อย่าพลาดโอกาสทำบุญไปพร้อมกับการเดินเที่ยว! เพราะงานกาชาดประจำปี 2558 ได้เริ่มต้นแล้วที่สวนอัมพร สำหรับผู้ที่มีจิตใจอยากช่วยเหลือสังคม และต้องการร่วมสมทบทุนเพื่อสภากาชาดไทย ต้องมาที่งานนี้เลย
เอ๊ะ! รู้ไหมว่าเหตุใดงานกาชาดถึงต้องจัดขึ้นทุกปี และมีความสำคัญอย่างไร (ยกเว้นปีที่แล้วที่ต้องงดไปเพราะปัญหาการชุมนุมทางการเมือง) วันนี้ Mytourออนไลน์ ขอพาไปไขข้อสงสัย พร้อมทำความรู้จักกับงานกาชาดและ 10 ข้อควรรู้ก่อนลุยงานนี้ ที่ไม่เพียงแต่ได้ความรู้ แต่ยังสามารถลุ้นโชคอีกด้วย
1. งานกาชาดเพื่อผู้ประสบภัยและผู้เดือดร้อน

มาเรียนรู้ประวัติของ สภากาชาดไทย กันเถอะ สภากาชาดไทยเริ่มต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) หลังจากที่ประเทศสยามเกิดความขัดแย้งกับฝรั่งเศสในเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ซึ่งนำไปสู่การสู้รบและมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในยามสงครามต้องการการจัดตั้งองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลบรรเทาทุกข์ในช่วงนั้น
รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงห่วงใยทหารหาญและอาสาสมัครที่เสียสละเพื่อปกป้องพระราชอาณาเขต จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งสภาอุณาโลมแดงแห่งสยามเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2436 เพื่อส่งยา เวชภัณฑ์ อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไปยังทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พระองค์ยังทรงอนุญาตให้มีการเรี่ยไรเงินจำนวน 443,716 บาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลในสมัยนั้น นับเป็นครั้งแรกที่มีการระดมทุนเพื่อจัดตั้งองค์กรนี้
หลังจากนั้น สภากาชาดไทยได้จัดงานกาชาดครั้งแรกระหว่างวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2465 ถึง 8 เมษายน 2466 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อหาประชาสมาชิกให้แก่สภากาชาดไทย โดยสมาชิกจะต้องเสียค่าบำรุง 1 บาทต่อปี งานครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามหลวง และตั้งแต่นั้นมา งานกาชาดก็ได้จัดเป็นประจำทุกปีและขยายความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ
2. ธีมของงานกาชาดในปี 2558

สำหรับงานกาชาดประจำปี 2558 ถือเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อการกุศล ภายใต้แนวคิด ถวายพระพร องค์อุปนายิกา 60 พรรษา ปวงประชาสุขใจ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2558 รวม 9 วัน 9 คืน ณ สวนอัมพร ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ถนนศรีอยุธยา และถนนราชดำเนินนอก
ในปีนี้ สภากาชาดไทยได้เชิญชวนหน่วยงานที่ร่วมงานจัดตั้งร้านในงานกาชาดประดับพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่หน้าร้านของแต่ละหน่วยงาน
3. สิ่งที่ทำให้ปีนี้พิเศษ

ความพิเศษของงานกาชาดปีนี้คือ ในวันที่ 2 เมษายน 2558 เวลา 19.00 น. จะมีการจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย พร้อมทั้งประกอบพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะ เนื่องในโอกาสพระชนมายุครบ 5 รอบ
ในพิธีนี้จะมี หม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายการจัดหารายได้ รองประธานกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาด พร้อมทั้งผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมออกงาน รวมถึงศิลปิน นักร้อง นักแสดง และประชาชนผู้ร่วมงาน ร่วมแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติในโอกาสสำคัญนี้
ทุกคนจะพร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรในเวลา 19.00 น. และร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ เวทีกลางลานพระบรมรูปทรงม้าในงานกาชาดปีนี้
4. คุณสั่งจองเสื้อม่วงกันหรือยัง?

หากคุณสนใจเข้าร่วมงานกาชาดปีนี้ อย่าลืมเตรียมเสื้อสีม่วงให้พร้อม สำหรับผู้ที่ต้องการเสื้อสามารถสั่งจองได้ผ่านเว็บไซต์ redcrossfundraising.org หรือทางเฟซบุ๊กของสภากาชาดไทย ที่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมและแบบฟอร์มสั่งจอง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของสภากาชาดไทย หรือหาซื้อเสื้อสีม่วงได้ที่ร้านเสื้อผ้าทั่วไปที่มีการจำหน่ายเสื้อสีม่วงในช่วงนี้
5. รางวัลใหญ่จากซุ้มกองทัพบก: รถเบนซ์

เมื่อมางานกาชาด ทุกคนต่างก็อยากมีโอกาสลุ้นรางวัลจากการจับสลาก ที่มีรางวัลมากมาย เช่น ขนม เครื่องดื่ม ผ้าห่ม พัดลม ทีวี ตู้เย็น และที่โดดเด่นที่สุดในซุ้มสลากกาชาด คือรางวัลใหญ่ รถเบนซ์ ที่จัดขึ้นโดยซุ้มกองทัพบก ซึ่งมีสมาคมแม่บ้านทหารบกเป็นผู้ดูแล ใครที่อยากลองโชคต้องมาที่นี่ โดยมีรางวัลรวม 7 รางวัลดังนี้
รางวัลที่ 1 คือ รถเบนซ์ C180 เอ็กซ์คลูซีฟ ที่ชำระภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว
รางวัลที่ 2 คือ รถยนต์โตโยต้า วีออส 1.5S
รางวัลที่ 3 คือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ
รางวัลที่ 4 คือ รถจักรยานยนต์สปาร์ค 115ไอ
รางวัลที่ 5 คือ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 3 รางวัล
รางวัลที่ 6 คือ โทรทัศน์ LED TV โตชิบา 2 รางวัล
รางวัลที่ 7 คือ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 5 รางวัล
นอกจากนี้ยังมีการหมุนเลขท้าย 10 ครั้ง โดยมอบสร้อยคอทองคำหนักหนึ่งสลึง จำนวน 10 รางวัล และมีการเล่นเกมช้อนไข่ ครั้งละ 25 บาท เพื่อเสี่ยงโชครับรางวัลเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย โดยบูธของกองทัพบกจะตั้งอยู่ที่บริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม
6. มหรสพสนุกสนานตลอด 9 วัน

ภายในงานจะมีเวทีกลางที่เต็มไปด้วยการแสดงจากมหรสพต่างๆ ตลอดทั้ง 9 วัน 9 คืน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีมินิคอนเสิร์ต การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยพื้นบ้าน รวมถึงการโชว์ทักษะพิเศษจากเยาวชนอีกด้วย
7. รวมกาชาดทั่วประเทศมาไว้ที่นี่
จุดเด่นของงานกาชาดที่สวนอัมพร คือ การรวมพลังจากเหล่ากาชาดทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจะนำเสนอผลงานกิจกรรมและนิทรรศการที่แสดงถึงความทุ่มเทของเหล่ากาชาดในพื้นที่นั้นๆ พร้อมกับจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เด่นและของดีจากแต่ละจังหวัดอย่างเต็มที่
8. กิจกรรมน่าสนใจ

งานกาชาดในปีนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ที่จัดขึ้นเพื่อสาธารณกุศล เช่น การออกร้านของหน่วยงานจากทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 200 ร้าน, การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคม เช่น การบริจาคเลือดร่วมกับสภากาชาดไทย, การจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ และกิจกรรมเสี่ยงโชคชิงของรางวัลผ่านการซื้อสลากกาชาด, รวมไปถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์อีกด้วย
9. ถ่ายภาพที่พระบรมรูปทรงม้า

การเดินเที่ยวชมงานกาชาดก็เป็นอีกหนึ่งความสนุก โดยเฉพาะการถ่ายรูปกับพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะการประดับไฟในยามค่ำคืนเพิ่มความงดงามให้กับรูปภาพได้มากกว่าตอนกลางวัน ลองไปถ่ายรูปในมุมนี้ดู แล้วจะเห็นว่าภาพที่ได้จะสวยงามและน่าประทับใจอย่างมาก
10. เดินเล่น ช็อปปิ้ง และชิมอาหาร
เนื่องจากงานกาชาดเป็นงานใหญ่ประจำปีที่มีเป้าหมายเพื่อการกุศล จึงมีร้านอาหารมากมายที่จัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เลือกชิม โดยการเดินชมรอบงานและชิมอาหารจากร้านต่างๆ จะทำให้คุณได้สัมผัสความอร่อยตลอดการเดินทางจนเต็มอิ่ม ส่วนที่สำคัญคือ คุณจะได้รับความสนุกสนานและความสุขจากการได้ร่วมบริจาคเพื่อสาธารณกุศลกับสภากาชาดไทย และกลับบ้านด้วยความประทับใจ

ขอบคุณภาพจาก : redcrossfundraising.org, facebook ThaiRedCross, redcross, munkonggadget