
สานฝันต่อยอดธุรกิจจากรุ่นพ่อ สร้างแบรนด์รถยนต์ของคนไทยที่ก้าวไกล
โดยมีการกำหนดให้เธอเข้ามาสานต่อธุรกิจในฐานะลูกคนโต “ธันยนันท์ ลีนุตพงษ์” นักบริหารสาววัย 26 ปี ทายาทของ สรวิศย์ ลีนุตพงษ์ ซีอีโอของบริษัท ยนตรกิจคอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ยุวลีย์ ลีนุตพงษ์ (ทวียนต์ชัย) ผู้บริหารบริษัท ถาวรแทรคเตอร์เอ็นจิเนียริง จำกัด และ LIT Bangkok Hotel ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของค่ายยนตรกิจ ในตำแหน่ง Executive Director ของบริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้
ธันยนันท์ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ลูกแพร์ เผยว่าเธอมีพี่น้อง 2 คน และทั้งเธอและน้องชาย “ธนินท์ ลีนุตพงษ์” ต่างก็เข้ามาช่วยงานที่บ้านทั้งคู่ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเธอได้ซึมซับธุรกิจของครอบครัวมาโดยตลอด ส่วนทางด้านการศึกษานั้น เธอตั้งใจเรียนในสาขาบริหาร แต่คุณแม่ที่มีพื้นฐานทางบัญชีอยากให้เธอเลือกศึกษาวิชาอื่นๆ และเมื่อจบมัธยมจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เธอจึงเลือกสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ เอกการเมืองการปกครองและการคลังที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยตั้งใจว่าจะทำงานที่อื่นก่อนหลังจากจบการศึกษา ในระหว่างเรียนเธอได้ไปฝึกงานที่กรมละตินอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ หลังจากจบการศึกษาจึงได้เข้าทำงานที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ในแผนกบริหารผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ 1 ปี ก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนด้านการตลาดและกลยุทธ์บริหาร ก่อนจะเข้ามาเรียนรู้งานที่ยนตรกิจคอร์ปอเรชั่นแทบทุกแผนก
ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่เล่าต่อว่าในช่วงเวลาที่เรียนรู้งาน คุณพ่อมักจะสอนให้มองภาพรวมของงาน บางครั้งอาจจะมีการรั่วไหลในบางจุด แต่สิ่งสำคัญคือไม่ต้องกังวลมาก เพราะหากเราต้องไปแก้ไขทุกจุดก็จะไม่มีเวลาในการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ดังนั้นการทำงานจึงต้องมองภาพใหญ่และมุ่งเน้นในจุดที่สามารถแก้ไขได้ ขณะเดียวกันคุณแม่ก็มักจะสอนให้ทำงานด้วยความระมัดระวังและเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถึงแม้ตอนนี้แพร์จะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึงปี แต่แพร์ก็พยายามเรียนรู้ทุกแผนกและงานต่างๆ ซึ่งในการทำงานเธอจะไม่ดุหรือจู้จี้ แต่เธอต้องการให้ทุกคนรับผิดชอบในงานที่ทำ และยินดีเปิดใจรับความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
“ในการทำงาน แพร์เชื่อว่าต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจถูกตำหนิได้ ดังนั้นการศึกษาและหาความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ตอนนี้แพร์ตั้งใจที่จะพัฒนาและปรับปรุงการบริการหลังการขายของบริษัทฯ ส่วนในอนาคต แพร์มีความตั้งใจที่จะสานต่อความฝันของคุณปู่และคุณพ่อในการสร้างรถยนต์แบรนด์ไทยให้สำเร็จ เพราะที่ยนตรกิจเรามีความพร้อมทั้งโรงงานผลิตและประกอบ การทำงานนี้จะเป็นความท้าทายที่ต้องสานต่อในรุ่นของแพร์”