ทุกครั้งที่เข้าสนามพระฯ ในวันหวยออก จะเห็นบรรยากาศคึกคักอยู่เสมอ เพราะทุกคนลุ้นว่าจะได้เลขเด็ดจาก ‘ไอ้ไข่’ หรือจากสำนักอื่น จะเต็งหรือโต๊ด หรือบางทีก็อาจจะออกมาแบบไม่ตรง...
แต่ในงวดนี้ไม่ต้องลุ้นอะไร แค่ดูพระเครื่องระดับแชมป์สวยๆ ได้เลย เริ่มจากพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ จากกรุวัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพฯ ของ เสี่ยรัน ศรัณย์ยักษ์...
พระนี้เป็นพระที่ลอกคราบกรุออกมาแล้ว พบเห็นเส้นศิลป์และพิมพ์พระชัดเจน เนื้อพระขาวนวล หนึกแน่น สะอาดตา แม้มีบางจุดที่เนื้อหลุดหายไปเล็กน้อยที่มุมด้านขวาบนขององค์พระ แต่ถือว่าไม่สำคัญ เพราะมันอยู่ข้างนอกซุ้ม เมื่อตัดใส่ตลับก็ไม่เห็น สวยมากแบบโชว์ได้...
ปัจจุบันพระสมเด็จแท้ที่สภาพสวยแบบนี้เป็นพระทรงค่าหายากที่หามาได้ยาก สมควรแก่การสะสมเพื่อบูชาและเสริมพุทธคุณ หรือจะเก็บเป็นมรดกให้ลูกหลาน หรือหากคิดจะลงทุน ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีตำหนินิดหน่อย แต่ราคาก็ยังน่าซื้อและน่าสะสม...

อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจคือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์นิยม ๗ ชั้น A จากวัดไชโยวรวิหาร อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง...
มีการเล่าขานถึงพระธรรมถาวร ที่ในช่วงเป็นเณร มีหน้าที่ตำผงและสร้างพระสมเด็จฯ โดยสมเด็จฯ โต ท่านได้สร้างพระพิมพ์แบบอกร่อง หูยาน และกรอบกระจก พร้อมพระพิมพ์วัดระฆังฯ เพื่อนำไปบรรจุในองค์พระประธานที่ท่านได้สร้างไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการที่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่ซึ่งโยมตาได้ถวายที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณตาและแม่...
การบรรจุพระพิมพ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา โดยเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๗-๒๔๓๐ ในช่วงที่มีการบูรณะวัดตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระยารัตนบดินทร (บุญรอด กัลยาณมิตร) ได้รับมอบหมายให้ดูแลการบูรณะ ทำให้เกิดแรงกระทบกระเทือน จนอองค์พระประธานพังทลายและพระพิมพ์รูปสี่เหลี่ยมแบบกรอบกระจกจำนวนมากตกกระจายรอบองค์พระ...
พบพระพิมพ์แตกต่างกันมากกว่า ๑๐ พิมพ์ในช่วงแรก ซึ่งมีความสงสัยว่าเป็นพระที่สมเด็จฯ โต ท่านได้สร้างและบรรจุไว้จริงหรือไม่ เนื่องจากยังมีการพบพระพิมพ์เดียวกันในกรุพระวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง...
เมื่อมีการเปิดกรุพระสมเด็จบางขุนพรหมที่กรุวัดใหม่อมตรสในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ พบพระพิมพ์วัดเกศ ๓ พิมพ์ด้วยกัน คือ ๑.พิมพ์ ๗ ชั้น A ๒.พิมพ์ ๖ ชั้นอกตัน ๓.พิมพ์ ๖ ชั้นอกตลอด ซึ่งทำให้ผู้ที่สนใจในพระเครื่องนำพิมพ์เหล่านี้มาจัดเป็นพระพิมพ์นิยม พิมพ์ที่เห็นในภาพนี้ของ เสี่ยกฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา ถือเป็นหนึ่งในพระพิมพ์สุดยอดที่มีสภาพสมบูรณ์สวยจนเป็นที่ต้องการ ราคาแน่นอนหลักล้าน...
รายการถัดไปเป็นพระปิดตาพิมพ์ชะลูดของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งพระนี้อยู่ในคอลเล็กชันของนักสะสมผู้มีชื่อเสียงแฝงว่า “พระคุณลุง” และพระของท่านทุกองค์ล้วนมีเสน่ห์ จนทำให้แฟนคลับอยากรู้จักและสมัครเป็นหลานของท่าน...

เมื่อได้เห็นพระปิดตาองค์นี้ ยิ่งทำให้เห็นถึงความเป็นนักนิยมพระที่ไม่ธรรมดา เพราะมันไม่เพียงแค่พระแท้ที่ดูง่าย แต่ยังมีความสวยงามสมบูรณ์ทุกมิติ ทั้งรูปทรงที่สมส่วน พิมพ์พระที่ชัดลึก เนื้อมวลสารที่ครบสูตรและผิวพระที่มีสีดำปนแดงแห้งเก่าอย่างมีเสน่ห์ ดูนานๆ จะเห็นหน้าหลวงปู่เอี่ยมลอยมาเลย...
คำแนะนำจากแฟนคลับที่เรียกร้องมาว่าอยากให้ช่วยชี้จุดพิจารณาที่ชัดเจนของพระแต่ละพิมพ์ วันนี้เราจัดให้แล้ว...
ในครั้งนี้ พระปิดตาพิมพ์ชะลูด ขอให้โฟกัสที่จุดสำคัญเช่น รอยบุ๋มที่หน้าผากลึกชัด ข้อศอกแขนซ้ายที่สั้นและยกสูงกว่าข้อศอกขวา ช่องเอวซ้ายที่กว้างกว่าด้านขวา และบ่าไหล่สองข้างที่มีการลาดเอียงขององศา ดูองค์นี้จะเห็นรายละเอียดทั้งหมดชัดเจน...
ถัดมาคือพระปิดตาพิมพ์ปั้นของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นของเสี่ยสถิต ราชบุรี ที่มีแฟนคลับติดตามเพียบ เนื่องจากพระของท่านมีความลึกซึ้งและคุณค่า ส่งมาเรื่อยๆ พร้อมความยอดนิยม...
วันนี้เรามีพระปิดตาพิมพ์ปั้นหลวงพ่อแก้วองค์สวย เชื่อกันว่าเป็นพระที่หลวงพ่อแก้วสร้างขึ้นในช่วงแรกเพื่อมอบให้กับผู้ร่วมลงทุนสร้างวัดกับท่าน โดยในระหว่างการสร้างท่านจะเสกไปแจกไป...
หลวงพ่อแก้วเป็นพระอาจารย์ผู้มีฝีมือทางช่างและวิชาอาคมที่เข้มขลัง ผู้ร่วมทางที่เดินทางเข้าป่าหามไม้เพื่อมาสร้างวัดกับท่านได้ใช้พระนี้บูชาติดตัว แล้วพบกับอานุภาพศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองป้องกันจากอุบัติเหตุและภัยต่างๆ อย่างน่าอัศจรรย์...
เคยมีเหตุการณ์พายุฟ้าผ่าลมพัดต้นไม้ใหญ่หักล้มกลางวงกินข้าว แต่ทุกคนในที่นั้นกลับปลอดภัยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน สัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่วนเวียนผ่านมายังไม่เคยทำร้าย แต่แค่ส่งเสียงขู่ทักทายแล้วก็ไป...

สิ่งที่สำคัญคือ ผู้ที่ร่วมงานสร้างวัดกับหลวงพ่อแก้วและได้รับพระปิดตาบูชาติดตัวเกือบทุกคน พบว่าได้แต่งงานกับลูกสาวเศรษฐีและมีอาชีพร่ำรวยจนกลายเป็นคหบดีในเมืองชล ทุกวันนี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันถึงอานุภาพด้านเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ทำให้พระปิดตาหลวงพ่อแก้วราคาขึ้นสูงไม่เคยลดลง...
รายการถัดมาเป็นพระพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ เนื้อผงยาจินดามณี ของหลวงปู่บุญ ขันธโชติ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี นครปฐม ซึ่งเป็นของเสี่ยสถิต ราชบุรี อีกเช่นกัน...
พระพิมพ์นี้เป็นพระแท้ ดูง่ายและดูมีเสน่ห์มากๆ เป็นพระพิมพ์ยอดนิยมที่มีเนื้อหายอดนิยม เช่น เนื้อดิน เนื้อผง และเนื้อผงยาจินดามณี ซึ่งได้รับการลงรักดำเพื่อรักษาสภาพองค์พระตั้งแต่แรก สุดยอดเนื้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดและราคาแพงที่สุด...
สำหรับผู้ที่สนใจแสวงหาพระนี้ นอกจากต้องระวังพระปลอมที่มีฝีมือดีแล้ว ยังต้องระมัดระวังพระแท้ที่อาจมีการนำเนื้อผิดมาลงรักเคลือบเพื่อหลอกลวง...
ขอเตือนท่านผู้ชมว่า เมื่อท่านมั่นใจในพิมพ์พระแล้ว อย่าลืมที่จะตรวจสอบด้านหลังพระด้วย เนื่องจากต้องมีลักษณะตะปุ่มตะปํ่าแบบในภาพนี้ ซึ่งถือเป็นลักษณะที่ชัดเจนว่าเป็นเนื้อผงยาฯ ที่มีมูลค่าถึงหลักแสนกลางๆ...
ต่อมาคือ พระปิลันทน์ พิมพ์ซุ้มประตู สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กทม. ซึ่งเป็นพระพิมพ์ยอดนิยมในตระกูลพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัต) ได้สร้างขึ้นในสมัยที่ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่พระพุทธบาทปิลันทน์...
ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดทั้งวิชาและตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เมื่อสมเด็จฯโตถึงวัยชราและขอสละตำแหน่ง ถือได้ว่าเป็นศิษย์เอกที่ได้รับการปรนนิบัติและใกล้ชิดสมเด็จฯโตมากที่สุด...
ในช่วงเวลานั้น ท่านได้สร้างพระพิมพ์ด้วยผงพุทธคุณผสมผงใบลานเผา และแจกจ่ายไปบรรจุกรุไว้มากกว่า 20 แบบพิมพ์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงแทนพระสมเด็จ--พระแท้ที่ดูง่ายและสวยสมบูรณ์เช่นนี้ของเสี่ยก้อง พระสมเด็จมีราคาอยู่ในช่วงหลักแสนต้นถึงกลาง...

องค์ถัดไป คือ พระบาง เนื้อเขียวครก กรุวัดดอนแก้ว อ.เมือง จ.ลำพูน พระพิมพ์เนื้อดินเผา สกุลลำพูน ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ พระคง ที่มีรูปทรงเล็บมือ พิมพ์พระนั่งปางมารวิชัยเหนือฐานบัวลูกแก้ว ๒ ชั้น ใต้ซุ้มปรกโพธิ์ ๒๐ ใบ คล้ายกันมาก...
จุดที่แตกต่างกันอยู่ที่ความบอบบางของพิมพ์พระและเนื้อหลังที่ปาดเหลือน้อย จึงทำให้พระบางมีลักษณะที่บางและอูมต่างจากพระคงที่มีเนื้อหนาและอูมมากกว่า...
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือที่พระกรด้านซ้ายของพระบาง ซึ่งจะมีลักษณะตั้งเฉียงต่างจากพระคงที่มีลักษณะหักศอกตั้งฉาก ๙๐ องศา...
พระบางถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ เพื่อหาวัตถุมงคลมอบให้ทหารติดตัวออกรบ โดยพบในกรุพระวัดดอนแก้ว ซึ่งถือเป็นกรุต้นกำเนิดของพระบาง เพราะพระบางที่พบในกรุนี้มีความสมบูรณ์งดงามทั้งในรูปทรงและพิมพ์พระ ซึ่งเกิดจากความประณีตในการกดพิมพ์จำนวนมาก...
อีกกรุที่พบคือกรุย่านครูขาว ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระคงฤๅษี ซึ่งเดิมเป็นอาณาเขตของวัด โดยพระพิมพ์ในกรุนี้มีลักษณะคล้ายกันกับพระบาง แต่มีเม็ดกรวดทรายติดเนื้อมากและพิมพ์พระดูตื้นกว่าของกรุวัดดอนแก้วและวัดพระคง...

๓.กรุวัดพระคง องค์พระในกรุนี้จะมีขนาดใหญ่ รูปใบโพธิ์ดูหนาและใหญ่กว่า แต่เนื้อและลักษณะการปาดหลังคล้ายกรุวัดดอนแก้ว โดยพบพระจากกรุนี้น้อยกว่ากรุอื่นๆ...องค์นี้ของ เสี่ยตะวัน โบร์ดาร์ด เป็นพระกรุวัดดอนแก้วที่สมบูรณ์สวยเดิม ไร้รอยจากการใช้งาน โดดเด่นที่เนื้อสีเขียวครกซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด ราคาน่าจะอยู่ที่หลายแสนบาทตามสภาพ...
ถัดมาคือ เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดง หลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในวงการพระเครื่อง และเป็นที่เคารพนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ท่านยังเป็นพระอาจารย์ด้านวิชาอาคมของ เสด็จฯ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์...
ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๐ ที่บ้านปากคลองมะขามเฒ่า สมัยเยาว์ใช้เรือโยงเดินทางเข้าเมืองหลวงท่องเที่ยวตามประสา จนเมื่อโตขึ้นและอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมกับ หลวงพ่อเชย วัดโพธิ์ทองล่าง จ.นนทบุรี และ หลวงพ่อคง วัดบางกระพี้ ก่อนกลับมาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านใช้วิชาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านจนมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์...

ท่านได้รับสมณศักดิ์สูงสุดเป็น พระครูวิมล-คุณากร ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ และมีความสัมพันธ์อันดีกับพระเกจิอาจารย์รุ่นเดียวกันหลายท่าน เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงพ่อช้าง วัดบรมธาตุ, หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว, พระอาจารย์เปิง วัดชินฯ และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงค์...
ท่านได้ถ่ายทอดวิชาความรู้แก่ศิษย์ที่มีชื่อเสียงในยุคถัดมา เช่น หลวงพ่อปลื้ม วัดมะขามเฒ่า, หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ, หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม, หลวงปู่เก็บ วัดสวนลำไย, หลวงพ่อยัง วัดหนองน้อย, หลวงพ่อกรับ แสงเขียว และ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์...
ตลอดชีวิตการบวช ท่านได้สร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องมากมายหลายรุ่น มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ในทุกๆ ด้าน จึงไม่เคยพอเพียงกับความต้องการของผู้ที่แสวงหาจนถึงปัจจุบัน และมีราคาค่างวดที่สูงเกินค่าคาด เช่น เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๖๖ ที่ได้รับความนิยมสูงจนเป็นหนึ่งใน ๕ เหรียญพระเกจิยอดนิยมในชุดเบญจภาคี...

นอกจากนี้ยังมี เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล ข้างรัศมี เนื้อทองแดง ที่มีขนาดพิมพ์เฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเมื่อเห็นแล้วจะรู้ทันทีว่าเป็นหนึ่งในพระหลักยอดนิยมที่ท่านสร้างไว้ โดยได้รับความนิยมสูงสุด องค์งามแบบนี้ของ เสี่ยอนุศักดิ์ กิตติศิริสวัสดิ์ ที่สะสมพระหลักยอดนิยมและองค์งามๆ ไว้มากมาย...
สุดท้ายนี้ ขอเสนอพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี พิมพ์กลาง หน้าใหญ่ ของท่านอัยการ วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ ผู้ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของสนามพระวิภาวดี ซึ่งรับรองได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน...
ยืนยันได้จาก “ผนังบ้าน” ของท่านอัยการกุ๊ก-วัชรินทร์ ที่ไม่มีที่ว่างให้คุณนายติดรูปอื่น เพราะท่านจัดการตัดคอลัมน์จากสนามพระวิภาวดี Mytour ใส่กรอบแล้วแปะข้างฝาไว้ดู...

ก่อนหน้านี้ท่านก็ได้ดูพระของอัยการอยู่บ่อยๆ แต่ช่วงหลังหายไปเพราะติดเรียน วปอ. 62 (ที่เรียกกันขำๆ ว่ารุ่นโควิด) ตอนนี้เรียนจบแล้ว อัยการก็กลับมาสนุกกับการแสวงหาพระเครื่องในสนาม Mytour อีกครั้ง โดยเริ่มต้นด้วยพระหลวงพ่อทวดองค์นี้...
และสุดท้าย ไปลุ้นผลลอตเตอรี่กับเรื่องปิดท้ายของ เสี่ยพงศ์ เจ้าของกิจการค้าพืชไร่ ที่สร้างเนื้อสร้างตัวตามวิถีชายชาตรี มีทั้งพะบู๊ตะลุมบอน ตีรันฟันแทง ด้วยความเป็นคนพูดจริงทำจริงไม่เกรงกลัวใคร จึงมีพวกพ้องและลูกน้องมากมาย...
ปัจจุบันชีวิตของเขามีความสุขสบาย ร่ำรวยถึงขั้นมหาเศรษฐี มีบารมีระดับ “เจ้าพ่อ” หัวเมืองใหญ่ ที่ใครๆ ก็ต้องเกรงใจ และกลัวทั้งสิ้น...
แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้ นอกจากเมียคือ เจ๊บังอร ว่าสามี “กลัวผี” มากที่สุด ไม่สามารถอยู่คนเดียวที่ไหนได้ แม้แต่บ้านตัวเองก็ยังอยู่ไม่ได้ ต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา กว่า ๔๐ ปีที่ผ่านมา...
เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ต้องหยุดกิจการ เสี่ยพงศ์จึงให้ลูกน้องกลับบ้านไปหมด เหลือเพียงคนรับใช้สนิทอยู่คนเดียว ส่วนเจ๊บังอรก็ขอพาลูกไปอยู่กับพ่อแม่ โดยถามย้ำด้วยความเป็นห่วงว่า สามีจะอยู่บ้านกับลูกน้องคนเดียวได้มั้ย...
ในใจ เสี่ยพงศ์ กลับกลัว แต่ก็เห็นใจเมียที่เป็นห่วงพ่อ-แม่ที่แก่แล้ว จึงพยายามบอกให้ใจเย็น บอกว่าตนอยู่ได้สบาย ไม่มีอะไรต้องห่วง ไม่กลัวผีอีกแล้ว เพราะมีพระเครื่องชั้นดีตั้ง ๒๐ กว่าองค์...
เมื่อเมียพาลูกไป เสี่ยพงศ์จึงเอาพระเครื่องทั้งหมด ๒๐ องค์มาคล้องคอ พอพลบค่ำก็เรียกคนรับใช้ให้นอนหน้าห้อง ผ่านไป ๒-๓ วัน มีเพื่อนมาหาและบอกข่าวว่าเพื่อนรักเสียชีวิต ต้องไปช่วยงานเพราะก่อนตายมันบ่นคิดถึง เสี่ยพงศ์มาก เมื่อฟังแล้ว เสี่ยพงศ์รู้สึกขนลุก จึงใส่เงินใส่ซองส่งไป บอกว่าจะไม่ไปร่วมงานเพราะสุขภาพไม่ดีและเมียไม่อยู่ แต่ขอให้ฝากเงินไปทำบุญแทน...

หลังจากเพื่อนกลับไปแล้ว เสี่ยพงศ์ก็ให้คนรับใช้ไปยกพระบูชาจากห้องพระ มาไว้ในห้องนอน คนรับใช้สงสัยถามว่า เสี่ยมีพระห้อยคอตั้ง ๒๐ กว่าองค์ ยังไม่พออีกหรือ เสี่ยพงศ์ตอบด้วยเสียงหนักแน่นว่า ปกติพอก็พอ แต่เอ็งไม่ได้ยินหรือ ว่าเพื่อนฉันบ่นก่อนตายว่า คิดถึงอยากมาหา เลยกลัวว่าพระเครื่องเล็กๆจะเอาไม่อยู่ ต้องใช้พระบูชาถึงจะสบายใจ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง