คาถาบูชาพญาครุฑถือเป็นหนึ่งในคาถาที่ผู้คนจำนวนมากปฏิบัติตาม เพราะเชื่อว่า "องค์พญาครุฑ" คือผู้ปกครองแห่งท้องฟ้าและเป็นเทพที่มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์...ฮินดู จึงไม่น่าแปลกใจที่มีผู้คนมากมายบูชาพญาครุฑด้วยความศรัทธา
เพราะความเชื่อที่ว่า...การบูชาพญาครุฑจะช่วยเพิ่มบารมีและนำพาความรุ่งเรืองในชีวิต
คาถาบูชาพญาครุฑแบบย่อที่ผู้คนมักสวดกันสั้นๆ เมื่อเดินทาง หรือใช้สวดบูชาเมื่อพกพาครุฑองค์เล็กๆ ติดตัว เพื่อขจัดอันตรายและเสริมโชคลาภ
ตั้งนะโม 3 จบ...คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย นะได้เงิน นะได้ทอง นะเจริญ นะมั่นคง นะได้ทรัพย์ นะเมตตา อิติปิโสภะคะวาพระพุทธเจ้าสั่งมา พญาครุฑล้างอาถรรพณ์ อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง พญาครุฑยันติ อภิปูยาจามิ

เมื่อพญาครุฑปรากฏ มนุษย์ก็จะเกิด พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าทรงย่างพระบาท นะปัจจะโยโหนตุ
หรือจะเป็นคาถาบูชาพญาครุฑในรูปแบบย่อ...โอมพญาครุฑจะช่วยให้ผลสำเร็จหลีกเลี่ยงอันตราย พญาครุฑจะเดินทาง เคาะงอ เคาะงอ โอม คะรุทา โอม คะรุทา โอม คะรุทา ครุฑโธ ครุฑธา ปฏิเสวามิ (สวด 3 จบ)
ยังมีความเชื่อว่า คาถาบูชาครุฑสามารถขจัดอาถรรพณ์และปกป้องจากภัยอันตรายต่างๆ ไม่ให้ภูตผีหรือสัตว์ร้ายเข้ามารบกวน ด้วยอำนาจบารมีของพญาครุฑ
คาถาบูชาพญาครุฑถือเป็นความเชื่อที่ขึ้นอยู่กับบุคคล โดยผู้ที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือผู้ที่มีศีลธรรม มีจิตคิดดี ทำดี และที่สำคัญคือผู้ที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เพราะพญาครุฑเองก็เป็นเทพที่มีความกตัญญูต่อลักษณ์มารดาของท่าน
@@@@@@
“พอ” คือสิ่งที่หายากในโลกของผู้ที่มีความ “โลภ”… “นิ่ง” คือสิ่งที่หายากในโลกของผู้ที่ “โกรธ”… “หยุด” คือสิ่งที่หายากในโลกของผู้ที่ “หลง”
ธรรมะคือสิ่งที่จะช่วยท่านได้ พระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้กล่าวถึง “ความพอดีของชีวิต” … การรู้จักพอจะทำให้เรามีความสุขในชีวิต คนที่รู้จักพอจะมีความสบายใจและชีวิตมีความสมดุล
ในขณะที่ผู้ที่ไม่รู้จักพอมักจะกระวนกระวายแสวงหาความต้องการอย่างไม่รู้จักหยุด… “ความไม่รู้จักพอมีอยู่ได้แม้ในผู้ที่มีฐานะร่ำรวยและมีอำนาจ แต่ความรู้จักพอก็สามารถพบได้ในผู้ที่มีฐานะยากจน”

คนที่เกิดในวันอาทิตย์…มักจะเป็นคนที่มีความกตัญญูและยึดมั่นในความถูกต้อง มักเชื่อและไว้ใจคนอื่น แต่กรรมจากชีวิตที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดอุปสรรคเรื่องการเงิน คนที่เกิดในวันจันทร์…มักมีความรู้สึกน้อยใจง่าย มีจิตใจที่อ่อนโยนและเปิดเผย แต่กรรมจากชีวิตที่ผ่านมามักเกี่ยวข้องกับเรื่องความรัก ซึ่งทำให้หาคู่ยากและเจอกับอุปสรรคต่างๆ
คนที่เกิดในวันอังคาร…มักเป็นคนที่จริงใจ กล้าคิด และมีจินตนาการสูง แต่กรรมที่ติดตัวมักทำให้ถูกเอาเปรียบและถูกใส่ร้าย ส่วนคนที่เกิดในวันพุธ…มักเป็นคนพูดเก่ง ชอบเจรจาและสามารถสร้างความรักให้คนอื่นได้โดยไม่ตั้งใจ

คนที่เกิดในวันพฤหัสบดี…มักมีโชคดี แต่กรรมที่ติดตัวมาคือความยากลำบากในการเข้ากับผู้อื่น คนที่เกิดในวันศุกร์…มีบุญเก่าเป็นเครื่องหนุน แต่กรรมที่ติดตัวตั้งแต่เกิดมักทำให้ไม่สามารถหาความสุขที่แท้จริงได้…ส่วนคนที่เกิดในวันเสาร์…เป็นคนตรงไปตรงมา รักจริงและมีความสามารถทางสมอง แต่กรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดคือการสูญเสีย ทำดีได้ผลตอบแทนยาก
แก้ไขกรรมด้วยเหตุและผล ทำความดีอย่างสม่ำเสมอ จับทางเดินชีวิตให้ดี ไม่เชื่ออะไรงมงายจนเกินไป เร่งทำบุญ สร้างความดี และชดเชยให้เจ้ากรรมนายเวร
@@@@@@
“อุอากะสะ อากะสะอุ กะสะอุอา สะอุอากะ” สวด 5 จบ
คาถาข้างต้นคือ “หัวใจมหาเศรษฐี” เชื่อกันอย่างแรงว่ามีความศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่
หากผู้ใดได้นำคำสอนนี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจังและเคร่งครัดทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน จะพบกับความโชคดี เส้นทางชีวิตจะเต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จ อีกทั้งยังมีทรัพย์สมบัติและเกียรติยศชื่อเสียงตามมา

คาถาศักดิ์สิทธิ์นี้แฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง ผู้ที่นำไปปฏิบัติต้องเข้าใจเนื้อแท้ของคำสอนอย่างแท้จริง ซึ่งก็คือการเข้าใจและปฏิบัติตามคาถา “หัวใจมหาเศรษฐี”
การสวดมนต์ไม่ใช่เพียงแค่การท่องคำภาวนาเท่านั้น หรือคาดหวังว่าการสวดมนต์จะทำให้ร่ำรวยหรือชีวิตดีขึ้น แต่ต้องเข้าใจความหมายในคาถาและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงจะประสบความสำเร็จตามที่คาถาบอกไว้
เพื่อย้ำให้เข้าใจกันอีกครั้งในรูปแบบที่ง่ายๆ คือ
“ขยันและตั้งใจรักษาความเพียร เลือกคบหาคนดีเป็นมิตร และมีชีวิตแบบพอเพียง...รู้จักหาให้มากและให้น้อย” นี่คือหัวใจของคาถามหาเศรษฐี ซึ่งทำให้ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติไปในทางนี้จะพบกับความมั่งคั่งและความสำเร็จอย่างแท้จริง

ท่าน ว.วชิรเมธี เคยสะท้อนความหมายของคำว่า “เศรษฐี” ไว้ว่า “...เป็นผู้ที่มีจิตใจบุญและมีคุณธรรมที่ประเสริฐเลิศล้ำ” ส่วนผู้ที่มีทรัพย์สินมากนั้น เราจะเรียกว่า “มหาวาณิช”
ดังนั้น “คนรวย” กับ “เศรษฐี” จึงมีความแตกต่างจาก “มหาวาณิช” ...พ่อค้าสามารถกลายเป็นเศรษฐีได้หากรู้จักการเปลี่ยนทุนให้กลายเป็นธรรม “ธุรกิจครอบครัว” ที่จะยั่งยืนและเติบโต มันไม่เพียงแค่ทำให้ธุรกิจกลายเป็นมหาวาณิช แต่ยังต้องเป็นเศรษฐีในความหมายของความมั่งคั่งทางธรรมด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดของหัวใจเศรษฐีคือการเจริญรุ่งเรืองใน “ธรรม” หรือ “จริยธรรม”

“อุ อา กะ สะ”... “หัวใจเศรษฐี” อ่านตรงตัวตามที่เขียนว่า อุ อา กะ สะ
“อุ” = ขยันหมั่นเพียรในการหาความสำเร็จ
“อา” = รักษาความดีและคุณธรรมอย่างตั้งใจ
“กะ” = การมีมิตรที่ดีและเป็นประโยชน์
“สะ” = การดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมและพอเพียง
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อหรือไม่ โปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
คลิกอ่านคอลัมน์ "เหนือฟ้าใต้บาดาล" เพื่อศึกษาเพิ่มเติม