ถ้าพูดถึงผี คงมีหลายคนที่กลัวแต่อยากฟังอยู่ดี แล้วผีไหนที่น่ากลัวที่สุดจนติดอันดับ 1 ถึง 10 ของโลก มาดูกันเลย

10. ปรากฏการณ์ผีแม่มดเบลล์ (The bell witch)
ปรากฏการณ์ผีแม่มดเบลล์ ที่เกิดขึ้นในเมืองอดัมส์ มลรัฐเทนเนสซี อเมริกา ปี ค.ศ.1817 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในด้านปรากฏการณ์หลอนที่โด่งดังที่สุดในอเมริกา ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันมาเยี่ยมชม รวมทั้งประธานาธิบดีด้วย ซึ่งไม่เคยผิดหวัง ทุกคนที่มาดูได้เห็นเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่มีสาเหตุมาจากหญิงชราชื่อ เคท แบทส์ เพื่อนบ้านของครอบครัวเบลล์ เธอรู้สึกเจ็บแค้นจากการที่ครอบครัวนี้โกงเธอในการซื้อขายที่ดิน
ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เคทได้สาปแช่งว่า หากเธอกลายเป็นผี จะทำให้ทุกคนเห็นกันชัดๆ นับตั้งแต่นั้นครอบครัวเบลล์ต้องประสบกับเหตุการณ์ประหลาดและเคราะห์กรรมต่างๆ เช่น ข้าวของแตกกระจาย เข็มทิ่มร่างกาย นมหกเลอะเทอะ การดึงผ้าคลุมเตียง การทุบตี รวมทั้งเสียงหัวเราะสยองที่สะใจ แม้กระทั่งในตอนที่สมาชิกครอบครัวตาย ผีนี้ก็ยังไม่หยุดเล่นแกล้งด้วยการหัวเราะและร้องเพลงอย่างร่าเริงจนเสียงดังยาวนานจนผู้ร่วมงานพิธีศพต้องออกจากงาน ในปัจจุบัน แม้ครอบครัวเบลล์จะหมดไปเกือบ 200 ปีแล้ว วิญญาณของเคทยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ โดยมีผู้พบเห็นปรากฏการณ์แปลกๆ ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เคยเป็นสมบัติของครอบครัวเบลล์

9. ผีที่บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์สแควร์ (50 Berkeley Square)
สถานที่พบเจอ บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์ สแควร์ กรุงลอนดอน ผีที่บ้านหลังนี้มีความน่ากลัวอย่างมาก เพราะมันทำให้เหยื่อที่โชคร้ายต้องตายไปตามๆ กัน แม้ไม่มีใครทราบที่มาของมัน แต่หลายคนที่เคยพักในบ้านร้างหลังนี้ต่างเสียชีวิตอย่างปริศนา เช่นในปี 1887 กะลาสีสองคนชื่อเอ็ดเวิร์ด บลันเดนและโรเบิร์ต มาร์ตินที่เข้ามาพักในบ้านหลังนี้และพบเหตุการณ์แปลกๆ จนกลางคืนบลันเดนเห็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้
มาร์ตินหลบหนีออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่เมื่อกลับมาพบว่า บลันเดนเสียชีวิตที่บันไดชั้นล่างในสภาพคอหัก ดวงตาของเขาเบิกโพลง นอกจากนี้ จอร์จ แคนนิ่ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังได้รับผลกระทบด้วย และเสียชีวิตในปี 1827 ปัจจุบันคนที่อยู่ในบริเวณนั้นมักได้ยินเสียงทุบและเสียงกระแทกดังปึงปังในบางคืน

8. บ้านอมิตี้วิลล์ (Amityville House)
สถานที่พบเจอ บ้านเลขที่ 112 โอนอเวนิว อเมริกา บ้านอมิตี้วิลล์ โอนอเวนิว บ้านสไตล์ดัทซ์ โคโลเนียล ที่ดูเหมือนโรงนาทรงสูงสวยงาม ถูกสร้างในปี 1924 แต่หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ในครอบครัวหนึ่งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นที่น่ากลัวและเต็มไปด้วยเรื่องผีโดยเฉพาะกรณีของครอบครัวจอร์จ ลัทซ์ที่อาศัยอยู่ที่นั่นและพบกับเหตุการณ์ประหลาดหลายครั้งในทุกคืน เช่น เสียงรอยเท้า ผีอำ และอื่นๆ
นอกจากนี้หากใครนำเรื่องของบ้านอมิตี้วิลล์ไปทำเป็นนิยายหรือหนังจะต้องเผชิญกับคำสาป เห็นได้จากเมื่อมีการนำเรื่องนี้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องในกองถ่ายต่างประสบเคราะห์กรรม เช่น ปรากฏการณ์แปลกๆ การเจ็บป่วย หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตอย่างไม่สามารถอธิบายได้ (ปัจจุบันสามารถหาดูเรื่องนี้ในภาพยนตร์เรื่องผีทวงบ้าน) ระวังคำสาปจะตามมานะ!!

7. เดอะ ฟลายอิ้ง ดัชท์แมน (Flying Dutchman)
สถานที่พบเจอ แหลม Good Hope ฮอลแลนด์ และท้องทะเลทั่วโลก (รวมถึงไทยก็เคยพบ) เป็นเรือปีศาจที่ปรากฏบ่อยครั้งทั่วโลกในรอบหลายร้อยปี ก่อนหน้านี้เรือนี้ชื่อว่า Flying Dutchman ของกัปตัน Van Der Decken ที่มีนิสัยไม่ดี โดยเขาหายไปที่แหลม Good Hope และก่อนจะหายไปเขาตะโกนว่า "ข้าจะยังคงวนเวียนอยู่ที่แหลมแห่งนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวาระสุดท้ายของโลกก็ตาม"
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนทั่วโลกได้เห็นเรือปีศาจลำนี้ และมีความเชื่อว่าเรือใดที่เห็นฟลายอิ้ง ดัชท์แมนจะต้องประสบกับความพินาศ โดยในปี 1881 ผู้คนบนเรือเจ้าชายจอร์จที่ 5 ได้เห็นเรือลำนี้ และไม่นานต่อมาเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเรือพลัดตกจากเสากระโดงเรือและเสียชีวิต ทุกวันนี้ยังมีคนกล่าวอ้างว่าเห็นเรือฟลายอิ้ง ดัชท์แมนล่องเรือเดียวดายในทะเลด้วยรูปลักษณ์ที่เศร้าหมองและน่าสยดสยอง ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชื่อดังได้ใช้ตำนานนี้แต่งอุปรากรที่มีชื่อว่า Der Fliegende Hollander

6. วิญญาณที่โบลถ์บอร์ลีย์ (Borley Rectory)
สถานที่พบเจอ อยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 ไมล์ ในแถบชานเมืองของเอสเซกซ์ (ซึ่งในปัจจุบันถูกทุบทิ้งไปแล้ว) เมื่อปี ค.ศ. 1362 นักบวชนิกายเบเนดิกทีนและแม่ชีจากสำนักชีในพื้นที่ถูกจับฆ่าโดยพ่อมดและชาวบ้านที่เชื่อในไสยศาสตร์ โดยนักบวชถูกแขวนคอและแม่ชีถูกฝังทั้งเป็นในผนังสำนักชี จนกระทั่งในปี 1863 สถานที่นี้ได้กลายเป็นโบสถ์บอร์เลย์ และหลังจากนั้นเหตุการณ์แปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน เช่น ก้อนหินที่บินมาจากที่ไหนไม่รู้ รอยเท้าลึกลับ เสียงปริศนา และภาพหลอนที่ปรากฏในตอนกลางวัน
ในปี 1929 วิญญาณของแม่ชีเริ่มปรากฏตัวบ่อยขึ้น และในที่สุดก็ปรากฏเต็มตัวในรูปลักษณ์ของชีสาวที่แต่งกายด้วยชุดธรรมดา ใบหน้ามีสีเศร้าหมอง และเธอร้องขอให้มีคนพบศพของเธอเพื่อทำพิธีทางศาสนา มีผู้ถ่ายภาพของเธอได้มากมาย จนกระทั่งคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 เกิดเพลิงไหม้ในตอนเที่ยงคืนที่ทำลายโบสถ์จนเหลือแต่ซาก และหลังจากนั้นโบสถ์ก็ถูกทุบทิ้งไป วิญญาณของแม่ชีจึงไม่ปรากฏตัวอีกเลย

5. วิญญาณสีชาด กษัตริย์เฮนรีที่ 4
สถานที่พบเจอ ประเทศฝรั่งเศส วิญญาณสีชาดนี้ไม่เคยมีใครรู้ที่มาที่ไป แต่ปรากฏตัวบ่อยในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกษัตริย์ของฝรั่งเศส โดยมีรูปร่างเป็นชายร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อคลุมสีแดงสด พร้อมเครายาวสีเดียวกัน ปรากฏตัวต่อพระพักตร์ของกษัตริย์เฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส
ในคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 1610 ภายในห้องพระบรรทมของกษัตริย์เฮนรี วิญญาณสีชาดได้ปรากฏตัวและกล่าวคำพยากรณ์ว่า "พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตาย" พระองค์ตกใจและรีบเรียกขุนนางผู้ใหญ่ให้มาหารือกันเพื่อหาทางหลีกเลี่ยง แต่ในอีก 12 ชั่วโมงถัดมา พระองค์ก็ถูกผลักตกจากบัลลังก์จริงๆ ตามคำทำนาย เมื่อฟรองซัวราวิลแย็คได้ทำการรัฐประหาร ในภายหลัง วิญญาณนี้ยังได้ปรากฏตัวให้กับนโปเลียน โปนาปาร์ตเห็นถึง 4 ครั้ง ครั้งที่ 4 คือคืนวันที่ 5 พฤษภาคม 1821 ซึ่งตรงกับวันที่นโปเลียนสิ้นชีวิต

4. ผีชุดขาวแห่งเบอร์ลิน (Ghost White of The Berlin)
สถานที่พบเจอ ประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศส วิญญาณชุดขาวนี้เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของอันนา ซิโดว์ ภรรยาลับของกษัตริย์โจอาคิมที่ 2 จากศตวรรษที่ 16 ซึ่งถูกจับขังจนถึงแก่ชีวิต และทุกครั้งที่ใครก็ตามได้เห็นวิญญาณหญิงชุดขาวนี้ คนในราชวงศ์จะต้องประสบเคราะห์กรรมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เช่นในปี 1619 มหาดเล็กของกษัตริย์จอร์น ซิกมุนด์ได้เห็นร่างสีขาวก่อนจะถึงแก่ชีวิตจากอุบัติเหตุ หลังจากนั้นกษัตริย์จอห์น ซิกมุนด์ก็ทรงสวรรคต ตามมาอีกหลายกรณีที่กษัตริย์หลายพระองค์ในรัสเซียและปารีสได้พบเห็นวิญญาณนี้ ก่อนจะถึงการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในวันที่ 29 เมษายน 1945 ซึ่งตรงกับวันล่มสลายของนาซีเยอรมันที่กรุงเบอร์ลินพอดี!!

มีเรื่องเล่ากันว่าผู้ใดที่เสียชีวิตบนเรือควีนแมรี่จะกลายเป็นผีเฝ้าเรือทุกตน โดยผีเหล่านี้ได้ปรากฏตัวในหลายจุดของเรือในลักษณะต่างๆ เช่น รอยเท้าที่เปียกน้ำ เด็กน้อยที่ตามหาแม่แล้วหายตัวไปต่อหน้า หรือแม้แต่สตรีในชุดราตรีโบราณ ฯลฯ

2. วิญญาณของพระนางแคทเธอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)
สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม้พระนางจะถูกประหารหลังจากการอภิเษกกับพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เพียง 8 เดือนในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1542 แต่ยังคงมีเสียงร้องโหยหวนได้ยินในระเบียงของพระราชวังแฮมตัน คอร์ทในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีการพบเจอที่อีธอร์น มาเนอร์ และฮอลลิงบอร์น เค้นท์ด้วย

1. ความเฮี้ยนสุดสยองกับ วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn the headless Queen)
วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระเจ้า เฮนรีที่ 8 พระมเหสีองค์ที่สองแห่งพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้ถูกประหารในวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 1536 ก่อนที่จะสิ้นชีวิต พระนางได้กล่าวว่า "โอ้ ความตายนำข้าให้หลับใหล พาข้าให้พักอย่างเงียบสงัดนำข้าไปสู่ที่สุดแสนจะเงียบงันออกไปจากอกของข้า ที่ห่วงหาอาทร ย่ำระฆังความตายที่เศร้าสร้อย ปล่อยให้มันก้องกังวาน" มีข่าวลือว่าผีของพระนางจะกลับมาที่บลิคลิง ฮอลล์ในวันครบรอบการถูกประหาร
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระนางแอนน์เคยใช้ชีวิตในวัยเยาว์ ซึ่งทำให้พระนางมีความผูกพันเป็นพิเศษ โดยมีรายงานหลายครั้งที่วิญญาณของพระนางไปปรากฏที่สถานที่เกิดของพระนาง โดยร่างของพระนางมักปรากฏเป็นหญิงสูงศักดิ์ที่ปราศจากศีรษะ นั่งอยู่ในรถม้าที่ลากโดยม้าที่ปราศจากหัวสี่ตัว และคนขับที่ไม่มีหัว รถม้าเคลื่อนที่ไปช้าๆ ทิ้งร่องรอยการปรากฏตัวไปยังอาคารโบราณในบลิงตันและหายลับไปจากประตูหน้า นอกจากนี้ยังมีการพบเจอพระนางที่หอคอยแห่งลอนดอน โดยผู้ใดที่พบพระนางมักจะประสบกับหายนะ ไม่ว่าจะเป็นการหัวใจวายหรือเสียสติภายในเวลาไม่นาน
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Toptenthailand