การวัดขนาดถุงยางอนามัย เป็นข้อมูลที่ผู้ชายควรรู้เพื่อใช้ป้องกันโรคที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องการ คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องมีจำนวนเท่าไหร่ วิธีการเลือกซื้อถุงยางให้เหมาะกับขนาดของตัวเอง ต้องวัดอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ที่นี่
ถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องมีจำนวนเท่าไหร่
ถุงยางอนามัยหนึ่งกล่องมีจำนวนเท่าไหร่ โดยทั่วไปถุงยางอนามัยที่ขายในร้านสะดวกซื้อมักเป็นกล่องเล็กที่มี 3 ชิ้น ส่วนแบบที่ต้องสั่งซื้อออนไลน์หรือจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มักมี 10-12 ชิ้นต่อกล่อง
วิธีการวัดขนาดถุงยางอนามัย
วิธีการวัดขนาดถุงยางอนามัย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความ 5 วิธีวัดขนาดอวัยวะเพศชายด้วยมือถือ สายวัด และอุปกรณ์ใกล้ตัว

การวัดขนาดอวัยวะเพศชายเพื่อเลือกซื้อถุงยางอนามัยที่เหมาะสม ต้องวัดเส้นรอบวง โดยสามารถอ่านค่าวิธีวัดขนาดอวัยวะเพศชายด้วยสายวัดกระดาษจาก สสส. เพื่อเลือกถุงยางอนามัยที่พอดี ควรวัดเส้นรอบวงบริเวณกลางอวัยวะเพศชายขณะแข็งตัวเต็มที่ แล้วหารด้วย 2 เพื่อแปลค่า ดังนี้
สีม่วง 49 มิลลิเมตร
สีม่วง 52 มิลลิเมตร
สีม่วง 53 มิลลิเมตร
สีม่วง 54 มิลลิเมตร
สีม่วง 56 มิลลิเมตร
ถุงยางอนามัยมีขนาดอะไรบ้าง
ถุงยางอนามัยมีขนาดอะไรบ้าง ถุงยางอนามัยที่จำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 6 ขนาด แต่ถ้าซื้อจากต่างประเทศหรือสั่งซื้อผ่านเว็บต่างประเทศอาจมีขนาดน้อยหรือมากกว่านี้ ขนาดของถุงยางอนามัยวัดจากเส้นรอบวงของอวัยวะเพศชาย ไม่ใช่ความยาว ดังนั้นการใช้ไม้บรรทัดวัดไซส์ถุงยางจึงไม่ถูกต้อง ขนาดของถุงยางอนามัยมีดังนี้
- ถุงยางขนาด 49
- ถุงยางขนาด 52
- ถุงยางขนาด 52.5
- ถุงยางขนาด 53
- ถุงยางขนาด 54
- ถุงยางขนาด 56
ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดีที่สุด
ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดีที่สุด ก่อนตัดสินใจซื้อถุงยางอนามัย ควรทราบขนาดของอวัยวะเพศชายของตัวเองก่อน เนื่องจากถุงยางอนามัยจัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผู้ใช้จำเป็นต้องศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องและปลอดภัย และควรซื้อจากร้านขายยาหรือแหล่งจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากถุงยางอนามัยต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้ถุงยางอนามัยที่ไม่มีเลขอนุญาตอาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผิวหนัง
ราคาของถุงยางอนามัยขึ้นอยู่กับขนาดและคุณสมบัติเฉพาะ เช่น การมีสารหล่อลื่นในตัว ความสามารถในการชะลอการหลั่ง การเพิ่มกลิ่นหอมอย่างช็อกโกแลตหรือสตรอว์เบอร์รี รวมถึงพื้นผิวที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เช่น ผิวปุ่มหรือผิวเรียบ เพื่อสร้างความรู้สึกที่แตกต่าง
ปัจจุบันมีถุงยางอนามัยหลายยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานการรับรองและมีเลขอนุญาตเครื่องมือแพทย์ รวมถึงเครื่องหมาย อย. เช่น ถุงยางวันทัช (ONE TOUCH), ถุงยางดูเร็กซ์ (DUREX) และถุงยางโอกาโมโต (OKAMOTO)
ข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนซื้อถุงยางอนามัย

1. ไม่ควรสวมถุงยางอนามัยสองชั้นพร้อมกัน เพราะอาจทำให้ถุงยางฉีกขาดหรือหลุดเข้าไปในอวัยวะของคู่นอนได้
2. บางคนอาจมีอาการแพ้ถุงยางอนามัยที่มีสารหล่อลื่นในตัว แต่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแยกต่างหากกับถุงยางอนามัยที่ไม่มีสารหล่อลื่น
3. ถุงยางชะลอการหลั่ง ถุงยางแบบพื้นผิวปุ่ม หรือถุงยางมีมุก อาจมีราคาสูงกว่าถุงยางอนามัยทั่วไป แต่หากซื้อในปริมาณมากและใช้โค้ดส่วนลดจากแอปพลิเคชันต่างๆ ก็สามารถลดราคาให้ใกล้เคียงกับถุงยางปกติได้
4. สำหรับผู้ที่ซื้อถุงยางอนามัยเป็นครั้งแรก ควรเริ่มต้นด้วยการซื้อกล่องเล็กที่มี 3 ชิ้น และลองใช้หลายแบบก่อน ยังไม่ควรซื้อแพ็กใหญ่เนื่องจากถุงยางอนามัยเป็นสินค้าที่ใช้เฉพาะบุคคล หากเกิดอาการแพ้หรือไม่ชอบผิวสัมผัส จะได้ไม่ต้องเสียเงินฟรี
5. ถุงยางอนามัยมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ก่อนใช้งานควรตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
แหล่งอ้างอิง :
1. อย. แนะนำวิธีการเลือกถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐาน ต้องมีเลข อย. เพื่อความปลอดภัยและป้องกันโรคเอดส์ https://www.prd.go.th/th/content/page/index/id/5295