
ผู้บริหารสาวที่น่าจับตามองในวงการการเงิน “ธิดา แก้วบุตตา” ทายาทเจ้าของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย “ศรีสวัสดิ์ เงินด่วนทันใจ” ได้นำความเชี่ยวชาญในด้านการเงินและการบัญชีมาช่วยต่อยอดและขยายธุรกิจของครอบครัวให้เติบโตไปสู่การเป็นบริษัทมหาชน ด้วยการทำงานที่มีความรักและความสนุกอยู่เสมอ
ธิดา หรือ ไนล์ เป็นลูกสาวคนเล็กในจำนวนสองคนของ จริยา–ฉัตรชัย แก้วบุตตา ผู้ก่อตั้งบริษัทศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 ซึ่งเป็นบริษัทลีสซิ่งครบวงจร ไนล์เล่าว่าเริ่มต้นธุรกิจที่บ้านจากการเป็นเอเย่นต์ขายรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และเมื่อมีลูกค้าขาดแคลนทุนจึงเริ่มต้นการทำธุรกิจลีสซิ่งโดยใช้ชื่อศรีสวัสดิ์ตามชื่อคุณย่า ตั้งแต่เด็กเธอได้ช่วยงานที่บ้านและมีความสนใจในงานบัญชี ทำให้เลือกศึกษาด้านนี้และเริ่มทำงานในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานตรวจสอบบัญชีที่ Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos หรือการทำงานด้านการลงทุนที่ธนาคารกรุงไทย ก่อนที่จะกลับมาช่วยงานที่บริษัทศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 ในตำแหน่งกรรมการบริษัท พร้อมกับพี่สาว (ดวงใจ แก้วบุตตา) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
“พี่สาวไนล์ ซึ่งเป็นเจ้านาย จะดูแลเรื่องนโยบายและการบริหารงานประจำวัน ส่วนไนล์ต้องรับผิดชอบเกือบทุกอย่างตามคำสั่งของนาย โดยดูแลทั้งลูกค้าและการเจรจากับนักลงทุน ไนล์เริ่มทำงานที่บ้านมาตั้งแต่เด็ก เช่น ช่วยพ่อแม่ไปยึดรถ เมื่อพนักงานบริษัทยังน้อย ทำให้ต้องมีประสบการณ์ในการขับรถและเจรจากับลูกค้าเพื่อให้การทำงานลุล่วงไปได้ด้วยดี ไนล์ได้รับการสอนจากพ่อให้ทำงานอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม เนื่องจากธุรกิจในปัจจุบันไม่สามารถทำคนเดียวได้ และต้องทำงานตามระบบ” ไนล์กล่าวถึงการทำงานที่เธอมีส่วนร่วมมาอย่างยาวนาน
ผู้บริหารสาววัย 34 ปี ที่มีอารมณ์ดี กล่าวว่า “แม้ว่างานที่ทำอาจจะดูเครียด แต่ไนล์กลับมีความสุขและสนุกกับการทำงาน เพราะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ บางครั้งก็ต้องช่วยลูกค้าเคลียร์ปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่สนุกและน่าสนใจ ทำให้การทำงานมีสีสัน และเวลาไปเจรจากับนักลงทุนก็ต้องใช้วิธีการที่ต่างออกไป เป้าหมายของไนล์ในชีวิตคือการทำงานที่มีความสุขและอยากให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง รวมถึงขยายการเติบโตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน”
ผู้บริหารสาวในวงการการเงินได้ฝากข้อคิดไว้ว่า “อย่ามองว่าการเป็นหนี้คือสิ่งที่น่าอับอาย การขาดสภาพคล่องทางการเงินสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งคนรวยและคนจน สิ่งสำคัญคือเราไม่ควรกู้เงินมาใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น ปัจจุบันมีสิ่งล่อลวงที่ทำให้เราสูญเสียการควบคุม จึงต้องมีสติในการใช้จ่ายค่ะ”.