Buzz
ชาวสนุก!ดูดวงใครที่เชื่อหรือชื่นชอบเรื่องผีบ้าง? คงจะมีหลายคนที่เคยสัมผัสกับวิญญาณและสิ่งลี้ลับเหล่านี้มาบ้างแล้ว
แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเห็นผีหรือวิญญาณและอยากลองสัมผัสกับโลกนี้ดู ขอเสนอ "10 วิธีการเห็นผีแบบไทย" ที่จะทำให้คุณขนหัวลุกแบบไม่ทันตั้งตัว ลองดูกันว่ามีอะไรบ้าง
10 วิธีที่เชื่อกันว่าเห็นผีได้ในแบบของคนไทยอันดับที่ 1 สวมเสื้อผ้าของผู้ล่วงลับ สวมเสื้อผ้าของผู้ที่เสียชีวิตแล้วและกลั้นหายใจ ลองทำในวัด คุณอาจได้พบกับเจ้าของเสื้อผ้าที่ล่วงลับไปแล้วจริงๆ
อันดับที่ 2 การเล่นผีถ้วยแก้ว เตรียมแผ่นกระดาษและถ้วยแก้วแล้วลองเล่นผีถ้วยแก้ว เมื่อเสร็จสิ้น ให้หันถ้วยแก้วกลับด้านออกจากจุดเดิม คุณอาจจะเห็นวิญญาณที่มาร่วมเล่นกับคุณ
อันดับที่ 3 การนอนในโลงศพ หากคุณอยากรู้ถึงชีวิตหลังความตาย ลองนอนในโลงศพดู อย่าลืมใส่เหรียญในปาก เพื่อให้มีใครบางคนพาคุณเดินทางสู่โลกหน้า
อันดับที่ 4 การก้มมองทะลุหว่างขา ทุกคนเกิดจากหว่างขาของมารดา ซึ่งเชื่อว่าคือจุดเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ ลองก้มหัวมองทะลุหว่างขาที่วัด เพื่ออาจเห็นวิญญาณ แต่ระวัง อย่ามองนานเกินไป อาจจะมีวิญญาณตามไปด้วย
อันดับที่ 5 การกางร่มในที่มืด การกางร่มภายในอาคารในตอนกลางคืนจะทำให้ผีและวิญญาณติดตามคุณไป
อันดับที่ 6 มองเงาในกระจก เที่ยงคืน ปิดไฟให้หมดและจุดเทียนนั่งหน้ากระจก ใช้หวีหวีผมและมองตัวเองในกระจก สิ่งที่สะท้อนในกระจกอาจไม่ใช่ตัวคุณเอง
อันดับที่ 7 ใช้ดินจากสุสานทาที่เปลือกตา เชื่อกันว่าดินจากหลุมฝังศพมีพลังดูดซับวิญญาณและความตาย เมื่อใช้ดินทาที่เปลือกตาจะช่วยให้คุณเห็นสิ่งลี้ลับและวิญญาณที่อยู่รอบตัว
อันดับที่ 8 เล่นซ่อนหาในตอนกลางคืน การเล่นซ่อนหาช่วงกลางคืนจะทำให้ผีเข้ามามีส่วนร่วม ผู้ที่ซ่อนจะมองไม่เห็นอะไรเลย ขณะที่คนหาก็จะหาคนซ่อนไม่พบ หากไม่มีแมวดำวิ่งผ่าน คุณอาจจะไม่เห็นอะไรเลยจนวันตาย เพราะเชื่อว่าผีต้องการใครบางคนไปอยู่ด้วย
อันดับที่ 9 เชิญผีมาทานอาหาร วิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันมักจะยังไม่ยอมรับการตาย วางอาหารไว้ในที่เกิดเหตุหรือสามแยกและเคาะช้อนหรือส้อม เสียงเคาะจะเชิญผีให้มาที่อาหาร และคุณจะเห็นอาหารค่อยๆหายไป
อันดับที่ 10 ใช้น้ำตาสุนัขดำทาที่เปลือกตา สุนัขดำถือเป็นสัญลักษณ์ของโชคร้ายและเชื่อว่ามันสามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับได้ ใช้น้ำตาของสุนัขดำทาที่เปลือกตา จะทำให้คุณสามารถมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นจากโลกนี้ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail และขอขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com
