พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่อมตรส ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.
เมื่อเข้าสู่สนามพระวิภาวดี ในวันที่ ๙ ซึ่งถือเป็นเลขมงคลตามความเชื่อของคนไทย เนื่องจากเลข ๙ เปรียบเสมือนการก้าวไปข้างหน้า และเกี่ยวข้องกับหลายด้านในศาสนาพุทธ เช่น เปรียญธรรม ๙ ประโยคที่เป็นขั้นสูงสุดของพระสงฆ์ไทย และพระพุทธรูปสำคัญมักจะตั้งอยู่ใต้ฉัตร ๙ ชั้น ส่วนสวรรค์ชั้น ๙ ถือเป็นชั้นที่สูงสุด ซึ่งทั้งหลายนี้ทำให้เลข ๙ เป็นเลขที่ถือว่าเป็นสิริมงคลของคนไทย
ต่อไปเราจะไปทำความรู้จักกับพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระพิมพ์ยอดนิยมอีกองค์หนึ่งที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
พิมพ์นี้พบเห็นได้น้อยมาก โดยเฉพาะในกรณีที่มีสภาพสมบูรณ์ ทั้งในเรื่องฟอร์มทรง พิมพ์พระ และการเก็บรักษาคราบกรุ ผิวเนื้อด้านนอก รวมถึงมวลสารชั้นในที่มีความละเอียด และร่องรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ริ้วรอยปริ และรอยปาด
พระสมเด็จองค์นี้ได้รับการยกย่องจากวงการพระสมเด็จว่าเป็นองค์ที่งดงามที่สุดในพิมพ์นี้ และมีชื่อเสียงในฐานะ “องค์ดารา” จากหนังสือตำราพระสมเด็จที่ถือเป็นมาตรฐาน ด้วยฉายา “องค์เสี่ยดม” หรือ อุดม กวัสสราภรณ์ เซียนพระรุ่นใหญ่ที่มีผลงานเป็นตำนานในวงการ โดยเป็นเจ้าของพระเครื่องยอดนิยมที่มีความพิเศษมากมาย
โดยเฉพาะพระชุดเบญจภาคี เช่น พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ และพระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ลายกนก ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์แชมป์ของแผ่นดิน ซึ่งก็รวมถึงพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม องค์นี้ด้วย
พระองค์นี้ถูกเก็บไว้อย่างเงียบๆ ตลอดเวลาของเสี่ยดม จนแทบจะถูกลืมไป แต่เมื่อเสี่ยกบ-ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ได้นำพระองค์นี้ออกมาในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิม ทำให้เกิดกระแสฮือฮาในวงการพระ โดยเสี่ยกบได้รับการชื่นชมไม่เพียงแต่จากการเปิดเผยพระองค์นี้ แต่ยังจากความสามารถในการเลือกพระที่มีคุณค่า เป็นนักนิยมพระที่ตาถึงและการตัดสินใจที่ถูกต้องในการคว้าพระแชมป์

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นพระแท้ที่ดูง่ายและสบายตาอีกองค์หนึ่ง สภาพสมบูรณ์พอที่จะโชว์ได้และยังคงพลังความเข้มขลังจากผิวเนื้อที่สัมผัสได้ถึงร่องรอยการใช้งาน เมื่อเปิดดูเนื้อในก็พบว่ามีมวลสารที่อัดแน่นและครบสูตร
พระองค์นี้เป็นพระที่ขายง่ายและมีความต้องการสูงในตลาด แม้จะหายากและมีความงามคลาสสิกจากเส้นศิลป์แบบนูนต่ำ ชื่อพิมพ์ของพระก็มีความมงคล เส้นด้ายที่ฟังแล้วมีเสียงพ้องกับคำว่า 'ได้' ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับพิมพ์ยอดนิยมชุดใหญ่ ที่เสียงพ้องกับ 'พิมพ์ใหญ่' และ 'พิมพ์ทรงเจดีย์'
เจ้าของพระองค์นี้คือ ภัทรธนกวินท์ พงสินธนัชณิชดา ซึ่งถือเป็นชื่อใหม่ในวงการพระ แต่เมื่อเปิดตัวก็สร้างความประทับใจทันที เพราะพระที่มีคุณภาพเช่นนี้ หากมีเงินอย่างเดียวก็ไม่ใช่ว่าจะหามาครอบครองได้ง่ายๆ

พระรอดพิมพ์เล็ก เนื้อเขียวคราบแดง จากวัดมหาวัน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นพระพิมพ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มรองที่มีความสวยงามไม่แพ้พิมพ์หลัก ฟอร์มทรงตรงตามมาตรฐาน พิมพ์พระคมชัด ผิวเนื้อสีเทาแกมเขียวที่มีริ้วรอยตามอายุ
ซอกลึกของพระมีคราบกรุ 'ดินแดง' ที่จับแน่น ซึ่งแสดงถึงธรรมชาติของพระกรุเมืองเหนือที่ฝังอยู่ในพื้นที่ดินแดง เป็นพระแท้ที่ยังคงสภาพเดิมๆ ไม่มีการดัดแปลงหรือแต่งเติม หากพิจารณาจากคุณภาพนี้ ราคาคงต้องเริ่มต้นที่หลักล้าน แต่จะมากหรือน้อยต้องถาม เสี่ยโจ๊ก ลำพูน

อีกหนึ่งองค์คือ พระชัยวัฒน์ กะไหล่ทอง พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพระของเสี่ยนิว เมืองชล
พระชัยวัฒน์นี้ถูกสร้างขึ้นในขณะที่พระพรหมมุนีดำรงสมณศักดิ์ โดยเป็นเนื้อนวโลหะที่มีสีสันสวยงาม สีนากจะกลับเป็นขาวแล้วกลับดำ จำนวนการสร้างประมาณ ๒๘ องค์
เนื่องจากมีคณะศิษย์หลายสกุลร่วมกันสร้างพระองค์นี้ การตกแต่งจึงมีความแตกต่างหลายฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในฝีมือของ พระยาศุภกรณ์บรรณสาร (นุ่ม วสุธาร) ที่ทำการแต่งกริ่งโดยช่างทองจากราชสำนัก หลวงสุวรรณ
ใต้ฐานพระจะมีจารึกอักขระบาลี ซึ่งเป็นชื่อของพระอัครสาวกที่ไม่มีการซ้ำกัน เช่น องค์นี้ที่ระบุว่าเป็นของพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) โดยมีการสลักอักขระบาลีที่มีนามย่อ จอ ตอ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนามของพระอัครสาวกองค์ใด
ไปที่ภาคใต้เพื่อชม พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พ.ศ.๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่นิยม เอ (หัวขีด) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพระพิมพ์เนื้อว่าน รุ่นแรกที่พระครูวิสัยโสภณ (อ.ทิม ธมมฺธโร) เจ้าอาวาสวัดช้างให้ สร้างขึ้นเพื่อมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญบูชา โดยรายได้จากการบูชาจะนำไปใช้ในการบูรณะวัด
พระพิมพ์นี้ถูกสร้างขึ้นจากนิมิตที่เห็นเป็นพระชรานั่งสมาธิอยู่เหนือฐานกลีบบัวคว่ำและบัวหงาย โดยมีการใช้เนื้อว่านยาทำการกดพิมพ์เป็นรูปทรงพระกลีบบัวซึ่งมีสีที่หลากหลาย ตั้งแต่สีน้ำตาล เทา และดำ
ด้านหลังพระมีเม็ดแร่ดำเงา “แร่กิมเซียว” ฝังอยู่ในเนื้ออย่างแน่นหนา พระพิมพ์นี้แบ่งตามขนาดได้เป็นพิมพ์ใหญ่, พิมพ์ต้อ, พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก และแต่ละขนาดก็มีแม่พิมพ์แยกย่อยมากมาย รวมทั้งหมดมากกว่า ๑๖ แม่พิมพ์
พิมพ์ใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมีหลากหลายแม่พิมพ์ ได้แก่ ๑.พิมพ์กรรมการ ๒.พิมพ์นิยมเอ (หัวขีด) ๓.พิมพ์ใหญ่นิยม บี (ไหล่จุด) ๔.พิมพ์ใหญ่ซี บัวขีด ๕.พิมพ์ต้อ
พระองค์นี้เป็นของ เสี่ยกบ-ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ซึ่งเป็นพระพิมพ์ใหญ่ เอ (หัวขีด) นิยมสุด เนื้อนิยมสุด และคราบไขสมบูรณ์สุด จึงได้รับการยกย่องว่าเป็น องค์แชมป์ประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการซื้อขายจากรังใหญ่เมืองใต้และย้ายมาอยู่ในรังใหญ่เมืองกรุง ด้วยราคาสูงถึงหลัก 10 ล้าน ทำให้พระหลวงปู่ทวดได้รับการขนานนามว่าเป็น “สมเด็จเมืองใต้” จนถึงทุกวันนี้



สุดท้ายพระรูปเหมือน รุ่น ๒ ของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นพระของศิษย์เอกหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคปีกึ่งพุทธกาลของเมืองสุพรรณ
หลังจากยุคสงคราม ชาวบ้านที่กลับมาฟื้นฟูชีวิตต้องหันไปพึ่งพาพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง ซึ่งช่วยให้พระเครื่องของหลวงพ่อมุ่ยแพร่หลายออกไปในวงกว้าง เนื่องจากท่านสร้างพระเครื่องที่มีอานุภาพทั้งด้านเมตตาและโชคลาภ
การบูชาพระเครื่องหลวงพ่อมุ่ยไม่เคยขาดสาย ผู้คนเดินทางมาอย่างไม่หยุดหย่อน และพระเครื่องยุคแรกๆของท่านก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่นพระรูปเหมือนรุ่น ๒ ที่เสี่ยทนันท์ ยอดศรีมงคลได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๐๓-๐๕ มีสภาพสมบูรณ์และดูแท้ ทำให้ราคาอยู่ที่หลักหมื่นต้นๆ
ในเรื่องขลังๆของเสี่ยศานติ ประนิช นักธุรกิจใหญ่ลูกหลานสายพระประเสริฐวานิช (โป้) สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อรัฐบาลยกเลิกการใช้บรรดาศักดิ์ ลูกหลานจึงนำบรรดาศักดิ์ของบรรพบุรุษมาใช้เป็นนามสกุลเช่น ประนิช ภิรมย์ภักดี
เสี่ยด้อม-ศานติ จึงได้เรียนรู้เรื่องราวของบรรพบุรุษจากคุณปู่คุณตาและคุณพ่อ ที่เล่าต่อๆ กันมาถึงวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตที่เรียบง่ายและละเมียดละไม ต่างจากยุคสมัยปัจจุบัน
เสี่ยด้อม ซึ่งเป็นเด็กต่างประเทศจากการที่ถูกส่งไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เขามีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนคนรุ่นใหม่ ขับซุปเปอร์คาร์ เฮฮาปาร์ตี้และดื่มไวน์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความสนใจในศิลปะของเก่า รวมถึงพระเครื่องที่เขาถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขามีพระยอดขุนพล ลพบุรี เนื้อโลหะติดตัวเสมอ
เมื่อหลายเดือนที่แล้ว เสี่ยด้อมก็รู้สึกเศร้าใจ เพราะเขาทำสร้อยพระยอดขุนพลหายไป เขาคิดว่าอาจจะถอดไปลืมเอาไว้ที่ไหนในระหว่างที่เขาดื่มจนเมา เขาก็ไม่สามารถนึกออกได้เลย ว่าจะหายไปที่ไหน จึงตัดสินใจทำใจและอธิษฐานว่า ถ้ายังมีวาสนา ขอให้เจอกับมันอีกครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านในเลกโคโม เมืองตากอากาศหรูหราของอิตาลีเหมือนทุกปี เมื่อเขาเปิดประตูห้องนอน เขาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นพระยอดขุนพลวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเด่นชัด
เสี่ยด้อมยิ่งมั่นใจว่า พระที่เขาได้รับกลับมานั้นเป็นพระศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะพระถูกใส่ในตลับทองคำและสร้อยพระก็เป็นทองคำ ใครก็ตามที่เข้าห้องนอนจะต้องเห็นพระนี้ ถ้าหากมีคนจะแอบไปขโมยทองคำที่แพงอย่างยิ่งในช่วงนี้ ก็ยากที่จะทำได้ เพราะในช่วงสามถึงสี่เดือนที่ผ่านมา ก็มีแขกจากที่ต่างๆ มาพักที่บ้านของเขาหลายคน
ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าพระที่เขามีอยู่นั้นศักดิ์สิทธิ์จริงและสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ เขาเชื่อว่าพระสามารถป้องกันไม่ให้ใครเห็นพระจนมันไม่หายไป และเมื่อเขาได้พระกลับมา เขาจึงตั้งใจที่จะรอให้พระแสดงปาฏิหาริย์อีกครั้ง เขาหวังว่าพระจะช่วยปกปิดให้เขาไม่ให้ภรรยาเห็นตอนที่เขาไปดื่มเหล้าจนกลับบ้านตีสาม
สีกาอ่าง