ลวดลายบนสร้อยทองเกิดจากฝีมือของช่างทองท้องถิ่น ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างประณีต เนื่องจากทองคำเป็นโลหะที่ต้องผ่านกระบวนการรีดและขึ้นรูป การออกแบบลายทองจึงมีความยากง่ายที่เรียกว่า “ค่ากำเหน็จ” ซึ่งส่งผลต่อราคาของทองรูปพรรณ ลายทองจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความทนทานให้กับสร้อยทอง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีลายทองที่ได้รับความนิยมมากมายดังนี้
12 ลายสร้อยทองหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบโปร่งและแบบตัน

ลายสร้อยทองมีทั้งแบบโปร่งและแบบตัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในการสวมใส่ว่าจะจับคู่กับจี้แบบไหน ลายทองบางแบบยังมีลูกเล่นบนพื้นผิวด้วยเทคนิคพิเศษอย่างการจิกเพชรหรือพ่นทราย เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับลายบนสร้อยทอง มาทำความรู้จักกับลายต่างๆ ดังนี้
1. ลายคตกิต
สร้อยทองลายคตกิตเป็นลายทองตันที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน ซึ่งบางคนเรียกว่าลายโซ่โบราณ ลักษณะของลายเป็นโซ่ที่เชื่อมต่อกันเป็นวงๆ โดยมีห่วงที่โปร่งเพื่อให้เห็นเนื้อทองภายใน เป็นลายทองที่มีความแข็งแรง และเหมาะสำหรับการคล้องจี้ขนาดเล็ก
2. ลายโซ่
สร้อยทองลายโซ่มีทั้งแบบสร้อยข้อมือและสร้อยคอ ถือเป็นลายทองตันที่แข็งแรงทนทาน ห่วงโซ่แต่ละวงจะคล้องกันโดยมีระยะห่างพอเหมาะ ทำให้สร้อยไม่ติดขัดขณะสวมใส่ ด้วยความทนทานของลายโซ่ จึงนิยมใช้ร่วมกับจี้หรือพระเครื่อง
3. ลายสี่เสา
สร้อยทองลายสี่เสามีทั้งแบบโปร่งและแบบตัน ลักษณะของลายจะเป็นโซ่ที่แต่ละเกลียวมีมุม 4 ด้าน เมื่อคล้องกันเป็นสายสร้อยแล้ว จะทำให้สร้อยทองดูหนาเหมือนเส้นเชือก เหมาะสำหรับห้อยจี้หรือตุ้งติ้ง และสามารถใช้ได้ทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือ
4. ลายเปียถัก
สร้อยทองลายเปียถักมีลักษณะเป็นเกลียวที่คล้องต่อกัน ทำให้สร้อยดูเรียบกลม เมื่อใส่แล้วจะให้ความรู้สึกของเส้นหนาและมีน้ำหนัก ถือเป็นสร้อยทองที่แข็งแรงสูงอีกแบบหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมในทั้งแบบโปร่งและแบบตัน
5. ลายผ่าหวาย
สร้อยทองลายผ่าหวายมีทั้งแบบโปร่งและแบบตัน ลักษณะของลายจะคล้ายกับสร้อยทองลายโซ่ แต่ห่วงจะเชื่อมต่อกันแบบหลวมๆ ทำให้สามารถเห็นเนื้อผิวของห่วงทั้งด้านนอกและด้านใน ห่วงก็ไม่ขัดกันง่าย จึงทำให้ลายผ่าหวายเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการสร้อยทองที่ทนทานและสามารถสวมใส่ได้ตลอดวัน
6. ลายเบนซ์
สร้อยทองลายเบนซ์เป็นลายทองโปร่งที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่ผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยความสวยงามที่ดูทันสมัย มองจากด้านหนึ่งจะเห็นเป็นลายสี่เสาที่มีความชัดเจน และอีกด้านเป็นลายโซ่ที่เชื่อมต่อกันอย่างสวยงาม ลายเบนซ์ถือเป็นลายทองที่มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสามารถใส่ติดตัวได้แม้ขณะนอนหลับ
7. ลายซีตรอง
สร้อยทองลายซีตรองเป็นลายทองที่มีให้เลือกทั้งแบบตันและแบบโปร่ง โดยถือเป็นลายทองสมัยใหม่ที่ให้ความสวยงามด้วยการเชื่อมต่อของห่วงถัก ซึ่งมองเห็นเป็นสองลายที่แตกต่างกัน ด้านหนึ่งจะคล้ายลายเบนซ์ ส่วนอีกด้านจะคล้ายกับลายสีเสาต้นเล็ก การเลือกทองที่มีน้ำหนักมากจะทำให้ลายทองโดดเด่นยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการคล้องกับจี้หรือตุ้งติ้ง
8. ลายไข่มังกร
สร้อยทองลายไข่มังกรเป็นลายทองโปร่งที่บางครั้งเรียกว่าลายตาไก่ตัดลาย ซึ่งมีลักษณะเป็นปล้องที่เชื่อมต่อกัน โดยแต่ละปล้องจะมีการตกแต่งลายบนผิวทอง เหมาะสำหรับการใช้งานกับทองน้ำหนัก 1 บาทขึ้นไป
9. ลายเกล็ดมังกร
สร้อยทองลายเกล็ดมังกรเป็นลายทองโปร่งที่ถักสายทองขึ้นรูปเป็นเกลียว โดยใช้เทคนิคพิเศษในการเพิ่มลายบนผิวห่วง เช่น การพ่นทรายหรือการจิกเพชร ทำให้ทองสะท้อนแสงอย่างสวยงาม นิยมใช้แต่งคู่กับจี้หัวมังกร เพื่อเสริมความเป็นมงคลตามชื่อของลาย
10. ลายไข่ปลา
สร้อยทองลายไข่ปลาเป็นเส้นทองที่มีการเว้นช่วงระหว่างห่วงโซ่และไข่ปลาทรงกลม ลายนี้มีทั้งแบบโปร่งและแบบตัน บางร้านจะพ่นทรายให้ผิวทองดูสว่าง และเมื่อเรียงต่อกันจะเห็นแสงสะท้อนวาววับ ทำให้ลายนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง
11. ลายกระดูกงู
สร้อยทองลายกระดูกงูมีทั้งแบบโปร่งและแบบตัน ลักษณะเป็นเส้นหนาคล้ายเกลียวซับซ้อน เมื่อบิดแล้วจะมีรูปร่างคล้ายงู หากเลือกน้ำหนักทอง 1-2 บาทจะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทำให้สามารถสวมใส่คู่กับจี้พระเลี่ยมได้อย่างทนทาน เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการสร้อยทองลวดลายแข็งแรง
12. ลายพิกุล
สร้อยทองลายพิกุลเป็นลายที่สร้างสรรค์จากฝีมือช่างทองที่มีความละเอียดและประณีต ตกแต่งสร้อยให้มีรูปร่างคล้ายกลีบและเกสรของดอกพิกุล ทั้งแบบโปร่งและแบบตัน เหมาะสำหรับเครื่องประดับที่ใช้กับชุดไทย
ในการเลือกซื้อสร้อยทอง ควรพิจารณาถึงความแข็งแรงของลายทอง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสวมใส่สร้อยทองตลอดเวลา หรือห้อยพระเครื่อง ควรเลือกลายทองที่ถักแน่น หรือหากชื่นชอบลายเส้นเล็ก ควรเลือกแบบตันเพื่อเพิ่มความทนทานขณะสวมใส่.
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ทำความเข้าใจน้ำหนักทองคำ 1 บาท 1 สลึง มีน้ำหนักกี่กรัม และวิธีการคำนวณเพื่อให้มั่นใจในการซื้อทองคำ