
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ที่ 5 พิมพ์ปรกโพธิ์ “ตรียัมปวาย” อธิบายว่า มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งแปลกไปจากพิมพ์ทรงใดๆ คือการบรรจุดอกดวงของช่อโพธิ์ ลงในส่วนยอดของผนังคูหา ประมาณ 20 ช่อ
เป็นการเน้นความหมายของปางตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ แห่งพระบรมศาสนา ณ ร่มควงไม้โพธิ์ใบ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา พุทธคยาสถาน ณ มัธยประเทศ
เป็นพิมพ์ทรงที่มีปรากฏน้อยที่สุด
นี่คือความรู้พื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในพระสมเด็จ
ภาพพระในหนังสือของครู เป็นภาพขาวดำที่คนรักพระสมเด็จได้นำไปต่อยอดความรู้ โดยองค์แรกน่าจะมาจาก นพ.สุประเกตุ จารุดล ในหนังสือพระเครื่องเล่มแรกของประชุม กาญจนวัฒน์ ซึ่งมีการขยายภาพเป็นสี ในยุคแรกๆ ของนิตยสารลานโพธิ์ที่ปกยังไม่เป็นกระดาษหน้าอาบน้ำมัน ยังพอมีโอกาสได้เห็น
เค้าโครงของปรกโพธิ์องค์หมอสุประเกตุมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับพระสมเด็จพิมพ์อื่นๆ
ต่อมาในหนังสือเล่มแรกของคุณประจำ อู่–อรุณ ไม่มีภาพ “พี่จำ” เขียนไว้ว่า พระพิมพ์ปรกโพธิ์มีอยู่ แต่ไม่สามารถหามาลงพิมพ์ได้ แต่ในเล่มของคุณวรเทพ รัตนอุดมศิลป์ที่พิมพ์ตามมา มีภาพพระสีให้ดูสององค์
องค์หนึ่งมีลายเส้นที่ดูหนากว่าขององค์หมอสุประเกตุและเข้ากับรูปแบบปรกโพธิ์เกศบัวตูม
องค์นี้เคยขึ้นปกนิตยสารหลายครั้ง โดยระบุชัดเจนว่าเป็นพระวัดระฆัง เจ้าของเป็นนายทหารเรือยศนาวาเอก...มีข่าวว่าพระองค์นี้จะไปเปิดราคาในสนามท่าพระจันทร์ (หน้าวัดมหาธาตุ) ประมาณ 7 แสน แต่เกิดปัญหาจากตาเซียน บางคนบอกว่าไม่ใช่วัดระฆัง เป็นแค่บางขุนพรหม...หลังจากนั้นข่าวก็เงียบไป
ประมาณสิบปีที่แล้ว มีภาพพระในหนังสือพระวงการ จนกระทั่งพระองค์นี้กลายเป็นภาพพระใหญ่ในหนังสือของคุณเช็ง สุพรรณ โดยมือสุดท้ายที่ได้ไว้ในราคา 14 ล้าน
ถือเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของพิมพ์ปรกโพธิ์ไว้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ทุกองค์ถูกตาเซียนทักว่าใช่หรือไม่ใช่ไปเรื่อยๆ
ต่อมา พระต้นแบบปรกโพธิ์ฐานแซมในหนังสือตรียัมปวาย ที่ครูถ่ายภาพไว้ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และข้าง ก็เป็นองค์เดียวกับที่ครูกล่าวถึงว่า ‘ล่องชาด’ และทารักปิดแผ่นกระดาน...หลังจากนั้นผมได้เห็นเต็มตาในหนังสือชุดของคุณอรรถภูมิ บุญยเกียรติ ซึ่งมีคำบรรยายที่แสดงว่า วงการไม่มั่นใจในองค์นี้...
จนกระทั่งได้รู้จากคุณสุธน ศรีหิรัญ บก.ลานโพธิ์ ว่าเป็นพระขององค์ชายใหญ่ (พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล) เมื่อได้รู้เช่นนั้นผมถึงกับอึ้ง เพราะพระของผู้ใหญ่รุ่นนี้ยังถูกเซียนทัก...ปัจจุบันไม่ทราบว่าพระองค์นี้อยู่กับใครแล้ว
ในช่วงหลังนี้ มีภาพของพระปรกโพธิ์ฐานแซมที่พิมพ์ขึ้นมาในมือเซียนใหญ่หลายองค์ การเปลี่ยนมือในวงการได้รับการยืนยัน...ความลังเลที่เคยมีดูเหมือนจะหายไป เพราะมือที่ถือพระล้วนเป็นเซียนชั้นสูงที่มีชื่อเสียง
ปัญหาที่ผมเองในฐานะคนรักพระสมเด็จรุ่นนี้ต้องทักคือ ความสับสนระหว่างพระของวัดระฆังหรือบางขุนพรหม เมื่อได้เห็นคราบกรุที่ติดแน่นเต็มตา...พี่ก็ได้เขียนบรรยายว่าเป็นพระของวัดระฆังโดยตรง
หลังจากได้เก็บพื้นความรู้และที่มาของพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ไว้บ้างแล้ว ผมจึงหันไปเติมความรู้เพิ่มเติมจากพระที่มีในคอลัมน์เส้นสายลายพิมพ์ โดยภาพรวมแล้วก็เป็นพิมพ์ปรกโพธิ์สังฆาฏิ
พระองค์นี้ลงรักแล้วลอกออก เหลือรักติดปื้นหน้าบริเวณอกและแขน ภายในพื้นผนังมีรักบางๆ แต้มแต่งเพื่อเพิ่มสีสัน เนื้อพระละเอียดขาวขุ่นและนุ่มนวลพอสมควร ผิวหน้าฝ้าหนาปกคลุมด้วยเม็ดมวลสาร เมื่อพลิกด้านหลังจะเห็นรักและฝ้ารักที่เนียนแน่น สภาพไม่ต่างจากด้านหน้า
สภาพของพระที่ยังคงมีผิวดิบๆ อย่างนี้ อาจจะถูกทักว่าเป็นพระบางขุนพรหมได้ แต่ความนุ่มนวลของเนื้อพระทำให้เจ้าของพระมั่นใจว่าเป็นของวัดระฆังอย่างแน่นอน ปัญหาเรื่องวัดนั้นสามารถมีข้อถกเถียงได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถเถียงได้เลยคือความเป็นพระแท้
พลายชุมพล