24 ปีที่ผ่านมา วงการเพลงหมอลำต้องสะเทือนกับการจากไปของ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" นักร้องสาวที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตขณะเดินทางกลับจากคอนเสิร์ตที่ศรีสะเกษ รถปิกอัพที่เธอนั่งเกิดพลิกคว่ำและเธอเสียชีวิตคาที่ เรื่องราวอันลี้ลับของวิญญาณ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานอยู่เสมอ แม้เวลาผ่านไปนานมากแล้ว วัยเพียง 16 ปี ฮันนี่ก็ได้เข้าสู่วงการหมอลำและกลายเป็นนางเอกหมอลำที่ได้รับความนิยม จนเมื่อใช้ชื่อ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" เธอก็ได้ร่วมงานกับเยนาวี่ โปรโมชั่นและบันทึกเสียงอัลบั้มแรก "น้ำตาหล่นบนที่นอน"

เธอประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ฮันนี่เป็นหมอลำคนแรกที่สวมชุดว่ายน้ำขึ้นปก "มาลัยไทยรัฐ" ในยุคที่นักร้องหมอลำมักใช้ชื่อดาราหรือศิลปินดังเป็นต้นแบบ ฮันนี่ออกผลงานอัลบั้มถึง 3 ชุด ได้แก่ "น้ำตาหล่นบนที่นอน", "วอนพี่มีรักเดียว", และ "สาคร ศรรัก" โดยเฉพาะอัลบั้ม "วอนพี่มีรักเดียว" ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น จนเธอเปิดค่ายดนตรีของตัวเอง แต่เธอทำงานในวงการเพลงได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

การเสียชีวิตของเธอเกิดขึ้นหลังจากการแสดงที่อำเภอปรางค์กู่ ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เวลาประมาณ 04.30 น. รถปิกอัพพลิกคว่ำที่ถนนศรีสะเกษ - อุบลราชธานี กิโลเมตรที่ 5-6 ตำบลหนองแก้ว ฮันนี่เสียชีวิตในวัยเพียง 21 ปี 4 เดือน 4 วัน จุดที่เกิดเหตุได้มีการสร้างศาลเพื่อเป็นที่ระลึก และในวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ ชาวบ้านมักจัดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึงเธอ

มีผู้เล่าว่า เมื่อขับรถผ่านช่วงตี 1 ถึงตี 2 จะเห็นเวทีแสงสีเสียงเหมือนมีงานคอนเสิร์ตที่ศาลของนักร้องฮันนี่ จนทำให้รู้ทีหลังว่าเป็นศาลของเธอ เรื่องราวน่าขนลุกคือ ใครก็ตามที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับศพของฮันนี่และนำทรัพย์สมบัติของเธอไปมักจะประสบเหตุร้าย แม้แต่ตำรวจที่พบศพของเธอเป็นคนแรก ก็ยังต้องเจอชะตากรรมเดียวกับเธอ เสียชีวิตในสถานีเดียวกัน
เรื่องราวของวิญญาณ "สุพิณ เหมวิจิตร" หรือ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ราชินีลูกทุ่งหมอลำผู้ล่วงลับ ยังคงถูกเล่าขานถึงความเฮี้ยนและอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่ามีการย้ายศาลจากศรีสะเกษไปตั้งใหม่ที่บ้านเกิดของเธอในกาฬสินธุ์ ตามคำขอของวิญญาณที่ต้องการกลับบ้าน

การเปิดเผยเรื่องนี้มาจาก "คำศรี เหมวิจิตร" พี่สาวแท้ๆ ของฮันนี่ ซึ่งกล่าวว่าวิญญาณน้องสาวได้มาปรากฏในฝันของพระอาจารย์ประจักษ์ และเมื่อถูกถามว่าเป็นใคร วิญญาณได้ตอบว่า "นางสาวสุพิณ เหมวิจิตร" พร้อมกับร้องห่มร้องไห้และขอให้พระอาจารย์ช่วยสร้างศาลให้ที่บ้านเกิด หมู่ 11 บ้านเมย ต. ดงลิง อ. กมลาไสย จ. กาฬสินธุ์
