การนอนหลับเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับและน่าค้นหา ซึ่งได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง ในแวดวงการฝึกสมาธิและเข้าฌาน มักมีการพูดถึงสภาวะเคลิ้มหลับและช่วงรอยต่อระหว่างการตื่นตัวเต็มที่กับช่วงเริ่มต้นของการหลับหรือการหลับตื้น ซึ่งเป็นขั้นแรกของการนอนหลับที่เรียกว่า N1 ในช่วง non-rapid eye movement
ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าแม้จะเป็นหมอด้านสมองและมีความรู้เกี่ยวกับคลื่นสมองในภาวะต่างๆ รวมถึงคลื่นสมองชักและคลื่นที่บ่งชี้ความผิดปกติของเนื้อสมอง แต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญลึกซึ้งในเรื่องการเข้าฌานหรือสมาธิ เนื่องจากเมื่อก่อนเคยฝึกสมาธิแต่ไม่มีผู้ชี้แนะหรือครูฝึก
ดังนั้นจึงเคยประสบกับภาพหลอนที่ทำให้ตกใจและเลิกฝึกไป ความสนใจของผมอยู่ที่การนอนหลับลึกซึ่งช่วยให้ระบบกำจัดของเสียหรือขยะออกจากสมองผ่านระบบ glymphatic system ซึ่งขยายขนาดขึ้นถึง 60% ในช่วงหลับลึก
จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมบางรายที่หลับไปสองวันแล้วตื่นขึ้นมาอย่างแจ่มใส พูดจารู้เรื่อง และไม่ยอมหลับอีกสองวัน อาจอธิบายได้จากการที่ของเสียถูกกำจัดออกไปจนทำให้สมองทำงานดีขึ้น

การนอนหลับไม่ว่าจะน้อยเกินไปหรือมากเกินไปล้วนส่งผลเสียทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับยีนหรือรหัสพันธุกรรมที่กำหนดให้บางครอบครัวสามารถนอนเพียง 3-4 ชั่วโมงต่อคืนแล้วตื่นขึ้นมาอย่างกระปรี้กระเปร่า (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนอนหลับได้ในบทความของหมอดื้อ สุขภาพหรรษา Mytour)
กลับมาที่ประเด็นเรื่องระยะเคลิ้มหลับ ซึ่งเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจและถูกตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Science Advances ฉบับวันที่ 8 ธันวาคม 2021 เกี่ยวกับ Sleep Onset a creative sweet spot หรือช่วงเริ่มต้นของการหลับ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ยากลำบาก บทความนี้ยังถูกขยายความใน Scientific American ฉบับเดือนเมษายน 2022 โดยเน้นถึงประโยชน์ของการงีบหลับแบบที่อัจฉริยะหลายคนทำ
หนึ่งในบุคคลอัจฉริยะที่หลายคนรู้จักคือ โธมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ชื่อดัง ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ใน Scientific American ปี 1889 ว่าเขานอนน้อยมาก ไม่เกิน 4 ชั่วโมงต่อคืน และมักพูดว่าการนอนเป็นเรื่องเสียเวลา
เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อวิจัยโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Paris Brain Institute นำโดย Delphine Oudiette ผู้เชี่ยวชาญด้าน cognitive neuroscience ซึ่งศึกษาโดยเลียนแบบพฤติกรรมของโธมัส เอดิสัน ด้วยการให้ผู้เข้าร่วมถือลูกบอลไว้ในมือขณะเคลิ้มหลับ เมื่อลูกบอลหล่นลงถาดโลหะจะทำให้ตื่นขึ้นทันที ในช่วงรอยต่อระหว่างการตื่นและหลับตื้นนี้ มักเกิดภาพหรือเสียงคล้ายความฝัน ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญญาและนำไปสู่การคิดค้นสิ่งใหม่ๆ จนถึงขั้นร้อง 'ยูเรก้า' เมื่อค้นพบวิธีแก้ปัญหา
การวิจัยนี้มีผู้เข้าร่วม 103 คน โดยให้พวกเขาจดจำชุดตัวเลข 8 ตัวที่ประกอบด้วยเลข 1, 4, และ 9 จากนั้นให้หาวิธีหาคำตอบให้เร็วที่สุดภายใต้กฎสองข้อ กฎแรกคือให้รายงานตัวเลขเดิมหากตัวเลขก่อนหน้าและตัวต่อไปตรงกัน ส่วนกฎที่สองคือให้บอกตัวเลขตัวที่สามหากตัวเลขก่อนหน้าและตัวต่อไปต่างกัน ชุดตัวเลขที่ใช้คือ 9, 9, 1, 1, 4, 1, 4, 1

การทดสอบแบ่งออกเป็นสองบล็อก (แต่ละบล็อกมี 30 การทดลอง) โดยมีช่วงพัก 20 นาที จากนั้นทำต่ออีกเก้าบล็อก
ในการทดลองนี้มีการบันทึกคลื่นสมองเพื่อวัดช่วงเวลาที่เข้าสู่ภาวะ hypnagogic period ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ทดลองเริ่มหลับและอาจทำขวดน้ำหลุดมือจนสะดุ้งตื่น นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องมือบันทึกการเคลื่อนไหวของลูกตา (Electrooculographic record) และกล้ามเนื้อ (Electromyographic record) จากนั้นเปรียบเทียบผลการแก้ปัญหาระหว่างกลุ่มที่เคลิ้มหลับแล้วตื่น (N1 group) กลุ่มที่ตื่นตัวเต็มที่ (wake group) และกลุ่มที่หลับลึกถึงระยะที่สอง (N2 group) รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเอกสารวิจัยต้นฉบับ
ผลการทดลองแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยกลุ่ม N1 ที่เคลิ้มหลับแล้วตื่นสามารถแก้ปัญหาที่ซ่อนอยู่ในชุดตัวเลขได้ดีกว่ากลุ่มที่ตื่นตัวตลอดเวลา 2.7 เท่า และดีกว่ากลุ่มที่หลับลึกถึงระยะที่สอง 5.8 เท่า
จากการวิเคราะห์คลื่นสมอง พบว่าภาวะ hypnagogic period มีการผสมผสานระหว่างคลื่นอัลฟา ซึ่งสัมพันธ์กับความผ่อนคลายและสมาธิ กับคลื่นเดลตา ซึ่งเป็นคลื่นที่พบในช่วงหลับลึก
การศึกษานี้ดำเนินการตามแนวทางของโทมัส เอดิสัน และได้ข้อมูลที่มีประโยชน์แม้จะไม่ตรงกับความคาดหวังทั้งหมด ผลการวิจัยนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพสมองด้านการแก้ปัญหา การค้นพบสิ่งใหม่ๆ และความคิดสร้างสรรค์ ทีมวิจัยกำลังวางแผนเพื่อหาวิธีระบุช่วงเวลาที่ผู้ทดลองอยู่ในภาวะ hypnagogic period และกระตุ้นให้ตื่นขึ้นในเวลาที่เหมาะสม
แม้ว่าหมอจะนอนน้อย บางคืนแค่ 3-4 ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็โชคดีที่มักหลับลึกได้สนิทตามที่ต้องการ ประมาณ 75-90 นาทีต่อคืน ซึ่งถือว่าเพียงพอ และคิดว่าอีกไม่นานคงได้นอนยาวเต็มที่ บ่อยครั้งที่เคลิ้มหลับแล้วสะดุ้งตื่นพร้อมกับเห็นภาพตัวเลขชัดเจน เป็นตัวเลขสามตัวสีดำบนพื้นขาว จึงรีบจดไว้แล้วนำไปซื้อลอตเตอรี่หรือหวย ถูกไปแล้วสามงวดติด
สำหรับหมอคงไม่ค่อยโชคดีเท่าไร คงต้องลองใหม่ แต่คราวนี้ไม่หวังเรื่องตัวเลขแล้ว
หมอดื้อ