เริ่มต้นนับถอยหลังอย่างไม่ผิดหวังกับสนามพระวิภาวดี ที่จะปิดฉากปีที่ 27 ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า...
- เริ่มต้นกับองค์แรกของวันนี้คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (ใหญ่) วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมที่หายากและอยู่ในกลุ่มที่มีชื่อมงคลว่า “ใหญ่ ได้ ดี” ...เมื่อออกเสียงคำว่า เส้นด้าย จะได้ความหมายมงคลว่า ได้ ซึ่งหมายถึงการได้รับแต่สิ่งดีๆ มีเรื่องเล่าว่านักธุรกิจใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นนักสะสมพระสมเด็จที่มีชื่อเสียงจนได้รับฉายา “เจ้ากรมพระสมเด็จ” ชื่นชอบพระพิมพ์เส้นด้ายมากและใช้บูชาคู่ตัวตลอด เพราะพบว่าบูชาแล้วดีมีแต่ได้...โบราณาจารย์มักแนะนำให้บูชาพระให้ถูกตามโฉลกชื่อพิมพ์ เช่น พระยอดขุนพล-เสริมอำนาจระดับขุนพล พระรอด–ช่วยให้รอดปลอดภัย พระคง-เสริมความคงกระพัน พระนาคปรก-ปกป้องคุ้มครอง พระลีลา-ส่งเสริมความก้าวหน้า...

ในยุคแรกของวงการพระเครื่อง มีการแบ่งประเภทของพระพิมพ์เส้นด้ายตามรายละเอียดของเส้นศิลป์ 10 พิมพ์ ได้แก่ 1.พิมพ์เส้นด้ายใหญ่ 2.พิมพ์เส้นด้ายแขนกลม 3.พิมพ์เส้นด้ายแขนรี 4.พิมพ์เส้นด้ายแขนเหลี่ยม 5.พิมพ์เส้นด้ายแขนกลม-เกศใหญ่...6.พิมพ์เส้นด้ายแขนโย้ 7.พิมพ์เส้นด้ายแขนบ่วงหักศอก 9.พิมพ์เส้นด้ายทรงชะลูด 10.พิมพ์เส้นด้ายตัดชิด...พระพิมพ์เส้นด้ายใหญ่เป็นพิมพ์ที่ผสมผสานระหว่างพระพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เส้นด้าย โดยมีเส้นศิลป์ที่บอบบาง เช่น เส้นซุ้มครอบแก้ว และเส้นฐานชั้น 1–3 ที่เปลี่ยนจากเส้นคู่เป็นหน้าทึบ ทำให้องค์พระดูผึ่งผายและใหญ่โต...
ต่อมา นักสะสมพระเริ่มสังเกตเห็นความบอบบางของเส้นศิลป์ในพิมพ์พระที่ไม่ชัดเจนเท่าพระพิมพ์ใหญ่ จึงหันมาสนใจพิมพ์เส้นด้ายมากขึ้น และกำหนดให้พิมพ์เส้นด้ายใหญ่เป็นพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดพระพิมพ์เส้นด้ายใหญ่ ซึ่งหายากและมีมูลค่าสูง...ส่วนใหญ่เป็นพระกรุเก่าที่มีเนื้อมวลสารเข้มข้นและคราบกรุจับแน่น อย่างองค์นี้ของเสี่ยโจ๊ก ลำพูน ที่ถือเป็นพระกรุเก่าที่สวยงามและคลาสสิกที่สุด...
- องค์ที่สองคือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นนักเลงโต วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพิมพ์พระวัดเกศไชโยที่นอกเหนือจากพิมพ์มาตรฐาน และเป็นที่ต้องการของนักสะสม...พุทธศิลป์ขององค์พระมีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะวงพระกรที่กว้างและมีจุดหักข้อศอกเป็นปุ่มปม ทำให้ดูคล้ายชายชาตรีที่วางท่ากางแขน จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนยุคก่อน...พระพิมพ์นี้ได้รับความนิยมมากกว่าพิมพ์มาตรฐาน และมีราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นกลางถึงปลาย แต่ยังคงที่มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากความนิยมในยุคใหม่เปลี่ยนไปเป็นพิมพ์มาตรฐาน 3 พิมพ์ ที่มีราคาสูงถึงหลักล้าน...องค์นี้ของเสี่ยติ๊ก สายใต้ เป็นพระพิมพ์ 6 ชั้นนักเลงโตที่สมบูรณ์และหายากมาก...

- ต่อมาเป็น พระปิดตา เนื้อผงพุทธคุณจุ่มรัก พิมพ์แข้งซ้อน หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันตก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาอาคม แม้แต่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ยังเดินทางมาศึกษาต่อกับท่าน...ศิษย์ของท่านล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคต่อมา เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และหลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว ซึ่งเรียกท่านว่า “พ่อเฒ่ายิ้ม”...ตลอดชีวิตท่านสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังมากมาย โดยเฉพาะพระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณ ที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในห้าพระปิดตาชุดเบญจภาคี...ได้แก่ 1.หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ 2.หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง 3.หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน 4.หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว 5.หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ--องค์นี้ของเสี่ยพีท เมืองกาญจน์ เป็นพระปิดตาพิมพ์แข้งซ้อน ที่หายากและมีสภาพสมบูรณ์แบบนี้...

- องค์ถัดไปคือ พระปิลันทน์ พิมพ์ครอบแก้วเล็ก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสนีวงศ์ฯ) วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ศิษย์ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสและวิชาสายตรงจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)...ท่านได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ (ขาว) และผสมใบลานเผาสีเทาดำอมเขียว ขณะดำรงตำแหน่งพระพุทธบาทปิลันทน์ เมื่อปี พ.ศ.2407 และบรรจุกรุในองค์พระเจดีย์ เมื่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระพุฒาจารย์” ในปี พ.ศ.2435...

มีการค้นพบครั้งแรกเมื่อกลุ่มคนร้ายลักลอบขุดกรุองค์พระเจดีย์วัดระฆังฯ ในปี พ.ศ.2471 ต่อมาได้มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2480 พบพระพิมพ์เนื้อสีเทาเข้มอมเขียว มีคราบกรุสีขาวอมเหลืองเป็นประกายคล้ายสนิมไข่แมงดา ซึ่งนิยมเรียกกันว่า “ไขวัว” โดยคราบกรุมีความหนาบางแตกต่างกัน...สามารถแยกประเภทและขนาดของพระได้มากกว่า 20 พิมพ์ เช่น 1.พิมพ์ซุ้มประตู 2.พิมพ์ครอบแก้วใหญ่และเล็ก 3.พิมพ์เปลวเพลิงใหญ่และเล็ก 4.พิมพ์ปรกโพธิ์หลายแบบ 5.พิมพ์พระโมคคัลลาน์-สารีบุตร 6.พิมพ์ปฐมเทศนา 7.พิมพ์พระปิดตา และอื่นๆ...องค์นี้ของเสี่ยเก่ง ท่าพระจันทร์ เป็นพระพิมพ์เปลวเพลิงเล็ก ที่แยกได้เป็นแบบยกพระหัตถ์ขวาและซ้าย อย่างองค์นี้ที่มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม...
- องค์ที่ห้าคือ พระพิมพ์ปางปาลิไลยก์ (ใหญ่) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลีโลกยาราม (ท้ายตลาด) กรุงเทพฯ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณผสมใบลานเผา ซึ่งถือเป็นพระสกุลสูงที่มีพุทธศิลป์แบบรัตนโกสินทร์ และเชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) ได้บรรจุกรุไว้ประมาณ 84,000 องค์...มีการค้นพบครั้งแรกที่กรุวัดท้ายตลาดประมาณปี พ.ศ.2480 เป็นพระพิมพ์เนื้อผงผสมว่านยาและเกสรดอกไม้ มีสีเทาเข้ม และสามารถแยกพิมพ์ได้มากกว่า 50 พิมพ์...มีการค้นพบครั้งที่ 2 ที่กรุวัดนางชีในปี พ.ศ.2498 และครั้งที่ 3 ที่กรุวัดตะล่อมในปี พ.ศ.2508 ซึ่งทั้งหมดอยู่ในฝั่งธนบุรี...องค์นี้ของเสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นหนึ่งในพระพิมพ์นิยมมาตรฐานที่หายาก โดยเฉพาะพระพิมพ์ใหญ่ (องค์พระนั่งหันหน้าตรง) ที่มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม...

- อีกหนึ่งสำนักที่น่าสนใจคือ พระพิมพ์ซุ้มรัตนตรัยหลังนาง เนื้อผงยาจินดามณี พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ซึ่งเป็นพระพิมพ์นิยมมาตรฐานที่หายาก โดยเฉพาะเนื้อผงยาจินดามณี อย่างองค์นี้ของ “กัปตันแจ๊ค” ที่ถือว่าสวยที่สุดและหายากมาก จนมีราคาสูงถึงหลักล้าน...

- มาดูที่สนามเหรียญกันบ้าง เริ่มต้นด้วย เหรียญหล่อจอบเล็ก (แข้งติด) หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร ซึ่งเป็นเหรียญหล่อรูปจำลองพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมของวงการ ประวัติการสร้างเป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่อเงินทำพิธีเททองสร้างที่วัด โดยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม นำเนื้อโลหะมารวมกันเทหล่อแบบโบราณ พร้อมกับพระรูปเหมือนพิมพ์ขี้ตา...สามารถแยกพิมพ์ได้เป็น 1.พิมพ์แข้งตรง 2.พิมพ์แข้งติด 3.พิมพ์นิ้วกระดก 4.พิมพ์ตาขีด ซึ่งสร้างก่อนพระรูปหล่อพิมพ์นิยมและเหรียญจอบใหญ่ โดยให้โรงงานในกรุงเทพฯเป็นผู้หล่อ องค์นี้ของเสี่ยป้อม สามัคคีธรรม เป็นพระพิมพ์แข้งติดที่สมบูรณ์และสวยงาม ปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักล้าน++...

- ปิดท้ายด้วย เหรียญพุฒซ้อน พ.ศ.2509 ทองแดงกะไหล่ทอง หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญรุ่นยอดนิยมของสกุลหลวงปู่ทวด สร้างโดยพระอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในปี พ.ศ.2509 เป็นเหรียญปั๊มรูปทรงเสมา ด้านหน้าเป็นรูปจำลองหลวงปู่ทวดนั่งซ้อนด้านหลังพระอาจารย์ทิม มีอักขระพระคาถาล้อมรอบและเศียรช้างขนาบข้าง...ด้านล่างมีข้อความระบุนามหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ด้านหลังเป็นรูปจำลองพระสถูปเจดีย์วัดช้างให้ พร้อมข้อความระบุว่าเป็นเหรียญที่ระลึกสำหรับผู้ร่วมพิธีงานบุญเดือน 5 ปี พ.ศ.2509...

องค์นี้ของเสี่ยป้อม สามัคคีธรรม เป็นเหรียญทองแดงกะไหล่ทองที่สวยงามและยังไม่มีเหรียญใดเทียบได้...ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของครอบครัวอดีตนักสะสมพระที่พ่อเสียชีวิตไปหลายปี แม่และลูกคุยกันถึงพระเครื่องที่พ่อทิ้งไว้ให้เป็นมรดก ลูกชายคนกลางเล่าว่า พวกเขาโชคดีที่พ่อมีพระดีๆ เก็บไว้ให้เป็นทุน เช่น พระปิดตาที่พ่อให้คล้องคอ เมื่อให้เซียนดูก็บอกว่าเป็นพระปิดตาปลดหนี้ เนื้อเกสร มีราคาเป็นแสน...พี่สาวถามว่าเป็นพระแท้หรือไม่ น้องชายตอบทันทีว่าไม่รู้วิธีดูแต่เชื่อว่าแท้แน่นอน เพราะขายไปได้ 2 แสนบาทและใช้หนี้ได้หมด ทุกคนเห็นพ้องว่าพระองค์นี้เจ๋งจริงสมชื่อ เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.
สีของอ่าง