การขอขมาพ่อแม่และการรดน้ำขอพรในช่วงวันปีใหม่ไทย เป็นประเพณีที่สำคัญ โดยเฉพาะการรดน้ำดำหัวและการขอพรจากผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ พิธีล้างเท้าพ่อแม่และผู้มีพระคุณในวันสงกรานต์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในช่วงเทศกาลนี้ การขอขมาพ่อแม่ตามธรรมเนียมโบราณเป็นการแสดงความกตัญญูและขออภัยโทษจากผู้มีพระคุณ เพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีและเสริมมงคลให้ชีวิต เป็นการปลดปล่อยจากกรรมเก่าและสร้างกรรมดีให้มากขึ้น ซึ่งประเพณีรดน้ำดำหัว เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานในวันปีใหม่ไทย เพื่อรับคำอวยพรและเสริมสิริมงคลให้ชีวิต ประเพณีนี้ยังคงมีความสำคัญและคุณค่าจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคนไทยไม่ควรละเลย

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
๑. พานธูปเทียนแพ หรือพวงมาลัย ๑ พวง
๒. ซองใส่เงินให้พ่อแม่ จำนวนเท่าไหร่ก็ได้ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู
๓. ชุดใหม่สำหรับพ่อแม่ โดยเฉพาะชุดนอนหรืออาหารที่ท่านชอบ
๔. กะละมังใบใหม่ใส่น้ำอุ่น อาจเติมดอกมะลิหรือน้ำอบเพื่อให้หอม
๕. ผ้าเช็ดมือและเช็ดเท้าผืนใหม่
๖. ผ้าขาวดิบ
๗. ถาดใส่ของ (ควรปูด้วยผ้าขาวดิบ)
(หากไม่สามารถเตรียมสิ่งของเหล่านี้ได้ สามารถทำเพียงการน้อมจิตตั้งใจและกล่าวคำขอขมาก็ได้)

ลำดับการปฏิบัติในพิธี
๑) เริ่มต้นด้วยการน้อมจิต กล่าวนะโม ๓ ครั้ง เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย และพระคุณของพ่อแม่ จากนั้นกล่าวคำขอขมาดังต่อไปนี้
อนันตะ คุณะสัมปันนา ชะเนติ ชะนะกาอุโภมัยหัง
มาตาปิตุนัง วะปาเท วันทา มิ สาทะรัง
หากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ลูกได้กระทำสิ่งใดที่ไม่เหมาะสมต่อคุณพ่อคุณแม่ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ลูกขอขมาและขออภัยโทษจากท่านทั้งสอง
ลูกขอให้คุณพ่อคุณแม่โปรดอโหสิกรรมให้ลูกด้วย และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกสัญญาว่าจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ดีเช่นเดิมอีก หากลูกทำผิดพลาดหรือประพฤติไม่เหมาะสม ขอให้ท่านได้โปรดตักเตือนและสอนลูกด้วย วันนี้เป็นวันมงคล ลูกขอน้อมรับคำอวยพรจากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตของลูก
ขอบุญกุศลที่คุณพ่อคุณแม่ได้สร้างไว้จงดลบันดาลให้ลูกได้รับพรอันประเสริฐ ขอให้การกระทำนี้เป็นเครื่องบูชาพระพุทธเจ้า และขอให้เศษกรรมทั้งหลายไม่ติดตามไปในภพหน้า ตั้งแต่บัดนี้จนกว่าจะบรรลุพระนิพพาน
หรือจะกล่าวดังนี้ ....
“กรรมใดที่ลูก (หรือกระผม / หนู) ได้ทำผิดพลาดต่อพ่อและแม่ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ การพูด หรือความคิด ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งในชาตินี้และทุกชาติที่ผ่านมา ลูก (หรือกระผม / หนู) ขอขมาและขออโหสิกรรมจากพ่อและแม่ ขอให้ท่านโปรดให้อภัยแก่ลูก (หรือกระผม / หนู) ด้วยเถิด” (ไม่จำเป็นต้องกล่าวตามนี้ทุกคำ)
เมื่อกล่าวจบแล้ว ให้ยกสิ่งของที่เตรียมไว้เพื่อขอขมา จากนั้นพ่อและแม่จะกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม” พร้อมทั้งให้พรในสิ่งดีๆ แก่เรา เมื่อรับพรแล้วให้กราบเท้าท่าน ๕ ครั้ง (๕ ครั้งนี้หมายถึงการน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณแม่ และพระคุณพ่อ)

๒) การล้างเท้า พ่อและแม่
๒.๑) เตรียมน้ำมนต์ที่ได้จากพระสงฆ์แยกไว้ในถังต่างหาก
๒.๒) ล้างเท้าท่านให้สะอาดก่อน จากนั้นให้ท่านนั่งวางเท้าในกะละมังใบใหญ่ ใช้น้ำสะอาดราดรดเท้าท่านให้ท่วมหลังเท้า ขอให้ท่านกล่าวคำอวยพรให้เรามีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง และพ้นจากความทุกข์ เมื่อล้างเท้าพ่อและแม่เสร็จแล้ว ให้กราบเท้าท่านอีกท่านละ ๕ ครั้ง
๓) การอาบน้ำ ด้วยการนำน้ำที่ล้างเท้าพ่อและแม่
๓.๑) นำน้ำที่ล้างเท้าของพ่อและแม่มาอาบในช่วงเช้าหรือกลางวันในบริเวณกลางแจ้ง ราดน้ำจากศีรษะลงมาถึงเท้าและลงถึงพื้นดิน เพื่อให้ครบองค์ประกอบของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยเท้าเหยียบพื้นดิน ร่างกายสัมผัสน้ำ ลม และแสงแดด
๓.๒) เมื่ออาบน้ำที่ได้จากพ่อแม่เสร็จแล้ว ให้อาบน้ำมนต์ต่อ (หากมี) เพื่อล้างอาถรรพ์และเสริมมงคลชีวิต จากนั้นเช็ดตัวให้แห้งและสวมเสื้อผ้าที่เตรียมไว้

หมายเหตุ
พิธีขอขมากรรมจะบรรลุผลได้ต้องมีทั้งผู้ขอและผู้ให้อโหสิกรรม โดยผู้ขอขมากรรมคือเราเอง ซึ่งต้องปฏิบัติให้ครบทั้งทางกาย วาจา และใจ วิธีการคือให้พ่อและแม่นั่งบนเก้าอี้ จากนั้นเตรียมกะละมังใส่น้ำ นำเท้าของท่าน (ทีละคน) แช่ลงในน้ำแล้วใช้มือล้างให้สะอาด เมื่อเสร็จแล้วนั่งคุกเข่าพนมมือ ตั้งใจกล่าวคำขอขมา จากนั้นพ่อและแม่จะกล่าวคำว่า “ให้อโหสิกรรม” สุดท้ายให้นำน้ำที่ล้างเท้าท่านมาล้างหน้าและลูบหัว เพื่อเสร็จสิ้นพิธี
วิธีการทั้งหมดนี้ถือเป็นเคล็ดลับอันศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ น้ำที่ใช้ล้างเท้าบิดามารดานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งสำหรับลูก บรรพบุรุษถือว่าการกระทำนี้เป็นการแสดงความกตัญญูและขอขมาสำหรับความผิดพลาดที่เคยกระทำต่อผู้มีพระคุณ โดยเป็นการคารวะต่อบุพพการีผู้เปรียบเสมือนพระอรหันต์ในชีวิตของเรา