พระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ โดยจตุโชค สัยยะนิฐี
ผ่านร้อนผ่านหนาวผสมฝุ่น PM ๒.๕ มาเปิดเวทีพระเครื่อง เรื่องใหญ่ที่แฟนๆ “สีกาอ่าง” กำลังติดตามในปีที่ ๒๗ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใครจะคาดคิด
เริ่มต้นวันนี้ด้วย พระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ของ เสี่ยจตุโชค สัยยะนิฐี ซึ่งถือว่าเป็นคนที่มีโชคดีตลอดทั้งปีกับ “พระสมเด็จ” ตั้งแต่ต้นปีใหม่ที่ได้พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ องค์ตำนาน ที่ทำให้ทุกคนประทับใจ
วันสงกรานต์ที่ผ่านมาก็ยังโชคดีอีก ได้พระพิมพ์ทรงเจดีย์ องค์ที่มีชื่อเสียงระดับดารา ที่ได้รับการบันทึกในตำราพระสมเด็จมาอย่างยาวนานกว่า ๕๐ ปี
ภาพจำได้ว่าเป็นหนึ่งในห้าของพระแชมป์ พิมพ์ทรงเจดีย์ วัดระฆังฯ ที่จะครองตำแหน่งนี้ไปตลอดกาล ประเมินราคาตามหั่งเช้ง “องค์เจ๊แจ๋ว” แชมป์เบอร์ต้นของพิมพ์ ที่ราคาพุ่งสูงไปถึงหลักร้อยล้านแล้ว คิดว่าองค์นี้คงจะอยู่ในระดับ ๕๐ ล้าน บวกลบตามสมควร

ต่อกันที่ พระสมเด็จอรหัง พิมพ์สังฆาฏิ ของ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ที่เป็นต้นตำรับของ “พระสมเด็จ” ทั้งรูปแบบพระเนื้อผงพุทธคุณและรูปทรงสี่เหลี่ยม (ชิ้นฟัก) รวมถึงพิธีกรรมที่มีความเข้มข้นตั้งแต่การเขียนอักขระและการทำผงพุทธคุณ ๕ ประการ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห และนวหรคุณ
เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาในโอกาสที่ท่านได้รับการสถาปนาเป็นพระราชาคณะชั้น “สมเด็จ” ที่สมเด็จญาณสังวร ณ วัดพลับในปี พ.ศ.๒๓๖๐ และบรรจุในองค์พระเจดีย์ที่วัดมหาธาตุ
เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๓ พบพิมพ์พระสมเด็จจากองค์พระเจดีย์ วัดมหาธาตุ โดยแยกพิมพ์ได้เป็น ๑. พิมพ์สังฆาฏิ (เข่าตรง) ๒. พิมพ์ฐานคู่ (เข่าโค้ง) ๓. พิมพ์เกศอุ ๔. พิมพ์โต๊ะกัก (เนื้อแดง) ๕. พิมพ์เล็ก (เปลวเพลิง)
ด้านหลังเรียบ พบทั้งที่มีรอยลายมือจารอักขระภาษาบาลี “อรหัง” แบบอักขระแม่พิมพ์กดจมเข้าเนื้อ (โต๊ะกัง) และแบบเรียบไม่มีอักขระ พระนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้ใช้แทนพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯโต ด้วยดีกรีเป็นต้นตระกูลพระสมเด็จที่สร้างโดยองค์พระอาจารย์ท่านอย่างแท้จริง
พระองค์นี้ของเสี่ยก้อง พระสมเด็จ มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม มีรอยสัมผัสผ่านการใช้งานจนเนื้อพระอมเหงื่อไคล ดูเข้มขลังเต็มไปด้วยพลังอานุภาพ เหมาะแก่การใช้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

ตามมาติดๆ ด้วย พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตลอด วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. ๒๔๐๗ และนำไปบรรจุในองค์พระหลวงพ่อโตที่ท่านได้สร้างกลางลานวัดไชโย เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่โยมตาและโยมแม่ เป็นอนุสรณ์ที่ท่านมาเจริญวัยหัดลุกนั่งในถิ่นนี้
พระสมเด็จเกศไชโยมีพิมพ์ที่เป็นมาตรฐาน ๓ พิมพ์ ได้แก่ ๑. พิมพ์ใหญ่ นิยม A ฐาน ๗ ชั้น ๒. พิมพ์กลาง ๖ ชั้น อกตัน ๓. พิมพ์เล็ก ๖ ชั้น อกตลอด
พระพิมพ์ ๖ ชั้น อกตลอด องค์นี้ของเสี่ยแดง โดมคำ สปป.ลาว โดดเด่นด้วยความงามระดับแชมป์ ฟอร์มทรงสมบูรณ์แบบ พิมพ์พระที่คมชัดทุกรายละเอียด ผิวพรรณที่เรียบเนียนและเพอร์เฟกต์ เนื้อมวลสารที่มีคุณภาพครบถ้วนซึ่งหายากในยุคปัจจุบัน ราคาน่าจะต้องขึ้นไปที่หลักล้าน ++ อย่างไม่ต้องสงสัย

พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ลายกนกกรุลานทุ่งเศรษฐี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่ถือว่าโชคดีที่ได้ชมองค์งามๆ แบบนี้ในช่วงเวลาหายาก ทวนประวัติคร่าวๆ ว่ากำแพงเพชรในอดีตเป็นเมืองลูกหลวงที่พระเจ้าแผ่นดินส่งเชื้อพระวงศ์ไปปกครอง ตั้งอยู่ใกล้เมืองศรีสัชนาลัยทางทิศใต้ของสุโขทัย และเป็นประตูสู่อาณาจักรภาคเหนือในปัจจุบัน
ในอดีตเมืองนี้มีชื่อว่า “ชากังราว” ตั้งอยู่ริมน้ำปิง และเป็นเมืองที่สำคัญในฐานะปราการด่านหน้าของกรุงศรีอยุธยา กษัตริย์ไทยมักใช้ที่นี่เป็นที่พักในการตั้งหลักก่อนจะยกทัพไปปราบปรามข้าศึกทางภาคเหนือ เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยศิลาแลง มีวัดวาอารามและโบราณสถานมากมาย บ่งบอกถึงความสำคัญไม่แพ้เมืองสุโขทัยและศรีสัชนาลัย
เมืองนี้มีถนนพระร่วงเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่โบราณ และยังมีหลักฐานกำแพงศิลาแลงที่สร้างขึ้นในสมัยพระธรรมราชาลิไทที่ใช้บัญชาการศึกที่เมืองนี้
ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำปิง คือเมืองนครชุม ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยโบราณสถานและวัดวาอารามมากมาย ที่นั่นเต็มไปด้วยพุทธศิลป์ในสมัยสุโขทัย ที่สะท้อนฝีมือช่างเมืองกำแพงได้อย่างโดดเด่น แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองที่สามารถกำหนดรูปแบบศิลปะเป็นของตัวเอง เช่น วัดมหาธาตุ
การขุดพบพระบูชาและพระเครื่องอันงดงามสะท้อนถึงพุทธศิลป์ของช่างเมืองกำแพง ที่วัดต่างๆ เช่น วัดอาวาสน้อย วัดอาวาสใหญ่ วัดพิกุล วัดฤๅษี วัดช้างรอบ วัดพระนอน วัดสี่อิริยาบถ วัดกะโลทัย วัดพระแก้ว และวัดบรมธาตุ ซึ่งล้วนอยู่ในเขตลานทุ่งเศรษฐี
โดยเฉพาะในกรุพระวัดบรมธาตุ พบแผ่นลานเงินและลานทองที่จารึกประวัติการสร้างระบุว่า เมืองพิษณุโลก กำแพงเพชร พิชัยสงคราม พิจิตร และสุพรรณบุรี ได้มีการจัดประชุมฤๅษีชื่อ “ฤๅษีตาไฟ” และ “ฤๅษีตาวัว” เพื่อตั้งใจสร้างสิ่งมงคลสำหรับพระยาศรีธรรมาโศกราช พร้อมพระพิมพ์ที่ทำจาก ๑,๐๐๐ ว่านยา และ ๑,๐๐๐ เกสรไม้วิเศษ
คำจารึกกล่าวว่า ผู้ใดพบพระพิมพ์นี้ ให้กล่าวถวายพระพร และนำไปใช้อธิษฐานขออานุภาพตามที่ต้องการ พร้อมระลึกถึงพระคุณของฤๅษีผู้สร้าง โดยจารึกท้ายว่า “มีกูไว้ไม่จน” ซึ่งเป็นที่มาของอานุภาพที่ช่วยเสริมโชคลาภและโภคทรัพย์ของพระพิมพ์แห่งกรุลานทุ่งเศรษฐี ที่พบได้มากมาย
พระพิมพ์ในกรุทุ่งเศรษฐี เช่น พระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน พระกำแพงพลูจีบ พระกำแพงกลีบจำปา พระนางกำแพง พระกำแพงเม็ดมะลื่น พระกำแพงกลีบบัว และพระกำแพงเปิดโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็นกรุ “พระทุ่งเศรษฐี” ซึ่งพระกำแพงซุ้มกอถือเป็นพระยอดนิยมอันดับ ๑ และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคี ๕ ชุด
พระกรุแห่งลานทุ่งเศรษฐีเป็นเจ้าพ่อในวงการพระที่มีทั้งเนื้อดิน เนื้อว่าน และเนื้อชิน ซึ่งในบางพิมพ์สามารถแยกได้เป็น 1. พิมพ์ใหญ่ลายกนก 2. พิมพ์ใหญ่ไม่มีลายกนก (ซุ้มกอดำ) 3. พิมพ์กลาง 4. พิมพ์เล็ก 5. พิมพ์ขนมเปี๊ยะ 6. พิมพ์อื่นๆ
พระพิมพ์นี้มีรูปทรงคล้ายเล็บมือ ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งในท่าปางสมาธิยืนเหนือฐานบัว เป็นศิลปะสมัยสุโขทัย มีขอบข้างคล้ายตัวอักษร “ก.ไก่” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ด้านหลังเป็นผิวเรียบมีรอยเป็นเอกลักษณ์ องค์นี้ของเสี่ยโจ๊ก ลำพูน เป็นพิมพ์ใหญ่ลายกนก มีสภาพสวยงามและแท้ดูง่าย ซึ่งหาชมได้ยาก ไม่ใช่มีเงินแล้วจะได้มาง่ายๆ

พระพุทธชินราชใบเสมา หลังเบี้ย เนื้อดินจากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถือเป็นพระพิมพ์ยอดนิยมที่สร้างชื่อให้กับกรุของเสี่ยพิเชษฐ์ ศิริชัย ด้วยสภาพที่หาชมได้ยากและสวยสมบูรณ์เหมาะแก่การบูชา การเก็บรักษาเป็นการอนุรักษ์ที่ดี เพราะพระเนื้อดินสภาพแบบนี้นับองค์ได้จริงๆ

เหรียญกองพันทหารลำปาง รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๗ เนื้อนวโลหะ หลวงพ่อเกษม เขมโก จากสำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ถือเป็นเหรียญของพระเกจิยอดนิยมแถวหน้าจากภาคเหนือ อันดับหนึ่งในบรรดาเหรียญหลวงพ่อเกษม ที่เป็นที่แสวงหากันอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเหรียญสภาพดีๆ (แกะกล่อง) เช่นเหรียญนี้ ของเสี่ยชัยวัฒน์ จันทร์จิเรศรัศมี ที่เป็นเหรียญเนื้อนวโลหะ ซึ่งผลิตออกมาเพียง 200 เหรียญเท่านั้น หากพบแล้วอย่าปล่อยผ่านเสียดายแน่

ต่อด้วยพระเลี่ยงกรุประตูลี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นพระกรุเก่าแก่ ชั้นดีที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักพระภาคเหนือ เป็นพุทธศิลป์สมัยหริภุญไชย ซึ่งมีอานุภาพในการคุ้มครองป้องกันภัย ทำให้เป็นที่นิยมในตลาดพระด้วยราคาที่สูง แต่ยังคงมีคนสามารถเข้าถึงได้ พระองค์นี้ของเสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ มีสภาพสมบูรณ์เดิมๆ ที่โชว์ได้และใช้งานดี ราคาอยู่ที่หลักแสนจนถึงหลักล้าน ซึ่งไม่ว่าจะซื้อไปบูชาหรือเก็บสะสมก็ได้รับผลดีทุกทาง

ปิดท้ายด้วยมีดเทพศาสตรา ๓ กษัตริย์ ด้ามงาตัด วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ที่เป็นเครื่องรางสร้างชื่อจากพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องรางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการพระ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเชื่อในอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
มีการผลิตมีดเทพศาสตราในหลายขนาด ได้แก่ ด้ามใหญ่เหมาะสำหรับควาญช้าง ขนาดกลางที่พกพาได้สะดวก ขนาดเล็กที่ใช้เป็นปากกา และขนาดจิ๋วที่เรียกว่า 'มีดสาริกา' โดยมีทั้งชนิดด้ามงาฝักงา ด้ามงา และฝักไม้
ฝีมือการทำมีดเทพศาสตราที่ได้รับความนิยมมีอยู่สองแบบ คือ ช่างฉิมและช่างไข่ โดยเล่มนี้ของเสี่ย Mytour คำปาน เป็นขนาดเล็ก (ปากกา) ที่นิยมใช้ทำแหนบรัดด้ามและสามารถเสียบกระเป๋าติดตัวได้อย่างสะดวก
โลหะรัดปลอกของมีดนี้ทำเป็นสามกษัตริย์ ได้แก่ ทอง นาก และเงิน ซึ่งน่าจะสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับบุคคลสำคัญ เล่มนี้ที่เห็นแรกก็โดนใจ ด้วยรูปทรงที่เป็นมาตรฐานและปลายด้ามงาตัดตรง ซึ่งเป็นทรงที่พบได้น้อยและหายาก
ด้ามปลอกทำจากงา มีแสงเงาที่สะท้อนจากเนื้อในบ่งบอกถึงอายุความเก่าของมัน ใบมีดทำจากเหล็กที่เซาะลายและมีสนิมขุมเกาะเข้าเนื้อได้อย่างสมบูรณ์ตามตำราเป๊ะ
ปิดท้ายด้วยเรื่องในกุฏิของเจ้าอาวาสวัดดังเมืองสุพรรณ ที่กำลังได้รับความสนใจในฐานะพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังและเมตตาธรรมที่สูงส่ง
ในวันสงกรานต์ ศิษย์ทั้งใกล้และไกล ทั้งที่เคยพบกันมาก่อนและใหม่ ก็ไปกราบนมัสการหลวงพ่อ เพื่อขอทำบุญและบูชาพระเครื่อง รวมถึงของขลังต่างๆ ที่ท่านได้สร้างไว้เต็มศาลา
เมื่อถึงเวลา หลวงพ่อก็ครองจีวรเสร็จเรียบร้อย นั่งประจำที่และเริ่มทักทายผู้คน ทุกคนที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจต่างมาหาหลวงพ่อเพื่อปรึกษา หลวงพ่อจะช่วยแนะนำว่า ควรบูชาวัตถุมงคลอะไรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น
ศิษย์ต่างก็แชร์เรื่องราวความเดือดร้อน ทั้งปัญหาการตกงาน การค้าขายไม่ดี ลูกหลานหาที่เรียนไม่ได้ หรือแม้แต่ความร้อนของอากาศที่ทนไม่ไหว ทำให้หลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากทำอะไร
หลวงพ่อพูดว่า หลายปัญหาสามารถบรรเทาได้ด้วยพระเครื่องและของขลัง แต่ปัญหาเรื่องอากาศร้อนนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ผู้คนที่ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อก็รู้สึกสงบลงไปบ้าง
ในขณะที่ทุกคนกำลังเงียบ หลวงพ่อได้ยินเสียงของ ลุงชื้น ศิษย์รุ่นใหญ่จากบ้านใกล้วัด ที่ยกมือพนมและกล่าวกับหลวงพ่อว่า “พ้มมีเรื่องเดือดร้อนมาก และมั่นใจว่าหลวงพ่อจะช่วยได้แน่”
หลวงพ่อยิ้มและถามด้วยน้ำเสียงคุ้นเคยว่า “ตาชื้น แกมีเรื่องอะไรหนักใจหรือ? ถ้าช่วยได้ ข้าจะช่วยเอง บอกมาเถอะ” ตาชื้นที่นั่งก๊งตั้งแต่เช้า หน้าแดงก่ำ ยิ้มฟันหลอกๆ ตอบว่า “จะขอยืมเงินหลวงพ่อหน่อยครับ เพราะตอนนี้ร้อนเงินจริงๆ อามิตตพุทธ”
สีกาอ่าง