หลวงพ่อกวย ชุตินธโร พระเกจิชื่อดังแห่งวัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท เป็นที่รู้จักกันดีในด้านพุทธคุณและพลังของวัตถุมงคลที่ท่านได้ปลุกเสก ซึ่งทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เคารพศรัทธา
พระขุนแผนหลังกุมารทองได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในด้านการเสริมความโชคดี เมตตามหานิยม และการแคล้วคลาดจากภัยอันตราย รวมทั้งช่วยเสริมเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี
หลวงพ่อกวยท่านสร้างพระขุนแผนหลังกุมารทองในช่วงปีพุทธศักราช 2515-2521 ด้วยจุดประสงค์เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงและเป็นที่พึ่งทางใจให้กับศิษยานุศิษย์ พร้อมกับมอบวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณสูงเพื่อป้องกันภัยและเสริมสิริมงคล

พระขุนแผนหลังกุมารทองของหลวงพ่อกวยมีพลังในการดึงดูดโชคลาภและปกป้องผู้บูชาให้พ้นจากภัยอันตราย โดยเฉพาะในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว มีความเชื่อว่าอิทธิฤทธิ์ของพระขุนแผนนี้ช่วยเสริมสร้างโชคดีในชีวิตได้
การปลุกเสกพระขุนแผนหลังกุมารทองนั้นมีความเข้มขลัง โดยใช้คาถามหาเสน่ห์และวิชากุมารทอง ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ในอดีต มุ่งเน้นเสริมพลังให้พระขุนแผนมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
ทุกครั้งที่ปลุกเสก หลวงพ่อกวยจะใช้วิธีการเรียกพลังจากเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้พลังเหล่านั้นมาสถิตในองค์พระขุนแผน อีกทั้งยังทำพิธีเบิกเนตรกุมารทองที่อยู่ด้านหลัง เพื่อเสริมพลังในการปกป้องผู้บูชาให้มั่นคง
พระขุนแผนหลังกุมารทองเป็นที่รู้จักในด้านพุทธคุณที่สูงส่ง ตั้งแต่เมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ให้กับผู้ที่พบเห็น เกิดความรักและเมตตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังเสน่ห์ในเรื่องการงานและความสัมพันธ์

กุมารทองในองค์พระขุนแผนช่วยดึงดูดโชคลาภ ความสำเร็จและเงินทองให้กับผู้บูชา อีกทั้งยังช่วยปกป้องจากภัยอันตราย คุ้มครองและป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ทำให้ผู้บูชารู้สึกอุ่นใจและได้รับความช่วยเหลือในยามที่เผชิญกับปัญหาต่างๆ
พระขุนแผนหลังกุมารทองได้รับความนิยมสูงจากผู้ศรัทธา จนกลายเป็นวัตถุมงคลหายากที่นักสะสมพระเครื่องต่างพากันแสวงหา หลายคนยืนยันถึงพุทธคุณที่สัมผัสได้จริง ทำให้พระขุนแผนหลังกุมารทองของหลวงพ่อกวยยังคงเป็นที่นิยมในวงการผู้ศรัทธา
หลายคนที่ได้บูชาพระขุนแผนหลังกุมารทองต่างประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด เช่น การค้าขายที่รุ่งเรือง การเจรจาที่ประสบผลสำเร็จ และการแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ เหตุการณ์เหล่านี้ช่วยเสริมให้ชื่อเสียงของพระขุนแผนหลังกุมารทองของหลวงพ่อกวยยังคงเป็นที่ยอมรับจนถึงปัจจุบัน
ในตำนานไทย ขุนแผนเป็นบุคคลที่โดดเด่นในเรื่องเสน่ห์และความกล้าหาญ โดยตามตำนานกล่าวว่า ขุนแผนมีความสามารถในการใช้คาถาอาคมปลุกเสกกุมารทอง ซึ่งเป็นวิญญาณของเด็กที่ผ่านพิธีปลุกเสกพิเศษ กลายเป็นผู้ช่วยเหลือที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์
การสร้างพระขุนแผนหลังกุมารทองได้รับความนิยมในหมู่พระเกจิอาจารย์และประชาชนโดยเฉพาะในภาคกลางของไทย ที่นับถือขุนแผนและกุมารทองเพื่อเสริมความโชคดีและสิริมงคลในชีวิต

มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระขุนแผนหลังกุมารทอง ได้แก่ ผงพุทธคุณ ว่านมหาเสน่ห์ ดินจากวัดศักดิ์สิทธิ์ และเศษตะไบพระกริ่ง รวมถึงผงดอกไม้จากพิธีศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกผสมและกดเป็นองค์พระ โดยด้านหลังของพระจะมีรูปกุมารทอง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมโชคลาภให้กับผู้บูชา
ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของ “เนื้อดิน 7 ป่าช้า” ที่ใช้ในการสร้างพระขุนแผนหลังกุมารทองถือเป็นความเชื่อโบราณที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูง โดยเฉพาะดินจากป่าช้าที่มีพลังวิญญาณและอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้รับการนำมาใช้ในการสร้างพระเครื่องของหลวงพ่อกวย
เชื่อกันว่าเป็นดินที่มีพลังจากวิญญาณที่ผ่านการฝังร่างของผู้ที่ล่วงลับ ซึ่งสามารถนำมาสร้างพระเครื่องที่มีพลังในการปกป้อง เสริมแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี
“ดินจาก 7 ป่าช้า” หมายถึงดินที่นำมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือป่าช้า 7 แห่ง โดยจะต้องผ่านพิธีกรรมที่ถูกต้องเพื่อขจัดสิ่งไม่ดีที่อาจแฝงมากับดิน ดินที่ใช้จะต้องได้รับการปลุกเสกและเสริมพลังให้กลายเป็นดินบริสุทธิ์ ซึ่งหลวงพ่อกวยจะนำดินเหล่านี้มาผสมกับผงพุทธคุณและมวลสารศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ...
เพื่อสร้าง “พระขุนแผนหลังกุมารทอง” ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
ความศักดิ์สิทธิ์ของเนื้อดินจาก 7 ป่าช้า...ได้รับการกล่าวขานถึงพลังพิเศษและอำนาจที่เหนือธรรมชาติ ซึ่งเมื่อใช้ในการสร้างพระเครื่องโดยพระเกจิอาจารย์ที่มีพลัง เช่น หลวงพ่อกวย จะทำให้พระขุนแผนหลังกุมารทองรุ่นนี้มีพุทธคุณในหลายด้าน...รวมถึงการคุ้มครองจากภัยอันตราย เนื่องจากดินจากป่าช้ามีอำนาจในการปกป้องผู้บูชาให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจและสิ่งอัปมงคลต่างๆ
แคล้วคลาด คงกระพัน...ผู้ที่พกพาพระขุนแผนหลังกุมารทองที่มีเนื้อดินจาก 7 ป่าช้า จะได้รับพลังในการหลีกเลี่ยงภัยอันตราย รวมถึงความคงกระพัน ป้องกันอุบัติเหตุ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเสริมโชคลาภและเมตตามหานิยมจากกุมารทองที่สถิตอยู่ในองค์พระ ช่วยส่งเสริมการค้าขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง
“ศรัทธา”...สามารถนำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อหรือไม่โปรดอย่าลบหลู่...
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหนือฟ้าใต้บาดาล” เพิ่มเติม