ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ สนามพระวิภาวดี ปีที่ ๒๗ ด้วยความขอบคุณที่ให้การสนับสนุนและติดตาม หน้าพระMytour มาอย่างต่อเนื่อง ในสัปดาห์นี้ ทีมงานของเราที่ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนตลอด ๒๗ ปี ปีละ ๕๒ สัปดาห์ รวมแล้วกว่า ๑,๓๕๒ ครั้ง ก็พร้อมลุยงานต่อเช่นเคย
เดิมทีเราตั้งใจจะสำรวจตลาดพระเครื่องในช่วงต้นปี ๖๖ แต่จนถึงตอนนี้ทุกสนามยังเงียบเหงา หาตัวพระเครื่องไม่ครบ เนื่องจากผลกระทบจากโควิดที่ยาวนาน ทำให้ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เต็มไปด้วยการพักผ่อน--ไว้โอกาสหน้าค่อยว่ากันใหม่
สำหรับวันนี้ เราขอเสนอพระเครื่องคุณภาพดีในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป จนใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งต่างจากคำวิจารณ์ที่ว่าสนามพระวิภาวดีมีแต่พระเครื่องไฮเอนด์ราคาแพง ที่จริงแล้วเราพยายามนำเสนอพระเครื่องหลากหลายระดับอยู่เสมอ
ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับพระเครื่องหลักๆ มากกว่า ตามแนวคิดของข่าวพระMytour ที่เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของวงการพระเครื่อง และยังคงรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะเริ่มซบเซาลงบ้างในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการปกครอง ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก และยิ่งเมื่อเจอสถานการณ์โควิดที่รุนแรง ก็ทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง
ในวัฒนธรรมไทยพุทธ แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ความศรัทธาของคนไทยที่มีต่อพระเครื่องยังคงมั่นคง ทำให้วงการพระเครื่องยังคงอยู่ได้ ผู้คนยังคงสนใจในการสะสมและเสาะหา เพียงแต่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งนี่คือหน้าที่ของทีมงานสนามพระวิภาวดี ที่จะนำเสนอเนื้อหาตามเทรนด์ที่เหมาะสมกับยุคสมัย

ในวันนี้ เราขอแนะนำพระเครื่องหลักที่มีราคาไม่สูงมาก และพระเครื่องคุณภาพดีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นพระเครื่องที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเริ่มจากพระพิมพ์สมาธิเข่ากว้าง สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดพลับ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ พระพิมพ์นี้สร้างจากเนื้อผงพุทธคุณ ปูนเปลือกหอยป่น ผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์และผงพุทธคุณ ๕ ประการ เชื่อกันว่าเป็นสูตรเดียวกับพระสมเด็จ วัดระฆังฯ เนื่องจากสร้างโดยสมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ด้วยตำนานอันยาวนาน พระพิมพ์เนื้อผงนี้จึงได้รับความนิยมในการบูชาแทนพระสมเด็จ เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และมีหลายแบบพิมพ์ให้เลือกสรรในราคาที่เหมาะสม รวมถึงมีหลายระดับราคาตั้งแต่หลักหมื่นต้นไปจนถึงหลักแสน สำหรับพิมพ์นิยมที่มีสภาพสมบูรณ์แบบ
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ต้องการลงทุนมาก สามารถเริ่มต้นด้วยพิมพ์รอง เช่น องค์นี้ ซึ่ง เสี่ยก้อง พระสมเด็จ เปิดราคาไว้ไม่ถึงแสนห้า

พระเครื่องดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป ตัวอย่างเช่น พระคง กรุเก่า วัดพระคง อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นหนึ่งในพระกรุเก่าที่มีชื่อเสียงด้านอานุภาพและราคาไม่สูงมาก ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของวงการพระเครื่อง ราคาอยู่ที่หลักร้อย ในขณะที่พระรอด ทุกพิมพ์ มีราคาสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสน
เนื่องจากจำนวนพระคงมีมากและหาได้ไม่ยาก จึงมีคำกล่าวว่า ทุกบ้านในลำพูนต้องมีพระคงไว้ในครอบครอง
ปัจจุบันราคาพระเครื่องได้ปรับตัวสูงขึ้น อยู่ในช่วงหลักหมื่นปลายถึงหลักแสน แต่ก็ยังมีพระสภาพที่ใช้งานมามีรอยสึกหรอ พิมพ์พระไม่ชัดเจน ราคาอยู่ที่หลักพันหรือหลักหมื่นต้น สำหรับพระสภาพสมบูรณ์ เช่น องค์นี้ของ เสี่ยตะวัน พระลำพูน ที่ตั้งราคาไว้ที่ ๙๕,๐๐๐ บาท หรือหากต้องการจ่ายเพิ่มอีกไม่กี่หมื่นก็จะได้พระที่เห็นรายละเอียดชัดเจน พร้อมโชว์ได้อย่างมั่นใจ หรือบางคนอาจเลือกเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาฝีมือก่อนแล้วค่อยอัพเกรดไปสู่พระองค์ที่สวยขึ้นเรื่อยๆ ขอแค่พระแท้ก็พอ เพราะปัจจุบันเซียนพระก็มีการรับประกันกันหมดแล้ว แค่ตกลงเงื่อนไขให้ดี ใครไม่รับประกันอย่าซื้อ

องค์ต่อไป เราขอแนะนำพระในกลุ่มเบญจภาคีชุดเล็ก นั่นคือ พระนางพญา พิมพ์ใหญ่ (มีหู) จากกรุโรงทอ วัดโพธิ์ พิษณุโลก พระกรุ “สกุลนางพญา” ที่ถูกค้นพบในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ “พระนางพญา กรุวัดนางพญา” จึงเป็นที่นิยมในการบูชาแทนกัน
เนื่องจากพุทธศิลป์ของพระนี้เป็นศิลปะสมัยอยุธยา พิมพ์พระมีลักษณะสามเหลี่ยม นั่งปางมารวิชัย เส้นสายลายศิลป์คล้ายฝีมือช่างเดียวกัน และถูกพบในเขตเมืองพิษณุโลกเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ด้านการคุ้มครองป้องกันภัยและเมตตามหานิยม
มีให้เลือก 2 แบบพิมพ์ ได้แก่ พิมพ์ใหญ่มีหู สภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานและโชว์ได้อย่างสวยงาม เช่น องค์นี้ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ ซึ่งมีราคาเพียง ๑๔๕,๐๐๐ บาท แต่หากต้องการราคาที่ถูกกว่านี้ สามารถเลือกพิมพ์เล็ก (ไม่มีหู) ที่ยังอยู่ในช่วงหลักหมื่นกลางถึงปลาย ก็จะได้องค์ที่สวยงามและคุ้มค่า

รายการถัดไป เป็นพระเครื่องดีที่มีความโดดเด่นจากสกุล “วัดระฆังฯ” นั่นคือ พระปิลันทน์ พิมพ์เปลวเพลิงเล็ก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสนีย์วงศ์) วัดระฆังฯ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่นิยมในการสะสมในฐานะ “พระสองสมเด็จ”
เนื่องจากมีหลักฐานยืนยันว่าพระเครื่องนี้สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด) ขณะดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์ที่พระพุทธบาทปิลันทน์ ท่านเป็นศิษย์ “สายตรง” ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อเนื่องกัน จึงเชื่อได้ว่าสมเด็จฯโต มีส่วนร่วมในการสร้างและได้มอบผงวิเศษ ๕ ประการของท่านเป็นส่วนผสมในมวลสาร
พระเครื่องนี้มีหลายสิบพิมพ์และได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นอีกหนึ่งพระพิมพ์ที่ใช้แทน “พระสมเด็จ” ได้ ซึ่งมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นต้นไปจนถึงหลักแสนกลาง หากต้องการราคาที่ถูกกว่านั้น สามารถเลือกพิมพ์เล็ก เช่น องค์นี้ของ เสี่ยเก่ง ท่าพระจันทร์ ที่มีราคาเพียงหลักหมื่นกลางๆ ก็ได้องค์ที่สวยงามแล้ว เป็นพระที่เหมาะทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่

อีกหนึ่งพระเครื่องที่มีชื่อเสียงคือ พระพิมพ์ยืนอุ้มบาตร (ใหญ่) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดท้ายตลาด เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ พระกรุชั้นดีที่มีสกุลสูง เนื่องจากมีพุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างหลวง และสร้างโดยพระเถระสมณศักดิ์ระดับพระราชาคณะชั้น “สมเด็จ”
พระเครื่องนี้ถูกสร้างและบรรจุกรุไว้ในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีมากกว่า ๕๐ พิมพ์ ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงและได้รับความนิยม มีอานุภาพในการคุ้มครองป้องกันภัยและเสริมเมตตามหานิยม เป็นที่เลื่องลือในวงการพระเครื่อง
แต่ราคายังไม่สูงมาก เนื่องจากพบพระเครื่องนี้ใน ๓ กรุ ได้แก่ วัดระฆังฯ วัดบางสะแก และวัดตะล่อม ปัจจุบันยังถือเป็นพระกรุเก่าชั้นดีที่มีราคาไม่แพง สามารถเลือกสะสมได้ตั้งแต่หลักพันสำหรับพิมพ์ท้ายๆ หลักหมื่นสำหรับพิมพ์รองๆ และหลักแสนสำหรับพิมพ์นิยม
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ทุกระดับราคาของพระเครื่องนี้ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ หากเก็บรักษาไว้ดีจะมีกำไรแน่นอน แม้แต่มหาเศรษฐีนักสะสมอย่าง อิทธิ ชวลิตธำรง ยังเลือกสะสมไว้

อีกหนึ่งพระเครื่องที่มีชื่อเสียงคือ พระปิดตา เนื้อผงจุ่มรัก พิมพ์ชะลูด พ.ศ. ๒๕๑๐ หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี พระปิดตาที่สร้างตามตำรับวิชาของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ซึ่งปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักสิบล้านบาท
ผู้ที่ศรัทธาในพระเครื่องจึงหันมาเสาะหา พระปิดตาชั้นศิษย์ ที่มีชื่อเสียง เชื่อมั่นว่าสามารถใช้บูชาแทนกันได้ ซึ่งมีทั้งพระปิดตาของหลวงปู่กลิ่น ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงปู่เอี่ยม แต่ปัจจุบันพระปิดตาที่ท่านสร้างไว้มีจำนวนไม่มาก และมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท
ผู้สนใจจึงหันมาสนใจ พระปิดตา ของหลวงพ่อทองสุข ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงปู่กลิ่น ซึ่งสร้างพระปิดตาในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับหลวงปู่เอี่ยม และได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะ พระปิดตาพิมพ์ชะลูด เนื้อผงจุ่มรัก พ.ศ.๒๕๑๐ ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่หลักหมื่นต้นถึงกลาง เช่น องค์นี้ของ เสี่ยเต่า พระเครื่อง

อีกหนึ่งพระเครื่องที่น่าสนใจคือ พระคง เนื้อผงคลุกรัก ยุคแรก ของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งเซียนพระทุกสายต่างเชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
เนื่องจากพระเครื่องนี้สร้างโดยหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งกรุงเทพฯ ผู้มีชื่อเสียงด้านวิชาพุทธาคมที่เข้มขลังมาก ในช่วงสงครามอินโดจีน วัดของท่านกลายเป็นที่หลบภัยของชาวบ้าน เพราะระเบิดที่ญี่ปุ่นทิ้งลงมาในกรุงเทพฯ ไม่เคยตกในวัดของท่านเลย เป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งเสด็จกรมหลวงชุมพรฯ ได้เข้ามอบตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนวิชาอาคม
ท่านได้สร้างพระพิมพ์หลากหลายแบบด้วยเนื้อผงคลุกรัก เพื่อมอบให้ศิษย์ในยุคแรกๆ ซึ่งปรากฏว่ามีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ด้านการคุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี จึงเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ยุคสงคราม
ปัจจุบันพระเครื่องนี้ได้รับการชี้แนะว่าเป็นพระดีที่มีอนาคต โดยเซียนใหญ่ซื้อเก็บไว้แบบไม่ยอมเปิดเผย องค์นี้ของ เสี่ยแมน รัตนา เป็นพระสภาพสมบูรณ์ สวยงามแบบเดิม และราคายังอยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ น่าซื้อเก็บไว้เพราะเริ่มหายากแล้ว และคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้

สุดท้ายนี้คือ พระกริ่งก้นยันต์ พิมพ์กลาง ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี องค์นี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นพระกริ่งชั้นศิษย์จากสกุล “วัดสุทัศน์” ซึ่งมีจำนวนมากพอให้สะสมได้ในราคาที่จับต้องได้ อยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ แต่สามารถใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ได้อย่างมั่นใจ
เนื่องจากหลวงพ่อแฉ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิชาการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ร่วมกับท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างพระกริ่งวัดสุทัศน์หลายรุ่น เนื้อพระกริ่งของท่านเป็นตำรับเดียวกับพระกริ่งวัดสุทัศน์--องค์นี้ของ เสี่ยวันชัย ดุลยธรรมภักดี มีราคาอยู่ที่หลักหมื่นกลาง
หวังว่าสนามพระวิภาวดีในวันแรกของปีนี้จะถูกใจผู้ชมที่กำลังมองหาพระเครื่องดีในราคาที่ไม่สูงเกินไป แต่ไม่ว่าจะถูกหรือแพง สิ่งสำคัญคือต้องเป็นพระแท้ ไม่อย่างนั้นอาจเสียรู้ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง