กมล คุณงามความดี หรือ “รัก” อายุ 47 ปี ได้โพสต์ภาพบนน้ำมนต์ของ “เจ้าแม่นางนอน” พร้อมหัวหมูชุดใหญ่ ผลไม้ น้ำแดง และน้ำดื่ม ในเฟซบุ๊ก “ตะวัน จอมยุทธ์ ไร้คู่” โดยมีความหวังว่าผลสอบเข้าตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่าจะสำเร็จสมความตั้งใจ
แม้ว่าผลสอบในวันนี้ยังไม่ออกเนื่องจากมีปัญหาเรื่องเอกสารบางประการ แต่ความศรัทธาและความเชื่อในเจ้าแม่นางนอนนั้นเต็มเปี่ยม จึงได้มาบนบานขอให้สมหวังในครั้งนี้ และหากผลการสอบเป็นไปตามที่หวังไว้ ก็จะกลับมาแก้บนอีกครั้ง
วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่ใกล้เข้ามา จะเป็นวันสำคัญที่ทุกคนรอคอยว่าจะได้ผลตามความหวังหรือไม่
“รัก” เป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่โรงพยาบาลหัวเฉียวและย้ายมาอยู่ที่แม่สายเกือบ 20 ปีแล้ว เชื่อในความศรัทธาต่อเจ้าแม่นางนอน... “เจ้าแม่นางนอนท่านศักดิ์สิทธิ์นะครับ ชาวบ้านหลายๆ คนมาบนบานก็สำเร็จสมหวังกันมากมาย สามารถเห็นของที่นำมาแก้บนได้ตามวัดต่างๆ”

ตำนานของเจ้าแม่นางนอน ซึ่งรวมถึงเรื่องราวของ 13 หมูป่า ที่มาบนบานกับท่าน และทุกคนก็รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ การช่วยเหลือเด็กติดถ้ำ ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่นางนอนมานานแล้ว
ถามต่อว่าเคยบนบ่อยไหม? พูดกันตามตรงเลย ก่อนหน้านี้เคยบนมาก่อน เคยขอให้คุณแม่ขายทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ ที่ประกาศขายมานานหลายปี จนมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถขายได้
หลังจากมาบนกับเจ้าแม่นางนอน ไม่ถึง 3 เดือน แม่ก็ขายบ้านได้จริงๆ แถมได้ราคาที่ดีกว่าที่คาดไว้เสียอีก
ถ้าขายได้เมื่อหลายปีก่อนคงรู้สึกเสียดายไม่น้อย เมื่อได้สัมผัสกับเหตุการณ์นี้จริงๆ คงไม่กล้าที่จะล้อเล่นกับสิ่งเหล่านี้อีก มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความจริง อย่างนี้เชื่อหรือไม่ก็ตาม ควรระมัดระวังไม่ให้เหยียดหยาม
@@@@@@
ตำนานของ “เจ้าแม่นางนอน” เริ่มต้นจากเรื่องราวที่เล่าขานกันมาว่า ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่งผู้ทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่ง ได้ลอบรักกับชายหนุ่มที่เป็นเพียงคนเลี้ยงม้า ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ตามประเพณีโบราณ
แต่...ความรักที่มีต่อกันทำให้ทั้งสองแอบรักกันจนพระราชธิดาทรงตั้งครรภ์
เมื่อความลับไม่สามารถปิดได้อีกต่อไป จึงต้องหลบหนีไปด้วยกัน เมื่อพระราชบิดาทรงทราบจึงส่งทหารออกติดตาม ทั้งสองต้องเดินป่าฝ่าดงในความยากลำบากจนมาถึงที่ราบแห่งหนึ่งริมแม่น้ำ พระราชธิดาที่ทรงพระครรภ์รู้สึกอ่อนล้ามากจนไม่สามารถเดินต่อไปได้

ชายหนุ่มจึงได้บอกให้พระราชธิดารออยู่ที่นี่ เขาจะเข้าไปในป่าเพื่อหาอาหารให้ และห้ามเสด็จไปไหน ทว่าโชคร้ายที่ทหารตามมาทันและพบชายเลี้ยงม้าในป่า พวกเขาจึงเข้าทำร้ายจนชายหนุ่มเสียชีวิต พระราชธิดาจึงรอคอยชายคนรักอยู่ที่เดิมจนเวลาล่วงเลยไปจนค่ำ
จนกระทั่งกองทหารของพระราชบิดามาถึงและเชิญพระราชธิดากลับไปยังนครเชียงรุ้ง เมื่อทราบว่าชายคนรักถูกฆ่าตาย พระราชธิดาก็เสียพระทัยอย่างยิ่ง
เมื่อได้ตั้งสติ พระราชธิดาจึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ยึดมั่นใน “ความรักบริสุทธิ์” เป็นหลัก ก่อนจะดึงปิ่นปักผมออกมาแทงที่พระขมับ จนเลือดไหลออกเป็นสายและสิ้นพระชนม์ในที่สุด...

เลือดที่หลั่งออกมานั้นได้กลายเป็นต้นน้ำสายในปัจจุบัน ส่วนพระวรกายที่ทรงนอนเหยียดยาวจากใต้จนถึงเหนือก็ได้กลายเป็น “ดอยนางนอน” ที่เรารู้จักกันในวันนี้ ส่วนอิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง...พระอุทรที่ทรงพระครรภ์กลายเป็นดอยตุง...พระเศียรกลายเป็นดอยท่า (ดอยจ้อง)...พระถันกลายเป็นดอยแม่ย่า ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่จากเพจ Lanna... “ตำนานถ้ำหลวง”
@@@@@@
ย้อนกลับไปในช่วงที่ทีมเจาะน้ำบาดาลพยายามระบายน้ำจาก “ถ้ำหลวง” เพื่อช่วยเหลือ “13 หมูป่า” ได้เจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ เครื่องจักรติดขัดและชำรุดบ่อยครั้ง จนต้องกลับมา “แก้บน” ให้กับเจ้าแม่นางนอน โดยทำพิธีบวงสรวงด้วยหัวหมู ผลไม้ และอาหารคาวหวาน มีนางฟ้อนรำ 2 คน มาฟ้อนรำถวายในบริเวณหน้าศาลเจ้าแม่นางนอน ปากทางเข้าถ้ำหลวง
สุรทิน ชัยชมภู นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย หนึ่งใน “ฮีโร่” ผู้นำนักเจาะน้ำบาดาลทั่วประเทศ เข้าร่วมเจาะน้ำบาดาลรอบๆ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อช่วยเหลือ 13 หมูป่าออกจากถ้ำ พร้อมกับสมาชิกจากสมาคมน้ำบาดาลไทย 4 ภาค รวม 40 ชีวิต เล่าว่า

การมาบวงสรวงในครั้งนี้เกิดจากการที่ผู้บูชาขอพรจากเจ้าแม่ดอยนางนอนในขณะทำงานว่า ขอให้การทำงานเจาะน้ำเสร็จภายใน 5 วันโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ เข้ามา
ผู้บูชาวางแผนจะกลับมาถวายหัวหมู 9 หัว ไก่ 9 ตัว และอาหาร 9 อย่าง แต่กลับไม่ได้ทำตามคำมั่นเพราะภารกิจหลายอย่างจนไม่สามารถกลับมาแก้บนได้ ซึ่งหลังจากนั้นเขาประสบปัญหาหลายอย่างในการทำงาน เครื่องเจาะน้ำเกิดการติดขัดและเสียหายหลายครั้ง อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง และลูกน้องของเขาก็เกิดอาการช็อกขณะทำงาน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้
ศาลของ "เจ้าแม่นางนอน" ที่ตั้งอยู่ใกล้กับถ้ำหลวง เป็นสถานที่ที่มีผู้คนให้ความเคารพและศรัทธาอย่างมาก เพื่อขอให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องเลขเด็ดและหวยรวยเบอร์ ซึ่งหลายคนก็ได้มาบนบานศาลกล่าวและได้รับโชคลาภจากที่นี่
ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาบนบานศาลกล่าวนั้นมักจะเป็นคนจากพื้นที่อื่น แต่คนในท้องถิ่นเองก็มีความเชื่อและมาบนบานขอให้การทำมาค้าคล่อง และบางคนก็เล่าเรื่องที่ตัวเองฝันเห็นเจ้าแม่มาช่วยเหลืออยู่เสมอ ลุงปรีดา วัย 63 ปี ชาวบ้านคนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่าตนเองเชื่อมั่นในตัวเจ้าแม่ดอยนางนอนมาก

ในมุมมองของชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าแม่นางนอนถือเป็นบุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์และมีคุณูปการมาก โดยเฉพาะในเรื่องน้ำที่ไหลออกจากถ้ำไปหล่อเลี้ยงชาวบ้าน ทั้งเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ทุกคนล้วนใช้น้ำจากแหล่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเรียกเจ้าแม่นางนอนว่า "แม่เรา" ซึ่งแสดงถึงความเคารพและศรัทธาในตัวเจ้าแม่เป็นอย่างมาก
การเลี้ยงดูเราเป็นการแสดงถึงบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจน ส่วนปาฏิหาริย์หรือสิ่งเหนือธรรมชาติจาก "แม่นางนอน" อาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาของแต่ละบุคคล
“ศรัทธา” คือแรงผลักดันที่อาจนำมาซึ่งปาฏิหาริย์ เชื่อหรือไม่เชื่อนั้นก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ขอให้โปรดอย่าลบหลู่
รัก-ยม