ในปัจจุบัน อาชีพขับแท็กซี่ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้สูงวัยที่ยังต้องการมีรายได้ในช่วงวัยเกษียณ ด้วยเวลาที่มีมากขึ้นและรายได้ที่น่าสนใจ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความรักในการบริการผู้คน ซึ่งหากใครที่พร้อมทั้งสองส่วนนี้ก็สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ได้
ถาวร ต้นประดู่ และ จตุรงค์ บุตรศิริ สองผู้สูงวัยที่ทำงานขับแกร็บแท็กซี่ภายใต้โครงการ "เจ้าบ้านที่ดี" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมทั้งได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานในอาชีพนี้ โดยเล่าถึงการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้ใช้บริการมาหลายปี
แท็กซี่รุ่นเก๋า กับชีวิตที่ไม่หยุดเรียนรู้
ถ้าหากมองจากภายนอก การขับแท็กซี่ของลุงถาวร ต้นประดู่ หรือ “ลุงถาวร” ที่อายุ 72 ปี อาจดูเหมือนเป็นการทำงานของคนขับแท็กซี่ทั่วไป แต่ถ้าหากได้มีโอกาสพูดคุยกับท่าน เราจะได้สัมผัสถึงพลังบวกจากลุงถาวร ผู้ที่ไม่ยอมหยุดพัฒนาตัวเองและพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
“ผมเกิดและเติบโตที่อยุธยาในครอบครัวเกษตรกร ตั้งแต่เด็กจนโต ผมก็ทำงานในท้องไร่ท้องนา รายได้ไม่มากแค่พออยู่ได้ก็พอ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก ผมจึงตัดสินใจย้ายมาที่กรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ และท้ายที่สุดก็เลือกขับรถแท็กซี่ ซึ่งทำให้ชีวิตดีขึ้นและสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ดีขึ้น เมื่อก่อนเราต้องขับรถไปหาลูกค้าเอง หรือต้องไปจอดตามจุดที่มีผู้โดยสาร แต่โชคดีที่ได้มาใช้บริการของแกร็บ ที่ช่วยให้เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รอให้แกร็บส่งลูกค้ามาให้ ผมทำงานขับ GrabTaxi จนลูกสองคนเรียนจบปริญญา ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมในฐานะหัวหน้าครอบครัว”

หลังจากที่ผมเริ่มขับแกร็บแท็กซี่ได้ระยะหนึ่ง ก็พบกับอุปสรรคสำคัญ นั่นคือการสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งผมไม่มีพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษเลย มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผม แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมมองว่าความยากเป็นโอกาสที่จะทำให้ผมพัฒนา และตัดสินใจเริ่มเรียนภาษาอังกฤษแม้จะอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ตาม
“อาชีพขับรถแท็กซี่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเจอลูกค้าต่างชาติได้ เมื่อก่อนผมจะใช้ภาษามือสื่อสารเป็นหลัก บางทีก็รู้เรื่องบ้าง บางทีก็ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ผมได้ไปเข้าร่วมอบรมภาษาอังกฤษที่แกร็บจัดให้ฟรี และยังมีคอร์สออนไลน์ผ่านโปรแกรม GrabAcademy ซึ่งช่วยให้ผมฝึกฝนต่อที่บ้าน จากที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย ตอนนี้ผมสามารถอ่านแหล่งท่องเที่ยวจากโบรชัวร์ภาษาอังกฤษ และสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ดีขึ้น พวกเขาประทับใจในความสามารถของเรา และบางครั้งก็ชวนให้พูดคุยกับพวกเขามากขึ้น ผมยังได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เขารู้จัก และบางคนก็อยากกลับมาเที่ยวที่ไทยอีกครั้ง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในอาชีพของเรา ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างดี”

“นอกจากความรู้ด้านภาษาที่ช่วยให้เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติได้ง่ายขึ้นแล้ว ผมยังมองว่ามารยาทและน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความประทับใจได้มาก เช่น การช่วยยกกระเป๋า หรือการให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาสอบถาม เราต้องพร้อมช่วยเหลือเขาในสิ่งที่ทำได้ ที่สำคัญคือความจริงใจและความซื่อสัตย์ หากเรามีสิ่งเหล่านี้ เราก็จะได้รับความไว้วางใจจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ” ลุงถาวรพูดทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น
หนุ่มใหญ่นักขับผู้มีหัวใจในการบริการ
“เอก” จตุรงค์ บุตรศิริ คนขับแกร็บคาร์วัย 57 ปี ผ่านประสบการณ์การทำงานมาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ เจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือแม้กระทั่งผู้จัดบริการรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวให้กับโรงแรม จนกระทั่งมาพบว่าการขับแกร็บคาร์คืออาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตที่สุด ทั้งเรื่องของความเป็นอิสระ รายได้ที่มั่นคง และความสุขจากการบริการผู้คน
“ผมเริ่มต้นขับแกร็บเพราะได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิทที่ชลบุรี ช่วงแรกผมขับรถจากบ้านไปพัทยาทุกวันเพื่อไปรับผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งผมคุ้นเคยกับการทำงานในวงการนักท่องเที่ยวและพูดภาษาอังกฤษได้ดีจึงไม่รู้สึกกังวล หลังจากนั้นเมื่อชำนาญการขับขี่แล้วจึงตัดสินใจย้ายมาขับในกรุงเทพฯ จนถึงวันนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้วที่ผมได้ทำอาชีพขับแกร็บเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว อาชีพนี้ทำให้ผมภูมิใจมาก เพราะทำให้สามารถส่งลูกชายวัย 13 ขวบเรียนโรงเรียนอินเตอร์ได้”

ด้วยความขยันและการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเอกได้เข้าร่วมการอบรมการเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” ซึ่งจัดขึ้นโดย ททท. เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยว และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการพัฒนางานของเขาต่อไป
“หลังจากเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงต้องบอกว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ของผมตอนนี้คือ นักท่องเที่ยวถึง 80% เลยทีเดียว ในฐานะคนขับรถรับจ้าง ผมมองว่าเราคือหน้าตาของประเทศ จึงคิดเสมอว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ผู้โดยสารประทับใจมากที่สุด สำหรับผม สิ่งแรกเลยคือ รถต้องสะอาด นั่งสบาย และแอร์ต้องเย็นฉ่ำ สิ่งถัดมาคือการสื่อสารกับลูกค้า บางครั้งแค่การทักทายเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ เช่นในคอร์สอบรม GrabAcademy ที่ได้ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษที่เตรียมไว้ให้แล้ว เราสามารถนำไปปรับใช้ในเวลาที่เจอนักท่องเที่ยวได้ และถ้าอยากทำให้ดียิ่งขึ้น เราก็ควรจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมหากนักท่องเที่ยวสอบถาม”

“บางครั้งการสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ซับซ้อน อาจเป็นเพียงแค่การแสดงน้ำใจ หรือการท่าทางที่เป็นมิตร ยิ้มแย้มให้กับชาวต่างชาติ อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่ลูกค้าชาวเกาหลีขอให้ผมสอนภาษาไทยให้ ซึ่งผมก็ยินดีมากๆ ได้สอนคำทักทายพื้นฐานเช่น สวัสดี หรือ ขอบคุณ รวมถึงประโยคง่ายๆ ที่จำง่ายๆ ให้เขาไปฝึกใช้ และเขาก็ได้สอนภาษาเกาหลีกลับมาให้ผมด้วย เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ช่วยสร้างมิตรภาพและความประทับใจระหว่างเรา” เอกพูดพร้อมรอยยิ้ม