
สืบทอดสายเลือดจากพ่อแม่ ทั้งความมุ่งมั่นและความขยันจนเป็นที่ยอมรับ
วิษณี เทพเจริญ ทายาทรุ่นใหม่ผู้เต็มเปี่ยมด้วยศักยภาพ จากตระกูลนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เธอตั้งใจใช้ความรู้และความสามารถเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัวมูลค่าหลายหมื่นล้านให้ก้าวไกล โดยมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เป็นผู้นำในวงการทั้งในประเทศและระดับสากล
วิษณี หรือ “บีท” ผู้บริหารสาววัย 25 ปี ทายาทของ ศิริญา-วิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ ได้แบ่งปันเส้นทางการทำงานของเธอว่า การก้าวสู่ตำแหน่งรองประธานด้านการตลาด บมจ. ณุศาศิริ ไม่ได้มาจากการเป็นลูกเจ้าของเท่านั้น แต่มาจากการพิสูจน์ความสามารถผ่านผลงานที่โดดเด่น ด้วยสไตล์การทำงานที่มุ่งมั่นและไม่ย่อท้อ ซึ่งความเข้มแข็งและความขยันเหล่านี้ ล้วนได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ ที่เป็นต้นแบบและผู้ปลูกฝังแนวคิดให้เธอ จนทำให้เธอได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานในปัจจุบัน
“บีท เป็นลูกสาวคนที่ 2 จากทั้งหมด 5 คนค่ะ พี่น้องเยอะ และคุณพ่อคุณแม่ก็ทำงานหนักมาก เลยเลี้ยงลูกแบบให้รู้จักดูแลตัวเองและรับผิดชอบตัวเอง ในขณะเดียวกันก็สอนผ่านการพาไปดูท่านทำงาน เพื่อให้เราซึมซับ อย่าง บีท ได้นั่งฟังคุณแม่คุยงานมาตั้งแต่อายุ 15 พอมีข้อสงสัยก็ถามท่าน อย่างการก่อสร้างต้องขออนุญาตอะไร ท่านก็อธิบาย ทำให้เรารู้เรื่องไปด้วย แล้วท่านก็ให้เข้าไปนั่งในห้องทำงาน เลยได้เห็นการทำงานของท่านตั้งแต่เด็ก ด้านการศึกษา บีท เรียนที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ก่อนไปเรียนไฮสกูล ที่โรงเรียน Langley School ที่ Norwich ประเทศอังกฤษ แล้วกลับมาเรียนต่อปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคอินเตอร์ คณะบริหาร ด้านการตลาด ช่วงที่เรียนปริญญาตรี พอมีเวลาเลยได้มีโอกาสเข้ามาที่บริษัทฯ ช่วยคุณแม่ในเรื่องเอกสารภาษาอังกฤษ พอเรียนจบเลยได้เข้ามาช่วยงานอย่างเต็มตัว ทำได้สักพักกลัวจะเพลินเกินไป บีท เลยขอเรียนต่อปริญญาโท ด้วยความที่เคยเรียนภาษาจีนตอนเด็ก และมองว่าภาษาจีนก็มีความสำคัญ เลยไปเรียนโท ที่เซี่ยงไฮ้ ที่ Hult International Business school ด้านธุรกิจต่างประเทศ”
ผู้บริหารสาวไฟแรงคนนี้เล่าต่อไปว่า หลังจากกลับมา เธอได้ช่วยคุณแม่ดูแลด้านการเงิน แต่เนื่องจากครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่บ้านจึงต้องการให้ บีท เรียนรู้งานทุกด้าน พร้อมกับให้โอกาสเธอพิสูจน์ความสามารถผ่านยอดขายของบริษัท ซึ่ง บีท สามารถทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 2 เท่า ส่งผลให้เธอก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างภาคภูมิ
“คุณพ่อคุณแม่มักบอกเสมอว่า แม้จะเป็นลูก แต่ถ้าทำงานไม่ได้ก็ต้องออกไป เพราะเราเป็นบริษัทมหาชนที่ต้องโปร่งใส นั่นทำให้ บีท ต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านตัวเลขยอดขายที่ชัดเจน และเธอก็ทำได้สำเร็จ นอกจากนี้ บีท ยังต้องพิสูจน์ฝีมือกับทีมงาน เพราะเธอยังเด็กและถูกทดสอบความสามารถอยู่เสมอ พอทำได้เธอก็รู้สึกดีใจ เวลาทำงาน บีท ถูกสอนให้ทุ่มเทเต็มที่ และต้องทำให้สำเร็จ ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย เธอไม่เคยกลัวงานหนัก เพราะเชื่อว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้ และโชคดีที่มีพ่อแม่เป็นโค้ชที่ดี สำหรับอนาคต บีท มองว่าพ่อแม่สร้างฐานมาขนาดนี้ เธออยากต่อยอดและขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ เช่น จีน ซึ่งตอนนี้มีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่นั่นด้วย” ผู้บริหารสาวกล่าวถึงความมุ่งมั่นของเธอ ซึ่งแม้จะอายุเพียง 20 ต้นๆ แต่เต็มไปด้วยความสามารถและคุณภาพที่น่าจับตามอง