การลงนะหน้าทอง คือวิธีการเสริม ดวง ชะตาให้มีพลังในด้านเมตามหาเสน่ห์ เพิ่มโชคลาภ และเปิดทางให้ชีวิตของผู้ที่ได้รับการลงนะหน้าทองก้าวไปข้างหน้าอย่างเจริญรุ่งเรือง...แต่มีใครรู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังการลงนะหน้าทองนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และนิยมทำกันที่ไหน? มาร่วมค้นหาความลับของ "การลงนะหน้าทอง" กันเถอะค่ะ

การลงนะหน้าทอง คือศาสตร์โบราณที่มีพลังในการส่งเสริม ดวง ชะตาบารมี เสริมสิริมงคล ช่วยให้ผู้ที่ได้รับการลงนะหน้าทองสามารถกลับมาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งในเรื่องการเงิน ความรัก และโชคลาภ ชีวิตที่เคยติดขัดจะพลิกฟื้นกลับมามีโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้คนที่กำลังมองหาทางออก สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กลับมาอีกครั้ง

วิชานะหน้าทองเป็นศาสตร์ไสยศาสตร์ที่มีรากฐานมาจากวรรณคดี "เรื่องรามเกียรติ์" ที่เกี่ยวข้องกับพระลักษณ์ ซึ่งมีรูปกายเป็นสีทองและได้รับความเคารพจากทุกฝ่าย ด้วยความสง่างามของพระลักษณ์ทำให้วิชานี้กลายเป็นที่นิยมในการสร้างเสน่ห์และเมตตามหานิยม นะหน้าทองจึงเป็นวิชาที่มีอำนาจสูงในด้านการเสริมสร้างพลังทางจิตใจและโชคลาภ
การที่ใช้ทองคำเปลวในการลงนะหน้าทองเพราะทองถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ การลงนะหน้าทองจึงใช้ทองคำเปลวบริสุทธิ์ร่วมกับอักขระและยันต์ที่มีสูตรพิเศษเฉพาะตัว ที่ได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ตามแต่ละสูตรเฉพาะเจาะจงของแต่ละท่าน
การใช้ธาตุทองในการลงนะหน้าทองมีความสำคัญ เนื่องจากทองคำเป็นธาตุที่มีความบริสุทธิ์และแสงสว่าง ซึ่งในศาสตร์โบราณนั้นเชื่อว่า ธาตุทองจะซึมซับพลังจากพระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่มีความบริสุทธิ์และเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ได้รับการลงนะหน้าทอง
ธาตุทองเป็นสิ่งมงคลที่แสดงถึงความดี ความงาม และความสว่าง อีกทั้งทองคำยังมีคุณสมบัติที่ไม่เสื่อมคุณค่า ไม่ว่าจะเจอกับน้ำ ไฟ หรืออากาศ ซึ่งทำให้ทองคำยังคงมีความบริสุทธิ์และคุณค่าอย่างยั่งยืน ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ โบราณจารย์จึงได้สร้างวิชานะหน้าทองขึ้นเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ได้รับการลงนะหน้าทอง
ในการลงนะหน้าทอง เรามักเห็นการลงที่บริเวณหน้าผาก แต่ถ้าต้องการลงให้ครบสูตร จะมีตำแหน่งอื่น ๆ ที่สำคัญดังนี้
1. หน้าผาก เป็นจุดสำคัญที่เด่นที่สุดบนใบหน้า เป็นที่รวมพลังแห่งสิริ และถือเป็นจุดที่สำคัญที่สุดในการลงนะหน้าทอง
2. เปลือกตา หรือใต้ตา จุดนี้ช่วยเสริมเสน่ห์ให้แก่ผู้ที่สบตา หรือกระพริบตา โดยทำให้ผู้ที่มองรู้สึกดึงดูดและนิยมในตัวเรา
3. แก้ม การลงนะหน้าทองที่แก้มจะช่วยเสริมความน่ารักและทำให้เป็นที่รักจากผู้อื่น โดยใช้วิชาพรหมสี่หน้า ซึ่งถือเป็นเมตตาที่ล้ำค่าที่สุด
4. กราม จุดนี้ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในขณะที่พูด เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกไว้วางใจและเคารพในตัวเรา
5. ที่ติ่งหูสองด้าน ถือเป็นที่สถิตของเทวดาผู้ปกป้องและรักษาอายุของเรา
6. ท้ายทอย จุดนี้ทำให้เป็นที่รักเมื่อคนมองเราจากด้านหลัง เสริมเสน่ห์ให้รู้สึกน่ารักและดึงดูด
7. ลิ้น เรียกว่าสาลิกาลิ้นทอง เป็นสูตรเฉพาะของวิชานะหน้าทองที่แยกออกมาเป็นสาขาเฉพาะเพื่อเสริมเสน่ห์ในการพูดจา
8. กระหม่อม จุดนี้ถือเป็นที่เชื่อมต่อพลังชีวิตและวิญญาณ เป็นศูนย์รวมของพลังชีวิตและยังเป็นที่สถิตของเทวดาผู้ปกปักรักษาเรา
9. คาง เป็นจุดที่อยู่ต่ำสุดของใบหน้า การลงนะที่คางจึงช่วยเสริมความเคารพและเป็นที่ยำเกรงจากผู้ที่พบเห็น
อย่างไรก็ตาม การลงนะแบบครบสูตรนั้นค่อนข้างหายาก ส่วนใหญ่จะทำการลงที่หน้าผาก แก้ม และคางเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เคร่งครัด แต่ก็ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าสนใจ จึงได้นำมาเล่าสู่กันฟัง
นี่คือเรื่องราวของตำนานการลงนะหน้าทองที่เราได้นำมาแชร์ให้ฟังกัน ทั้งนี้ตามที่ Mytour! Horoscope ได้เคยกล่าวไว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ควรทำความเข้าใจด้วยวิจารณญาณ ไม่ควรเชื่อจนเกินเหตุ และไม่ควรลบหลู่ แต่ต้องใช้เหตุผลประกอบการเข้าใจให้รอบคอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://guru.google.co.th/
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com