ศีล 5 ถือเป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานที่สำคัญสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆ ที่มีผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก ศีล 5 นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของหลักปฏิบัติ ก่อนจะก้าวไปสู่ศีล 8, ศีล 10 และศีล 227 ข้อสำหรับพระสงฆ์
ก่อนที่จะเจาะลึกรายละเอียดของศีลทั้ง 5 ข้อ เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่มาของหลักปฏิบัตินี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งหลักปฏิบัตินี้มีความสัมพันธ์กันและครอบคลุมทุกด้านของการใช้ชีวิตของมนุษย์
ความเป็นมาของศีล 5
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา พบว่า “ศีล” เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของพระเจ้าสมสติราช ซึ่งไม่สามารถระบุปีที่แน่ชัดได้เนื่องจากเป็นเวลาที่นานมากแล้ว ในครั้งนั้น ศีลข้อที่ 2 คือ ห้ามลักทรัพย์ เกิดขึ้นก่อน ตามมาด้วยศีลข้อที่ 3 คือ ห้ามประพฤติผิดในกาม เมื่อมีการละเมิดศีลทั้งสองข้อนี้ จึงเกิดการโกหก หลอกลวง และไม่ยอมรับผิด จนนำไปสู่ศีลข้อที่ 4 คือ ห้ามพูดเท็จ และเมื่อความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นมีการฆ่าฟันกัน จึงเป็นที่มาของศีลข้อที่ 1 คือ ห้ามฆ่าสัตว์
ศีลข้อที่ 5 คือ ห้ามดื่มสุรา ตามตำนานเล่าว่าเกิดขึ้นจากเหตุการณ์บังเอิญ มีคนพบน้ำขังอยู่ตามง่ามไม้ เมื่อสังเกตเห็นนกดื่มน้ำนั้นแล้วเกิดอาการเมาและพยายามบินขึ้นสู่ท้องฟ้า คนที่พบจึงลองดื่มและรู้สึกสนุกสนาน จึงนำน้ำนั้นไปศึกษาส่วนประกอบ ต่อมาศีลทั้ง 5 ข้อได้กลายเป็นกฎเกณฑ์สำคัญสำหรับบ้านเมืองและผู้มีปัญญา
กุรุธรรม
เมื่อเวลาผ่านไป พระพุทธศาสนาได้เกิดขึ้น พระพุทธเจ้าจึงทรงนำบทบัญญัติเหล่านี้มาเป็นหลักปฏิบัติสำหรับพุทธบริษัท เริ่มจากอุบาสกและอุบาสิกา ศีล 5 ถือเป็นเรื่องที่ง่ายแต่ยากต่อการปฏิบัติสำหรับคนไทย อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตของคนไทยมักขัดกับหลักศีล 5 จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทำให้การยึดถือศีล 5 เป็นเรื่องท้าทาย และบางคนอาจทำได้ไม่ครบทุกข้อ
ความหมายของศีล
เมื่อทราบที่มาของหลักปฏิบัติที่เรียกว่า "ศีล 5" แล้ว เราอาจสงสัยว่าแท้จริงแล้วคำว่า "ศีล" นั้นมีความหมายว่าอย่างไร
- ศีล หมายถึง "เจตนา" หรือความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำผิดทางกาย 3 ประการ (ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ลักทรัพย์, ไม่ประพฤติผิดในกาม) และทางวาจา 4 ประการ (ไม่พูดเท็จ, ไม่พูดหยาบคาย, ไม่พูดส่อเสียด, ไม่พูดเพ้อเจ้อ)
- ศีล ยังหมายถึง "เจตสิก" ซึ่งคือการงดเว้นจากความคิดชั่วร้าย 3 ประการ (ความโลภ, ความพยาบาท, ความเห็นผิด)
- ศีล คือการสำรวมระวังและปิดกั้นไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้น
- ศีล คือการไม่ละเมิดกฎหรือข้อห้ามที่กำหนดไว้
เมื่อรวมกันแล้ว ศีล 5 จึงมีความหมายที่เชื่อมโยงกับความเป็นมนุษย์และความสงบสุข เป็นหลักการที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยอาศัยสามัญสำนึกที่ตระหนักว่า หากเรารักตัวเอง ต้องการความสุขและความปลอดภัย คนอื่นก็ย่อมมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีพระพุทธศาสนาหรือพระพุทธเจ้า ศีล 5 ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่มีเหตุผลและสามารถควบคุมตนเองได้ สิ่งนี้ทำให้เมื่อมนุษย์มีศีล 5 ครบถ้วน ความเป็นมนุษย์ก็สมบูรณ์ ทั้งทางกายและวาจา แต่หากขาดศีล 5 ความเป็นมนุษย์ก็จะลดลง

ศีล 5 ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ศีล 5 ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 ข้อที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างมนุษย์และสัตว์ได้อย่างชัดเจน ดังต่อไปนี้
- ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ : มนุษย์โดยปกติจะไม่ทำร้ายหรือฆ่าผู้อื่น ซึ่งต่างจากสัตว์เช่นเสือหรือสิงโตที่ล่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร นี่คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์
- ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย : มนุษย์เข้าใจเรื่องกรรมสิทธิ์และไม่ลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือสิ่งที่เป็นนามธรรม ในขณะที่สัตว์เช่นสุนัขอาจแย่งอาหารจากสัตว์อื่นทันทีที่ต้องการ การลักขโมยจึงเป็นการสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
- ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม : มนุษย์รู้จักควบคุมความต้องการของตัวเองและรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ต่างจากสัตว์เช่นสุนัขที่อาจแย่งตัวเมียจากตัวผู้อื่นเมื่อฮอร์โมนทำงาน
- ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ : มนุษย์ไม่หลอกลวงหรือใช้คำพูดทำร้ายผู้อื่น ต่างจากสัตว์เช่นสุนัขที่อาจเห่าใส่คนแปลกหน้าโดยไม่มีเหตุผล
- ตั้งใจงดเว้นจากการดื่มสุรา : สัตว์ใหญ่มีพละกำลังมากแต่มักขาดสติในการควบคุมตนเอง มนุษย์มีสติสัมปชัญญะที่ช่วยให้ใช้กำลังกายเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำความดีได้ แต่เมื่อดื่มสุรา มนุษย์จะขาดสติและอาจทำสิ่งเลวร้ายได้ ศีลข้อนี้จึงสำคัญที่สุดเพราะการขาดสติอาจนำไปสู่การละเมิดศีลข้ออื่นๆ ด้วย
เหตุใดเราจึงต้องรักษาศีล 5
- ข้อที่ 1: ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีคุณค่า เราจึงไม่ควรทำร้ายหรือทำลายความเป็นอยู่ของผู้อื่น
- ข้อที่ 2: สิ่งของของใครก็เป็นที่รักและหวงแหนของเจ้าของ ไม่ควรลักขโมยหรือทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น เพราะนั่นคือการทำลายทั้งทรัพย์สมบัติและจิตใจ
- ข้อที่ 3: ลูก หลาน สามี ภรรยา เป็นที่รักและหวงแหนของครอบครัว ไม่ควรล่วงละเมิดหรือทำร้ายจิตใจผู้อื่น เพราะนั่นคือบาปที่ไม่มีขอบเขต
- ข้อที่ 4: การพูดเท็จหรือโกหกเป็นการทำลายความเชื่อใจของผู้อื่น แม้แต่สัตว์ก็ไม่พอใจกับการถูกหลอกลวง ดังนั้นเราจึงไม่ควรโกหกหรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย
- ข้อที่ 5: สุราและยาเสพติดเป็นสิ่งมึนเมาที่ทำลายสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การดื่มหรือเสพบ่อยๆ อาจทำให้คนดีกลายเป็นคนเสียได้ ผู้ที่ต้องการเป็นคนดีและมีสติจึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ เพราะนอกจากจะทำลายตัวเองแล้วยังอาจทำร้ายผู้อื่นได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการรักษาศีล 5
- ช่วยให้มีอายุยืนยาวและปราศจากโรคภัย
- ทรัพย์สินจะปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายที่อาจมาทำลาย
- ครอบครัวจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่มีใครมารุกล้ำหรือสร้างปัญหา
- คำพูดจะมีความน่าเชื่อถือและไพเราะ เป็นที่ประทับใจของผู้ฟัง
- จะมีความเฉลียวฉลาดและมีสติปัญญาดี ไม่หลงทางหรือทำสิ่งไร้เหตุผล ผู้มีศีลจะสร้างความสุขให้กับผู้อื่น ในขณะที่ผู้ไม่มีศีลจะสร้างความทุกข์ให้กับคนและสัตว์รอบตัว
ก่อนสวดมนต์หรือนั่งสมาธิทุกครั้ง ควรสวดอาราธนาศีล 5 และสมาทานศีล 5 เพราะศีล 5 เป็นพื้นฐานสำคัญของมนุษย์ การสวดมนต์ทุกวันจะช่วยให้เราระลึกถึงสิ่งที่ควรและไม่ควรทำ แต่หากไม่ปฏิบัติตามศีล 5 การสวดมนต์ก็จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
แนะนำบทสวดมนต์ไหว้พระที่ควรสวด ควรเริ่มต้นด้วยบทสวดเหล่านี้เป็นพื้นฐานก่อนสวดบทอื่นๆต่อไป
- คำบูชาพระ
- คำนมัสการพระรัตนตรัย
- คำนมัสการพระพุทธเจ้า
- คำอาราธนาศีล 5
- คำนมัสการไตรสรณคมน์
- คำสมาทานศีล 5
คำอาราธนาศีล 5
(หากสวดคนเดียว ให้เปลี่ยน "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")
มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะศีลานิยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะศีลานิยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะศีลานิยาจามะ
คำสมาทานศีล 5
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทเพื่อละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ทั้งการทำเองและการใช้ให้ผู้อื่นทำ)
อะทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทเพื่อละเว้นจากการลักขโมยหรือฉ้อโกง ทั้งการทำเองและการใช้ให้ผู้อื่นทำ)
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทเพื่อละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทเพื่อละเว้นจากการพูดเท็จ คำหลอกลวง หรือคำอำพรางผู้อื่น)
สุราเมระยะมัจฉะปะมาทะถานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าสมาทานสิกขาบทเพื่อละเว้นจากการดื่มสุราและเครื่องดองของเมาทุกชนิด)
การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องยาก หากเราปฏิบัติตามหลักของ ศีล 5 อย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ แม้ไม่มีใครจะสมบูรณ์แบบ 100% ได้ในทันที แต่การเริ่มต้นและค่อยๆ ปรับปรุงตนเองจะนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติม DMC.tv, Gotoknow.org และ dhammasavana.or.th