เครื่องรางที่เป็นของขลังยอดฮิตเป็นที่รู้จักกันดี เมื่อไปเที่ยวใครๆ ก็ซื้อไปฝากญาติพี่น้องหรือเพื่อนๆ กันจนกลายเป็นเรื่องปกติ แม้แต่คนญี่ปุ่นยังพกเครื่องรางเป็นพวงเลยทีเดียว นอกจากประเภทของเครื่องรางที่หลากหลายจนทำให้ตกใจแล้ว สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เครื่องรางก็มีวันหมดอายุด้วยนะ! แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ?

เครื่องรางมีอายุ 1 ปี
โดยทั่วไปแล้วเครื่องรางจะมีอายุประมาณ 1 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อหมดอายุแล้วจะไม่ได้ผลนะคะ แต่ถึงแม้จะสมหวังหรือไม่สมหวังจากสิ่งที่ขอ ก็แนะนำให้กำจัดเครื่องรางเมื่อถึงเวลา เช่นถ้าเป็นเครื่องรางที่ขอพรเฉพาะ เช่น ขอให้สอบผ่านหรือขอให้คลอดลูกปลอดภัย ก็จะดีที่สุดถ้าเรานำไปกำจัดเมื่อครบกำหนดค่ะ
แล้วเราจะดูวันหมดอายุจากที่ไหน? โดยทั่วไปแล้วคนญี่ปุ่นจะนำเครื่องรางเก่ากลับไปคืนเมื่อสิ้นปี เพื่อแลกเครื่องรางใหม่และต้อนรับปีใหม่ ด้วยความเชื่อในสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในปีใหม่นั่นเองค่ะ

หากได้มาจากที่ไหน ควรนำไปคืนที่นั่น
เครื่องรางมีทั้งที่มาจากศาลเจ้าและจากวัด หากเรารับเครื่องรางมาจากที่ใด ก็ควรนำไปคืนที่นั่น พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณเครื่องรางสำหรับการดูแลเรามาตลอดหนึ่งปี และถ้าเราสามารถนำไปคืนด้วยตัวเองจะดีมาก ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการอะไรเลยค่ะ
ที่ศาลเจ้าหรือวัดจะมีที่สำหรับใส่เครื่องรางเก่าพร้อมป้ายเขียนว่า “古神符納め所” หรือ “お焚き上げ” ให้เรานำไปคืนที่นั่นค่ะ หากต้องการสามารถใส่เงินที่เท่ากับเครื่องรางไปกับเครื่องรางที่นำไปคืนได้ (แต่ไม่บังคับ) เพื่อเป็นการขอบคุณเครื่องรางที่ดูแลเรามาตลอดปีค่ะ

หากไม่ได้อยู่ใกล้ศาลเจ้าหรือวัดที่รับเครื่องรางมา ก็สามารถนำไปคืนที่ศาลเจ้าหรือวัดที่สะดวกไปได้ แต่อย่าลืมว่าให้นำไปคืนที่เดิมจะดีที่สุด ถ้าได้รับจากศาลเจ้าก็นำไปคืนที่ศาลเจ้า หากได้รับจากวัดก็ให้นำไปคืนที่วัดค่ะ
บางท่านอาจสงสัยว่าหากนำไปคืนที่วัดนิกายอื่นจะได้ไหม? ถ้าหากไม่มั่นใจ แนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน หรือถามผู้เกี่ยวข้องที่จุดชำระเงินหรือที่สถานที่นั้นๆ เพื่อความชัวร์ค่ะ
ถ้าไม่สามารถไปด้วยตนเองหรือทำลายเครื่องรางเองได้ล่ะก็...ถ้าไม่สามารถไปคืนที่เดิมหรือที่อื่นๆ ได้ ก็สามารถส่งคืนทางไปรษณีย์ได้ค่ะ (ทำไมไม่บอกแต่แรกนะ?) หากไม่ทำตามวิธีที่กล่าวไว้ข้างต้น สามารถเลือกส่งคืนทางไปรษณีย์ได้เลยค่ะ (จริงๆ แล้ว) และสามารถสอบถามรายละเอียดจากศาลเจ้าหรือวัดได้ เพื่อความชัดเจน ไม่เป็นการรบกวนแต่อย่างใดค่ะ
เมื่อเลือกส่งไปรษณีย์ ควรแนบค่าธรรมเนียมเท่ากับมูลค่าของเครื่องรางที่ส่งคืน และสามารถแลกเงินได้ที่ทำการไปรษณีย์ค่ะ อย่าลืมเขียนจดหมายขอบคุณเครื่องรางที่ดูแลเรามาตลอด และแนบไปกับเครื่องรางที่ส่งคืน ที่ซองควรเขียนกำกับว่า “お焚き上げ依頼” (สำหรับส่งคืนศาลเจ้า) หรือ “焼納依頼” (สำหรับส่งคืนที่วัด) ด้วยค่ะ
หรือจะเลือกกำจัดเครื่องรางด้วยตัวเองก็ได้ค่ะ> กำจัดโดยการเผา
หากวิธีการทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วยังรู้สึกว่าไม่สะดวกหรือยุ่งยากเกินไป คุณสามารถทำลายได้เองง่ายๆ เพียงแค่ห่อวัตถุด้วยกระดาษสีขาวที่ใช้สำหรับการเขียนพู่กันแบบญี่ปุ่นขนาด 35x25 ซม. แล้วโรยเกลือประมาณ 1 หยิบมือ ก่อนนำไปเผาได้เลยค่ะ
> วิธีการกำจัดโดยการทิ้ง
สำหรับบางคนที่ไม่อยากเผาหรือรู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยากก็สามารถทิ้งวัตถุเหล่านี้ลงถังขยะได้ (หากไม่ได้รู้สึกเสียดายมากเกินไป) ให้ทำตามขั้นตอนที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ แต่แทนที่จะเผา ก็ให้ทิ้งไปแทน พร้อมกับส่งความรู้สึก “ขอบคุณ” ด้วยนะคะ (อย่าลืมเชียวนะ)
สรุปสุดท้าย
- เครื่องรางจะมีพลังอยู่ได้ 1 ปี
- เมื่อครบปีแล้วให้ส่งคืน
- หากไม่สามารถคืนที่เดิมได้ให้ไปยังศาลเจ้าหรือวัดที่ใกล้ที่สุด
- หากต้องการทำลายเอง ควรเตรียมผ้าขาวและเกลือให้พร้อม
- สามารถส่งคืนทางไปรษณีย์ได้
การเก็บสะสมสิ่งของเก่าๆ เอาไว้นั้นไม่ใช่เรื่องที่มีผลร้ายแรงแต่อย่างใด แต่ตามความเชื่อกล่าวไว้ว่าของที่เสื่อมสภาพแล้วหากเก็บไว้กับตัวก็เหมือนการสูญเสียประโยชน์ไป หากนำสิ่งเหล่านั้นไปคืนและเลือกซื้อของใหม่เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และเดินหน้าต่อไป อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะคะ
