
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ที่เริ่มกลับมาระบาดในช่วงนี้ สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการเดียวกับการป้องกันโควิด-19 รวมถึงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ต้องระมัดระวังอาการข้างเคียงและการแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยควรสังเกตอาการภายใน 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งอาการแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก
- อาการข้างเคียงจากวัคซีนที่ไม่รุนแรง หรือผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย อัตราประมาณ 1-10 เปอร์เซ็นต์ เช่น ปวด บวม แดง เจ็บที่บริเวณที่ฉีด หรืออาการทั่วๆ ไป เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีไข้ต่ำ คลื่นไส้ อาการเหล่านี้มักหายไปภายใน 1-3 วัน และสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็นหรือทานยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามอล
- อาการข้างเคียงจากวัคซีนที่รุนแรง หรือผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายที่พบได้น้อยมาก ได้แก่ อาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งอาจเกิดภายในไม่กี่นาทีถึง 2-3 ชั่วโมงหลังจากฉีดวัคซีน โดยอาการจะมีผื่นลมพิษตามผิวหนัง คันที่ผิวหนัง บวมที่ตา ริมฝีปาก หรือบริเวณหน้าและคอ หายใจลำบาก วิงเวียน ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม เหงื่อออกมาก ชีพจรเบา ช็อก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานพบอาการทางระบบประสาทและสมอง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว อาการตัวอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก ประมาณ 1 ในล้านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากพบอาการข้างเคียงที่รุนแรงหรืออาการทางระบบประสาทและสมอง ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อให้การประเมินและรักษาได้ทันท่วงที
กลุ่มคนใดบ้างที่ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ตามคำแนะนำของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการแบ่งกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็น 7 กลุ่มหลัก
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี (ไม่เกิน 2 ปี 11 เดือน 29 วัน)
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และผู้ที่เป็นเบาหวาน
- ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคธาลัสซีเมียหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
- ผู้ที่มีโรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
- ผู้ที่มีความพิการทางสมองและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
กลุ่มบุคคลที่ไม่ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ถึงแม้ว่าวัคซีนจะเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถได้รับการฉีดวัคซีนนี้ได้ โดยผู้ที่มีอาการบางประการเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ไก่รุนแรง
- เคยเกิดอาการแพ้จากวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือสารในวัคซีนที่ทำให้เกิดอาการรุนแรง
- หากมีอาการไข้หรือป่วยเฉียบพลันในขณะนี้
- หากเพิ่งฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันภายใน 7 วันที่ผ่านมา
- หากเพิ่งออกจากโรงพยาบาลภายใน 14 วันหลังการรักษา
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังและมีอาการกำเริบ เช่น เจ็บหน้าอก ใจสั่น หรือหอบเหนื่อย และไม่สามารถควบคุมอาการของโรคได้
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะครรภ์เสี่ยงสูง หรือมีประวัติการตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อน
ข้อมูลอ้างอิง: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข