
คำว่า "ดวงแตก" อาจจะเคยได้ยินกันมาก่อน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของมันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพูดถึงคำนี้
คำว่า "ดวงแตก" มาจากคำว่า "ภินทุบาท" ซึ่งประกอบด้วยคำว่า "ภินท" ที่แปลว่า แตกหัก และคำว่า "อุบาท" ที่แปลว่า เกิดขึ้น หรือบังเกิด รวมกันแล้วแปลว่า 'ดวงแตก' ในภาษาไทย
คำว่า "พินทุบาท" มาจากคำว่า "พินทุ" ที่แปลว่า จุดที่มีรอยช้ำ และ "อุบาท" ที่แปลว่า 'ดวงช้ำ' ในภาษาไทย
ในการดูดวงชาตา จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุด เพราะหากเราไม่เข้าใจความหมายของแต่ละสิ่งอย่างชัดเจน การตีความก็จะไม่ถูกต้อง และคำพยากรณ์ที่ได้จะกลายเป็นเรื่องคลุมเครือ ขาดความชัดเจน จึงจำเป็นต้องแยกความหมายอย่างละเอียดเพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาวิทยาการลึกลับนี้
๑. ดวงภินทุบาท หรือดวงแตก เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสียหาย ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากดวงชาตาที่มีดาวพระเคราะห์เป็นภินทุบาท หนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้คือ ความยุ่งยากในเรื่องคู่ครอง บางคนที่มีความร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี กลับหาคู่ครองไม่ได้ เนื่องจากพวกเขามักจะมีความต้องการที่จู้จี้เรื่องคู่ครอง คนที่มาสู่ขอก็ไม่ตอบตกลง ส่วนคนที่ตนเองชอบก็ไม่รักเขา หรือบางครั้งอาจเลือกคนที่มีคู่แล้ว จนเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและกลายเป็น 'ชู้' โดยปริยาย ดวงชาตินี้มักเผชิญสถานการณ์เหล่านี้อยู่เสมอ
๒. ดวงพินทุบาท หรือ ดวงช้ำ จะมีโทษน้อยกว่าดวงแตก เนื่องจากคำว่า 'ช้ำ' ยังไม่ถึงขั้น 'แตก' ดวงชาตินี้มักจะเผชิญกับปัญหาความช้ำใจในเรื่องคู่ครอง คนที่รักมากมักจะต้องพลัดพรากจากกัน ไม่ว่าจะจากไปด้วยการจากเป็นหรือจากการตาย ส่วนความทุกข์ในด้านอื่นๆ จะไม่รุนแรงหรือทำให้เจ้าชาตาต้องเผชิญกับความเสียหายหรือความเครียดเหมือนกับดวงภินทุบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม