Buzz
"พระคเณศาณี" เทพแห่งความเจริญ พระพิฆเนศในปางหญิงที่เรียกว่า Ganeshani หรือ คเณศาณี หรือ คเณศารี พบในอินเดีย, ทิเบต, มองโกเลีย, บาหลี บางแห่งใช้ชื่อ Gajanani หรือ กันจานานี และ กันจานารี เชื่อว่าพระคเณศาณีเป็นหนึ่งใน 64 โยคินี
มีการค้นพบลักษณะอื่นของพระคเณศาณีในรูปแบบที่แตกต่างจากคำพรของพระฤาษี ที่มอบความสามารถในการปราบมาร คือ พระคเณศาณีที่มีเศียรเป็นคณปติรูปเพศหญิง อกใหญ่ เอวเล็กงดงามอย่างเทพี และท่อนล่างเป็นเสือหรือราชสีห์ เรียกว่า yaghrapada Ganeshni หรือ วยัฆปาทาคเณศาณี ซึ่งมีนักธุรกิจหนุ่ม“อานนท์ วงษ์สมบัติ” และ “จีรวัฒน์ เฉิดเรียง” เป็นผู้นำเข้าพระคเณศาณี (มหาคณปติเทวีเทพ) ปางอิสตรีรายแรกในประเทศไทย
การบูชาพระคเณศาณีเพื่อ ขอบุตร ความรัก อำนาจ ร่ำรวย และสติปัญญา ซึ่งพรนี้ "พระคเณศาณี" ได้รับพรจากความรักของพระแม่ทั้งสาม (ตรีศักติ)
- แม่อุมาเทวีประทานพร อำนาจและวาสนา
- แม่ลักษมีประทานพร ความมั่งคั่งและโชคลาภ
- แม่สรัสวดีประทานพร ปัญญาและความอุดมสมบูรณ์
การบูชาองค์พระคเณศาณีเปรียบเสมือนการบูชาทั้งสี่เทพแห่งความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง
ด้วยความรักและความศรัทธาที่มีต่อการบูชา พระพิฆเนศปางหญิงจะนำพาความสำเร็จในชีวิต พร้อมทั้งโชคลาภ มหาบารมี สุขภาพแข็งแรง และการพัฒนาในทุกด้าน ทั้งการเงิน การงาน การค้าขาย จะได้รับโชคลาภทวีคูณ และสมปรารถนาในทุกเรื่อง ไม่ว่าคุณจะเชื่อในพลังของ องค์พระคเณศาณี หรือไม่ ท่านจะช่วยให้มีความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตทั้งทางการเงินและสุขภาพ
ทิศทางที่เหมาะสมในการตั้งพระพิฆเนศ และ พระคเณศาณี
- หากเป็นที่พักอาศัย ทิศที่ดีที่สุดคือให้พระพิฆเนศหันไปทางทิศตะวันออก แต่สามารถยึดทิศใดก็ได้
- เมื่อทำการตั้งศาลหรือเทวสถาน ห้ามตั้งพระพิฆเนศและพระคเณศาณีหันไปทางทิศตะวันตกเท่านั้น
- ห้ามตั้งพระพิฆเนศและพระคเณศาณีให้พิงกับผนังห้องน้ำหรือห้องครัว
- ในห้องนอน ห้ามตั้งพระพิฆเนศและพระคเณศาณีที่อยู่ปลายเท้าหรือห้ามตั้งตรงกับหน้าประตูห้องน้ำ
- สามารถตั้งบนตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงาน หรือชั้นหนังสือ โดยควรปูผ้าหรือวางบนพาน หรือจัดแท่นให้สูงขึ้นตามความเหมาะสม ไม่ควรวางไว้ในที่ต่ำ
(ขอพร) ร่ำรวยทันที
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ (3 จบ)
โอม ศรี คเณศาณี เดวี นะมะ ฮา (3 จบ)
ชื่อ-สกุล ขอพร...........หากสิ่งที่ข้าพเจ้าขอเป็นจริงตามที่หวัง ข้าพเจ้าจะบูชา องค์พระคเณศาณี เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตัวเองและครอบครัว และจะถวาย หนูมุสิกะ จำนวน...(กี่คู่).......เป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระคเณศาณีเพื่อเป็นบริวารและพาหนะ โอม ศานติ ศานติ ศานติ (3 จบ)
วิธีการบูชาพระพิฆเนศและพระคเณศาณีให้ถูกต้อง
หากไม่สะดวกในการจัดเตรียมสิ่งของสำหรับบูชาอย่างเต็มที่ การบูชาพระพิฆเนศก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องยิ่งใหญ่ โดยสามารถเตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการสวดบูชาในทุกๆ วัน โดยสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมสำหรับการบูชาพระพิฆเนศมีดังนี้
1. ภาพถ่าย หรือ รูปปั้นของพระพิฆเนศที่ท่านใช้ในการบูชา
2. ธูปหรือกำยาน (สามารถเลือกใช้ได้ทั้งสองอย่างหรือเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง)
หากใช้กำยานแท่งให้ใช้ 1 อัน และสามารถเลือกกลิ่นได้ตามต้องการ ถ้าใช้กำยานผงให้ตักใส่โถตามความเหมาะสม
หากใช้ธูปสามารถใช้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ...ขอย้ำว่าใช้กี่ดอกก็ได้ เพราะในประเพณีฮินดูจริงๆ แล้วไม่มีการกำหนดจำนวนธูปที่แน่นอน เนื่องจากจุดธูปคือการถวายกลิ่นหอมให้เทพ และควันธูปจะเป็นสื่อนำคำอธิษฐานไปยังเทพ หากต้องการประหยัดก็ใช้แค่ 1 ดอกก็ได้ และยังช่วยลดโลกร้อนด้วย ในความเป็นจริงคนไทยบางคนเข้าใจว่าธูป 1 ดอกใช้สำหรับไหว้ศพ แต่ชาวฮินดูไม่จำกัดจำนวนธูป หากจะสะดวกใจใช้ 3 ดอก 5 ดอก หรือ 9 ดอกตามประเพณีไทยก็ได้
3. กระถางธูปหรือแท่นวางกำยาน ใส่ดินหรือผงธูปลงในกระถางเพื่อสามารถปักธูปได้ สำหรับแท่นวางกำยานมีหลายแบบ เช่น กระเบื้องเซรามิก ดินเผา ทองเหลือง หรือถ้าหาซื้อยากสามารถใช้ถ้วยเล็กๆ แบบใส่พริกน้ำปลาแทนได้
4. ประทีป (ไฟ, เทียน, ตะเกียงน้ำมัน, การบูร) ใช้สำหรับเป็นแสงสว่าง ควรเตรียมให้มี 2 ดวงสำหรับซ้ายและขวา หรือเลือกใช้เทียน 2 เล่ม หากใช้เทียนให้ปักลงบนแท่นอย่างถูกต้อง หรือหากใช้ตะเกียงน้ำมันให้ตรวจสอบน้ำมันให้เพียงพอ
เครื่องสังเวย
1. ดอกไม้
สามารถถวายได้ทุกชนิด ควรเลือกใช้ดอกไม้สด เช่น ดอกบัว ซึ่งได้รับการยกย่องในบทสวดของเทพเจ้าต่างๆ ที่กล่าวว่า
"ขอน้อมบูชาเทพผู้มีพระบาทงดงามดั่งดอกบัว" เป็นการยกย่องความงามของพระบาทของทวยเทพ ดอกไม้อื่นๆ เช่น ดาวเรือง มะลิ กุหลาบทุกสี ก็สามารถนำมาถวายได้ ขอแค่สด สะอาด และมีกลิ่นหอม
2. น้ำสะอาด
น้ำสะอาดต้องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ห้ามใช้ขวดน้ำที่เคยเปิดแล้ว ควรเตรียมน้ำในขวดแยกต่างหากสำหรับการถวายเทพ โดยน้ำควรถูกเทใส่ในแก้วเล็กๆ ซึ่งแก้วนี้จะใช้ถวายเทพโดยเฉพาะ
3. นมสด
(หากไม่สามารถหานมสดได้ ก็สามารถถวายด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว) นมที่ใช้ถวายควรเป็นนมสดที่ไม่มีการปรุงแต่งรส เช่น รสช็อคโกแล็ต หรือรสผลไม้ต่างๆ ควรเป็นนมจืด หรือหากถวายโยเกิร์ต ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซึ่งเป็นการทำมาจากนมเปรี้ยวแบบโบราณ หากใช้เป็นนมกล่องสามารถเสียบหลอดไว้ได้ หรือถ้าจะสะดวกมากขึ้นก็ควรเทใส่แก้ว
4. ผลไม้
สามารถถวายผลไม้ได้ทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องแพง ควรเลือกผลไม้ตามฤดูกาล เช่น กล้วย อ้อย สาลี่ ชมพู่ มะขวิด ผลหว้า หรือมะพร้าวผ่าซีก นำมาจัดใส่ในถาดหรือจานสะอาด หากซื้อมาเป็นกิโลแล้วแช่เย็นไว้สามารถแบ่งออกมาถวายได้อย่างเหมาะสมตามเศรษฐกิจในปัจจุบัน
5. ขนมหวาน
ห้ามใช้ขนมที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เช่น แซนวิชหมูหยอง ควรใช้ขนมที่ทำจากแป้งและมีรสหวานมัน เน้นน้ำตาลและกะทิ จัดใส่ถาดหรือจานสะอาด ปัจจุบันสามารถอนุโลมให้มีไข่เป็นส่วนผสมได้ เนื่องจากหากไม่อนุโลมก็อาจหาขนมที่จะถวายได้ยาก
***ห้ามถวายของคาว เช่น ข้าวผัดกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว หัวหมู เป็ด ไก่ตอน ฯลฯ เนื่องจากไม่เหมือนกับการเซ่นไหว้แบบจีนครับ
***จาน ถาด แก้วน้ำ ควรจัดเตรียมไว้สำหรับการบูชาเทพเท่านั้น เมื่อใช้เสร็จแล้วต้องทำความสะอาดและเก็บแยกไว้ ห้ามนำไปใช้กับของทั่วไป
***เครื่องสังเวยอื่นๆ ที่สามารถถวายได้ ได้แก่ พืชพรรณ ธัญญาหาร ข้าวสาร ข้าวกล้อง เกลือ น้ำตาล เมล็ดพริกไทย เมล็ดถั่ว งาขาว งาดำ ใบชา เมล็ดกาแฟสด มะเขือ มะขวิด ใบกระเพรา ใบโหระพา เครื่องเทศ ผักสด และผลไม้ทุกชนิด
ขั้นตอนการบูชา
เพื่อให้การสวดบูชาได้ผลดีที่สุด ควรเลือกเวลาที่สงบ เช่น ในช่วงเช้าตรู่ หรือก่อนนอน เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากผู้อื่น
1. นำของสังเวยทั้งหมด (น้ำ นม ผลไม้ ขนมหวาน) มาจัดวางไว้ที่หน้าเทวรูปหรือรูปบูชา
2. ดอกไม้ หากเป็นช่อหรือดอกเดียวให้วางไว้ข้างหน้า ถ้าร้อยเป็นพวงสามารถนำไปคล้องที่พระกรหรือศาสตราวุธของเทวรูปได้
3. จุดกำยาน ธูป ประทีป และเทียน
4. การพนมมือ ให้พนมมือแบนราบติดกัน และตั้งจิตให้สงบ
5. เมื่อจิตสงบแล้ว ให้เริ่มสวดบูชา...
ท่องบทสวดอัญเชิญพระพิฆเนศและพระคเณศาณี
จุดธูปประทีปทั้งซ้ายขวา จากนั้นจุดกำยานหนึ่งดอก หรือจุดธูป 16 ดอก เมื่อจิตสงบแล้ว ให้เริ่มท่องบทสวดดังนี้
* โอม ศรีคะเนศายะนะมะ (3 จบ)
โอม ศรีคะเนศายะนะมะ ชะยะคะเณศะ ชะยะคะเณศะ ชายะคะเณศะ เทวา มาตา ชากี ปะระ วะตี ปิตามะหา เทวา ละฑุวัน กา โกคะ ละเค สันตะ กะเร เสวา เอก ทันตะ ทะยาวันดะ จาระ ภุชา ธารี มาเถ สินทูระ เสเห มูเส กี อะสะวารี อันธะนะ โก อางขะ เทตะ โก กายา พามณะนะ โก กุตรร เทตะ
โกทินะ นิระทะนะ มายาฯ
