
ปรมินทร์ ศรีชวาลา หนุ่มนักธุรกิจทายาทจากตระกูลดัง ซึ่งเริ่มเข้ามาบริหารธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่อายุ 22 ปี พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตในทิศทางที่ดี โดยได้รับการถ่ายทอดจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายอย่างใกล้ชิด จนสามารถคว้าตำแหน่งซีอีโอของบริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด ด้วยวัยเพียง 26 ปี
ปอ–ปรมินทร์ ศรีชวาลา ลูกชายคนสุดท้องจากสามพี่น้องของ อัครเดช ศรีชวาลา ผู้ก่อตั้งบริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด ซึ่งนำเข้าและจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรูหลากหลาย เช่น CHARRIOL, BALLY, ETRO และ VERTU เล่าว่า เขาได้เดินทางไปเรียนที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่เด็กที่ Modern International School University of Nottingham จนจบระดับมัธยมปลาย และต่อปริญญาตรีด้านการจัดการธุรกิจที่มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ในช่วงแรกของการใช้ชีวิตที่นั่นต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองต่างจากในบ้านที่มีคุณแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อโตขึ้นก็เข้าใจว่า การที่คุณพ่อคุณแม่ส่งให้ไปเรียนไกลบ้านนั้นเพื่อให้เรียนรู้การใช้ชีวิตและเติบโตเป็นผู้บริหารที่ดีสำหรับองค์กรในอนาคต
เส้นทางการทำงานของ ปอ-ปรมินทร์ เริ่มต้นหลังจากจบปริญญาตรีในปี 2553 โดยเข้ามาช่วยงานที่บริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด และได้รับการสอนงานจากทั้งคุณพ่อและพี่ชาย (กฤษน์ ศรีชวาลา) โดยตรง ตั้งแต่การปฏิบัติงานในระดับปฏิบัติการจนถึงการบริหารงาน ใช้เวลา 5 ปีในการเรียนรู้ จึงได้รับการไว้วางใจให้ก้าวขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหาร หรือซีอีโอ ของบริษัท
การขึ้นสู่ตำแหน่งซีอีโอในบริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด ของปรมินทร์ ศรีชวาลา ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเล่าว่าทุกงานที่ทำมีความท้าทาย และเราต้องเรียนรู้ที่จะมองปัญหาให้รอบด้าน ซึ่งความสำคัญอยู่ที่การรับฟัง อดทน และพิจารณาปัญหาให้รอบคอบ โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีส่วนในการแก้ไขปัญหา และหลักการในการทำงานที่เขานำมาใช้คือ คำสอนจากพ่อที่เน้นการรับฟัง เรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
“คุณพ่อทำงานอย่างหนักมาตลอด เริ่มจากศูนย์จนสร้างอาณาจักรขนาดใหญ่ขึ้นมา พ่อมักจะสอนพวกเราว่า การเป็นผู้นำที่ดีต้องฟังความคิดเห็นจากสมาชิกในทีม การทำงานร่วมกันเป็นทีมมีความสำคัญอย่างมาก และเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่ความสำเร็จ เราจึงสนับสนุนและส่งเสริมให้ทีมงานกล้าคิด กล้าแสดงออก นอกจากนี้ พ่อยังสอนเราว่า เราต้องรู้จักเรียนรู้และปรับตัว เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเราก็ต้องปรับตัวให้ทันกับทุกสถานการณ์เพื่อให้สามารถอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข”... วิสัยทัศน์ของผู้นำรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย.