พระเครื่องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า รุ่นที่นักสะสมหมายมั่น

พระเครื่องหลวงปู่ศุข พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) จากวัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่ผู้สะสมและเซียนพระ เนื่องจากตำนานและเรื่องเล่าที่เล่าขานกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณอันแรงกล้า ทำให้พระเครื่องหลวงปู่ศุขบางรุ่นมีมูลค่าสูงถึงหลักล้านบาท และติดอันดับพระเครื่องที่มีราคาเช่าบูชาสูงที่สุดในวงการพระเครื่องไทย นอกจากนี้ เรื่องราวของหลวงปู่ศุขยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์หลายเรื่องอีกด้วย

ประวัติหลวงปู่ศุข พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) ท่านเกิดในปี พ.ศ. 2390 และมรณภาพในปี พ.ศ. 2466 เป็นพระภิกษุสังกัดมหานิกาย เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอวัดสิงห์และเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท

พระครูวิมลคุณากร มีนามเดิมว่า “ศุข” เป็นบุตรคนโตในครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เกิดในสกุลเกษเวช เป็นชาวชัยนาท โดยปีเกิดตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ภายหลังสกุลนี้ได้เปลี่ยนเป็นเกษเวชสุริยา ท่านอาศัยอยู่ที่บ้านมะขามเฒ่า ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท บิดาชื่อน่วม มารดาชื่อทองดี ประกอบอาชีพค้าขายและทำสวน

ศุข เกษเวช ในวัยเด็ก ขณะที่กำลังเล่นน้ำแข่งกับเพื่อน มารดาของท่านได้มาบอกให้ขึ้นจากน้ำ และพูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า “ถ้าไม่ขึ้นตอนนี้ ก็ไม่ต้องขึ้นมาอีกเลย” ขณะนั้นมีเรือโยงผ่านมา ท่านจึงเกาะเรือไปด้วย และเดินทางผ่านหลายจังหวัด จนมาขึ้นที่วัดโพธิ์ทอง จังหวัดนนทบุรี (ปัจจุบันคือวัดโพธิ์บางเขน) จากนั้นท่านได้แต่งงานกับหญิงสาวชื่อ “สมบุญ” และมีบุตรด้วยกัน 1 คน

เมื่ออายุ 22 ปี ท่านตัดสินใจบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาที่วัดโพธิ์ทองล่าง โดยมีพระครูเชย จันทสิริ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวช ท่านได้ศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคมจากพระครูเชย จันทสิริ จนแตกฉาน จากนั้นจึงออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีตำนานเล่าว่าหลวงปู่ศุขได้เรียนวิชา “รสายนเวท” หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม

หลวงปู่ศุข บวชอยู่เป็นเวลา 54 ปี และได้รับสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะอำเภอคนแรกของอำเภอวัดสิงห์ ท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 และมรณภาพในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2466

หลวงปู่ศุขได้ศึกษาวิชา “รสายนเวท” หรือการเล่นแร่แปรธาตุ รวมถึงวิชาไสยศาสตร์ และได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์หลายครั้ง ศิษยานุศิษย์ที่เห็นเหตุการณ์ต่างนำมาเล่าต่อ เช่น การทำให้หุ่นพยนต์ล่องหนหายตัว การเดินบนน้ำ การสะเดาะโซ่ตรวน และการปลุกเสกผงวิเศษเพื่อสร้างพระพิมพ์ ทำให้พระเครื่องหลวงปู่ศุขเป็นที่นิยมอย่างมาก

ตำนานอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ศุขที่ลูกศิษย์นำมาเล่าสืบต่อกัน (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหานี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) เช่น การเสกหัวปลีให้กลายเป็นสัตว์ มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่ศุขฝึกเสกหัวปลีเป็นกระต่าย โดยเรียนวิชานี้จากพระสังวราเมฆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าถึงการเสกคนให้กลายเป็นจระเข้ โดยมีทหารคนหนึ่งถูกผูกเชือกรอบตัวและผลักลงน้ำ ทหารผู้นั้นก็กลายเป็นจระเข้ทันที

หนึ่งในเรื่องเล่าที่โด่งดังที่สุดคือการรูดใบมะขามและท่องคาถาเสกให้กลายเป็นตัวต่อ ทำให้พระเครื่องหลวงปู่ศุขทุกรุ่นที่สร้างจากผงวิเศษได้รับความนิยม เชื่อกันว่าสามารถปกป้องคุ้มครองผู้ครอบครองจากอันตรายได้ตามความเชื่อ

พระเครื่องหลวงปู่ศุขที่มีราคาสูงที่สุดคือ..

พระเครื่องหลวงปู่ศุขที่มีราคาแพงที่สุดมีหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีภาพพิมพ์ลงลายมืออักขระด้านหลัง เนื่องจากคนสมัยก่อนเชื่อว่าการถ่ายภาพพระเกจิอาจทำให้อายุของท่านสั้นลง จึงไม่นิยมถ่ายภาพเก็บไว้ แต่หลวงปู่ศุขอนุญาตให้ถ่ายภาพท่านได้ และมีผู้นำภาพนั้นไปพิมพ์ โดยด้านหลังมีลายมือของท่านเขียนกำกับไว้ จึงถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักล้านบาท ผู้ที่ครอบครองมักเก็บไว้ไม่ยอมขาย

อีกหนึ่งรุ่นที่มีความขลังและเป็นที่พูดถึงคือ “พระปรกใบมะขาม” ซึ่งสอดคล้องกับตำนานการเสกใบมะขามเป็นตัวต่อของหลวงปู่ศุข พระปรกใบมะขามถือเป็นพระเครื่องหลวงปู่ศุขที่มีมูลค่าสูงติดอันดับต้นๆ ของประเทศ มีขนาดเล็กและราคาสูงมาก โดยองค์ที่สวยงามสมบูรณ์สามารถมีมูลค่าสูงถึงหลักล้านบาท ลักษณะเด่นของพระปรกใบมะขามคือใบหน้าและช่วงไหล่ที่มีเส้นคมชัดเจน

องค์พระเครื่องนี้สร้างจากโลหะทองแดง ทำให้มีรอยแตกซึ่งเป็นจุดเด่นที่เกิดจากแม่พิมพ์ ถือเป็นธรรมชาติของพระเครื่องโลหะ ตำหนิภายในพิมพ์จะสร้างเส้นคม ส่วนข้อศอกจะมีติ่งเล็กๆ คมเหมือนเข็ม บนพื้นเหรียญจะมีขีดเล็กๆ ส่วนพระปรกใบมะขามปลอมมักมีขนาดเล็กกว่าองค์จริง เนื่องจากกระบวนการถอดพิมพ์ไม่สมบูรณ์

พระเครื่องหลวงปู่ศุขทุกรุ่น มีทั้งแบบที่หลวงปู่ศุขเป็นผู้ออกแบบพิมพ์เอง และแบบที่ลูกศิษย์ผู้ศรัทธาเป็นผู้สร้างขึ้น

ภาพถ่ายหลวงปู่ศุขในยุคแรกๆ ถ่ายขึ้นในวาระสำคัญและมอบให้ศิษยานุศิษย์ที่ใกล้ชิด ในสมัยก่อนเชื่อว่าภาพถ่ายมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะสามารถถ่ายทอดฤทธานุภาพของท่านมาไว้ในภาพ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เซียนพระ ภาพนี้มีความสมบูรณ์ตามตำราเครื่องราง จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นภาพที่คมชัดและสมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ ด้านหลังยังมีลายมือของหลวงปู่ศุขจารอักขระไว้ ทำให้พระเครื่องหลวงปู่ศุขรุ่นนี้มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านบาท

เหรียญพระพุทธ พิมพ์ข้างอุใหญ่ เนื้อชินตะกั่ว สร้างด้วยวิธีการเทหล่อ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธปางสมาธิประทับบนฐานบัวข้างอุ มูลค่าที่ซื้อขายกันอยู่ในช่วงหลักแสนถึงแสนปลายๆ บาท

เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล สร้างขึ้นโดยหลวงปู่ศุขขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยท่านได้เลือกฤกษ์ยามตามพิธีกรรมที่กำหนดไว้ เรียกว่า พระนำฤกษ์ จึงเชื่อกันว่าเหรียญนี้มีอานุภาพด้านความเข้มแข็งและพลัง protection

เหรียญพระพุทธ พิมพ์ข้างรัศมี เนื้อทองแดง ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตระกูลเหรียญพระเครื่องหลวงปู่ศุข เนื่องจากด้านหลังมีการลงยันต์ด้วยลายมือของหลวงปู่ศุข เรียกว่า อักขระยันต์เฑาะว์ม้วนโลก ซึ่งใช้สำหรับลงกระหม่อม ผ้ายันต์ และตะกรุด

เหรียญหลวงปู่ศุขรุ่นแรก 2466 สร้างขึ้นหลังจากหลวงปู่ศุขมรณภาพ โดยใช้เนื้อโลหะที่หลอมมาจากเหรียญสตางค์แดง

เหรียญเสมาหัวเสือ เป็นเหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่สร้างขึ้นโดยเจ้าอาวาสวัดกำแพง จังหวัดนนทบุรี เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีชาตกาลของหลวงปู่ศุข ผู้เคยบวชที่วัดกำแพง การออกแบบเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ศุข ล้อมด้วยใบเสมา ในท่านั่งขัดสมาธิราบ มือซ้ายวางบนตัก มือขวาวางคว่ำที่เข่า ส่วนด้านล่างของเหรียญมีรูปหัวเสือ ซึ่งสื่อถึงการชนะมาร

การสร้างเหรียญและวัตถุมงคลของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีวัตถุประสงค์เพื่อแจกจ่ายในงานบุญที่ทางวัดจัดขึ้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญตามศรัทธา โดยรายได้นำไปใช้ในการบูรณะวัดร้างและซ่อมแซมวัดให้เป็นสถานที่รองรับผู้มาทำบุญ ปัจจุบันวัดปากคลองมะขามเฒ่าได้กลายเป็นวัดสำคัญและเป็นที่รู้จักของจังหวัดชัยนาท ชาวบ้านและผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศต่างเดินทางมาสักการะและทำบุญตามเทศกาล

สำหรับผู้ที่สนใจอยากเดินทางไปสักการะหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน วัดตั้งอยู่ที่ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท

ภาพจากคอลัมน์สนามพระ และเหนือฟ้าใต้บาดาล หนังสือพิมพ์Mytour