
โจทย์จากสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ในคอลัมน์โจทย์แรก เกี่ยวกับพิมพ์ ได้รับการเฉลยว่าเป็นพิมพ์ใหญ่แบบชะลูด เมื่อมองผิวเผิน เส้นสายลายพิมพ์และตำหนิพิมพ์ทั้งหมดคล้ายกับพิมพ์ใหญ่มาตรฐานที่คุ้นตา เพียงแต่ส่วนสูงมากกว่าและส่วนกว้างน้อยกว่าเล็กน้อย
โจทย์ถัดมาเกี่ยวกับเนื้อและผิว ได้รับการเฉลยว่า สภาพโดยรวมมีการสึกช้ำในระดับปานกลาง โครงสร้างยังคงความหนึกแกร่ง เงาสว่างจากเนื้อขาวตัดกับพื้นผนังที่ยังคงเหลือฝ้ารักสีน้ำตาลเข้ม พร้อมกับหลุมร่อง รอยยุบ รอยยับ และร่องริ้วระแหง (ไม่ใช่แตกลายงา) ทำให้องค์พระดูเด่นชัด
พระสมเด็จวัดระฆังในสภาพนี้เป็นพระแท้ที่ดูง่ายและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชื่นชอบพระสมเด็จรุ่นเก่า มีอิทธิพลทำให้ผู้คนในสมัยนั้นนิยมขัดแต่งพระให้ดูสวยงามขึ้น การขัดแต่งใช้ใบตองสำหรับขัดหนักและสำลีสำหรับขัดเบา
ครู “ตรียัมปวาย” ยังได้สอนเทคนิคการเสริมเงาสว่าง ซึ่งถือเป็นเทคนิคสำคัญ
เริ่มต้นด้วยการใช้วาสลิน (ในสมัยนั้น) ทาให้พระชุ่ม ตามด้วยการโรยแป้งเด็ก จากนั้นอบความอุ่นด้วยโป๊ะไฟฟ้า เมื่อได้เวลาก็ปัดออกด้วยแปรงอ่อน และขัดเบาๆ เพื่อให้เกิดเงาสว่างหรือความมันวาวโดยใช้สำลี
วิธีการเหล่านี้ในปัจจุบันถือว่าล้าสมัยและไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป ค่านิยมใหม่คือหากพระสกปรกหรือช้ำ ก็เพียงแค่ล้างให้สะอาดและปล่อยให้อยู่ในสภาพเดิม
พระที่ถูกแต่งเติมเพื่อเพิ่มความเงาสว่างหรือความฉ่ำ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบพระแล้ว มักดูไม่น่าพอใจเท่ากับพระที่สึกช้ำตามธรรมชาติ เช่น องค์ในคอลัมน์นี้ ที่ดูแล้วมีคุณสมบัติของพระแท้ครบถ้วน
แม้ว่าสมเด็จวัดระฆังแท้จะดูง่าย แต่สำหรับบางคนที่ยังยึดติดกับคำสอนโบราณที่ว่าพระสมเด็จวัดระฆังหลังแตกลายงาเป็นพระปลอม นี่อาจเป็นปัญหาได้
คำสอนนี้ฟังดูมีเหตุผล แต่ควรฟังด้วยความระมัดระวัง
วันนี้โชคดีที่มีหนังสือ 'สามสมเด็จ' ของประชุม กาญจนวัฒน์ (พิมพ์ พ.ศ. 2523) อยู่ในมือ จึงขอยกความรู้จากพี่ชุมมาเป็นแนวทางในการพิจารณา
พระสมเด็จวัดระฆังสามารถแบ่งประเภทของผิวออกเป็นสามแบบ
1. ผิวที่เรียบตึง ซึ่งเกิดจากธรรมชาติ ผิวประเภทนี้มักมีแป้งโรยพิมพ์ปรากฏตามซอก
2. ผิวที่แตกร้าวบางส่วนเนื่องจากเนื้อไม่แน่น ผิวประเภทนี้มักพบในลักษณะคล้ายกับเนื้อพระวัดพลับ ซึ่งเกิดจากเนื้อไม่แน่นตัว
3. ผิวแตกลายงาเนื่องจากน้ำรักรัดตัว พระสมเด็จวัดระฆังที่มีผิวแตกลายทั่วองค์ ส่วนใหญ่เนื้อจะแตกด้านหน้า สาเหตุเป็นเพราะเนื้อพระยังไม่แน่นตัวพอ เมื่อถูกน้ำรักรัดตัวมาก ผิวด้านหน้าจึงแตกลายงา
ข้อ 3 ผิวแตกลายงา ตามทฤษฎีของพี่ชุม มีประโยคต่อท้ายว่า ส่วนมากจะแตกด้านหน้า... คำว่า 'ส่วนมาก' บ่งชี้ว่าพี่ชุมไม่ได้ระบุชัดเจนว่าหากหลังแตกงาจะเป็นพระปลอมทุกองค์ การแตกงาด้านหลังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ บางประการ
เช่น หลังพิมพ์ใหญ่องค์ในคอลัมน์นี้ มีริ้วระแหง (ไม่แน่ใจว่าจะเรียกแตกลายงาหรือไม่) มากกว่าริ้วระแหงในพื้นผนังด้านหน้า หากใช้หลักว่าด้านหลังลงรักและถูกน้ำรัดตัวมาก จนเกิดปฏิกิริยาแตกลายงา ก็เป็นไปได้
ผู้ที่ชื่นชอบพระสมเด็จและผ่านการเห็นพระมาหลายสภาพ คงเข้าใจดีว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
หากพิจารณาแล้วพบว่าเป็นไปได้และมีเหตุผลอธิบายได้ตามธรรมชาติ เมื่อรวมกับการพิจารณาองค์ประกอบด้านหน้าที่เป็นพระสมเด็จวัดระฆังแท้แน่นอน ก็ควรสรุปได้ว่าเป็นหลังสมเด็จวัดระฆังอีกสภาพหนึ่ง
พลายชุมพล