประติมากรรมเทพนพเคราะห์ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบของเทพนพเคราะห์ไทย มีลักษณะการแต่งกายคล้ายกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 ของสำนักหอสมุดแห่งชาติ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรูปแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพบนบานประตูหน้าต่างภายในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ทรงมีส่วนร่วมในการควบคุมการก่อสร้าง
ความพิเศษของประติมากรรมชุดนี้คือการถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ออกมาเป็นประติมากรรมลอยตัวที่แสดงท่าทางและลักษณะได้อย่างสมจริง มีชีวิตชีวา และรักษาเอกลักษณ์ของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างชัดเจน สันนิษฐานว่าประติมากรรมชุดนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา โดยเปรียบเทียบลักษณะประติมานวิทยากับภาพในสมุดไทยและรูปสัตว์ที่มีความเหมือนจริงเนื่องจากอิทธิพลจากตะวันตก ส่วนเทพนพเคราะห์ทั้ง 9 องค์นั้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง Sarakadee Lite จะพาไปทำความรู้จัก

พระอาทิตย์
พระอาทิตย์ถือเป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจสูงสุดเหนือเทพนพเคราะห์ทั้งปวง เนื่องจากกำเนิดมาจากการที่พระอิศวรทรงใช้ราชสีห์ 6 ตัว บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีแดง และพรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษผิวสีแดง ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีนิสัยเด็ดขาด รักอิสระ แต่มีความซื่อสัตย์ เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี และเป็นศัตรูกับพระอังคาร

พระจันทร์
พระจันทร์เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากเทพธิดา 15 นาง บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีขาวนวล และพรมด้วยน้ำอมฤตจนกลายเป็นบุรุษรูปงาม ผิวขาวนวล ทรงม้าเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศตะวันออก จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีอารมณ์อ่อนโยน ชอบเพ้อฝัน และอาจมีเล่ห์เหลี่ยม พระจันทร์เป็นมิตรกับพระพุธ และเป็นศัตรูกับพระพฤหัสบดี

พระอังคาร
เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากควาย 8 ตัว บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีชมพูหม่น และพรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษผิวสีทองแดง ทรงกระบือเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศตะวันออกเฉียงใต้ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีนิสัยมุทะลุ หุนหันพลันแล่น ชอบใช้กำลัง และใจร้อน เป็นมิตรกับพระศุกร์ และเป็นศัตรูกับพระอาทิตย์

พระพุธ
เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงใช้ช้าง 17 เชือก บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ และพรมด้วยน้ำอมฤตจนกลายเป็นบุรุษผิวสีเขียว ทรงช้างเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศใต้ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีนิสัยช่างพูด ช่างเจรจา สุขุม รอบคอบ แต่ขี้ตกใจง่าย เป็นมิตรกับพระจันทร์ และเป็นศัตรูกับพระราหู

พระพฤหัสบดี
พระอิศวรทรงสร้างพระพฤหัสบดีจากฤษี 19 ตน บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีส้มแดง และพรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษผิวสีส้มแดง ทรงกวางเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศตะวันตก จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีนิสัยสุขุม รอบคอบ ใจดี และเมตตาต่อผู้อื่น เป็นมิตรกับพระอาทิตย์ และเป็นศัตรูกับพระจันทร์ พระพฤหัสบดีถือเป็นครูของเทพทั้งปวง จึงเป็นที่มาของประเพณีไหว้ครูในวันพฤหัสบดี

พระศุกร์
พระศุกร์เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากวัว 21 ตัว บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน และพรมด้วยน้ำอมฤตจนกลายเป็นบุรุษผิวสีฟ้า ทรงวัวเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศเหนือ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีนิสัยอ่อนหวาน น่ารัก ชื่นชอบงานศิลปะทุกแขนง เป็นมิตรกับพระอังคาร และเป็นศัตรูกับพระเสาร์ นอกจากนี้พระศุกร์ยังถือเป็นครูของเหล่ายักษ์อีกด้วย

พระเสาร์
เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากเสือ 10 ตัว บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีดำ และพรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษผิวสีดำคล้ำ ทรงเสือเป็นพาหนะ อยู่ประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีนิสัยดุดัน แข็งแรง กล้าหาญ และมีบุคลิกเคร่งขรึม เป็นมิตรกับพระราหู และเป็นศัตรูกับพระศุกร์

พระราหู
เป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากหัวกะโหลก 12 หัว หรือบางตำรากล่าวว่าสร้างจากผีโขมด 12 ตัว บดเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีทอง และพรมด้วยน้ำอมฤตจนกลายเป็นพระราหูที่มีกายสีนิลอมทองแดง ทรงครุฑเป็นพาหนะ มีวิมานสีนิลลอยอยู่ในอากาศ อยู่ประจำทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จัดเป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มักให้ผลในทางลุ่มหลงและมัวเมา เป็นมิตรกับพระเสาร์ และเป็นศัตรูกับพระพุธ

พระเกตุ
พระเกตุเป็นเทพนพเคราะห์ที่พระอิศวรทรงสร้างจากพญานาค 9 ตัว มีกายสีทองคำ ทรงนาคเป็นพาหนะ และมีวิมานสีดอกบุษบา หรือสีเปลวไฟ อยู่ประจำทิศท่ามกลาง บางตำรากล่าวว่าพระเกตุเกิดจากหางของพระราหูที่ถูกตัดขาดเมื่อพระอินทร์ขว้างจักรลงมา เนื่องจากพระราหูขโมยดื่มน้ำอมฤต แม้พระราหูจะไม่ตายเพราะอำนาจน้ำอมฤต แต่หางที่ขาดก็กลายเป็นพระเกตุ ซึ่งไม่เสวยอายุโดยตรง แต่จะเข้ามาแทรกเพื่อบรรเทาความร้ายและเสริมความดี