ตำนานเล่าขานกันว่า “พระนางสุพรรณอัปสรจอมเทวี หรือยักษ์แม่ใหญ่” ซึ่งจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานถึงร้อยปี ได้เข้าฝันชาวบ้านว่า “ตัวเราจมอยู่ใต้น้ำให้นำขึ้นมา” และได้ถูกนำขึ้นมาและประดิษฐานที่ “วัดนางตะเคียน ต.คลองเขิน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม”
วัดแห่งนี้เดิมชื่อ “วัดเทพธาราม” เป็นวัดโบราณที่มีอายุเกิน 400 ปี น่าจะสร้างขึ้นในช่วงกรุงศรีอยุธยา ซึ่งภายในวัดยังมี “วิหารเก่าแก่ทรงจตุรมุข” ที่มีสภาพเก่าชำรุดเสียหาย จนแสงแดดและฝนสามารถลอดเข้าไปในวิหาร ซึ่งเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความเป็นมาที่ยาวนานของวัดแห่งนี้
ชื่อ “วัดนางตะเคียน” มาจากคลองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของวัด ซึ่งแยกจากคลองแม่กลองและไหลไปถึงคลองท่าคา อ.อัมพวา เรียกกันว่า “คลองนางตะเคียน” และที่วัดนี้ยังมีต้นตะเคียนสองต้นที่อยู่ในบริเวณวัด

ในอดีต วัดนี้มีสภาพรกร้างและน่ากลัว จนผู้คนไม่กล้าเดินผ่านในช่วงค่ำคืน โดยเฉพาะต้นตะเคียนใหญ่สองต้นที่เคยมีความเชื่อว่า “เจ้าแม่ตะเคียน” สถิตอยู่ที่นั่น ปัจจุบันได้มีการสร้าง “ศาลแม่ตะเคียนทับทิมทอง” ที่ศักดิ์สิทธิ์และผู้ที่มาขอพรมักได้รับสิ่งที่ขอ
ที่น่าสนใจคือ “วัดนางตะเคียน” แห่งนี้มีการบูชาท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นองค์แรกของจังหวัดสมุทรสงคราม มีอายุถึง 400 ปี และได้รับการเคารพสักการะจากทั้งชาวบ้านในพื้นที่และผู้ที่เดินทางมาจากที่อื่น
ผู้ที่มาที่นี่สามารถกราบไหว้ขอพรให้สมหวังในเรื่องโชคลาภ ความร่ำรวย หรือการงานให้เจริญก้าวหน้าได้ตามความปรารถนา
โดยเฉพาะในช่วง “เกณฑ์ทหาร” มักมีผู้คนมาขอพรและบนบานไม่ให้ถูกจับใบแดงไปเป็นทหาร เมื่อได้รับผลสำเร็จ ก็จะมีการจัดหนังกลางแปลงมาแสดงเพื่อแก้บนท้าวเวสสุวรรณ โดยจัดฉายทุกสัปดาห์

การบูชาท้าวเวสสุวรรณที่วัดนางตะเคียน จะทำด้วยการถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก ธูป 9 ดอก จากนั้นให้ตั้งจิตอธิษฐานและสวดคาถาบูชา นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 รอบ
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะราชาโณ ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณัง สุขขัง อะระหัง สุคะโต นะโมพุทธายะ
@@@@
น่าสนใจอีกว่า วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน “พระนางสุพรรณอัปสรจอมเทวี” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระแม่ยักษ์ใหญ่ หรือยักษ์แม่ใหญ่” ซึ่งรูปปั้นของนางยักษ์ได้ถูกงมขึ้นมาจากแม่น้ำแม่กลองบริเวณหน้าวัด
ตามคำเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในอดีต ประตูทางเข้าวัดเดิมนั้นใช้การสัญจรทางเรือ และที่หน้าวัดก็ได้มีการสร้างรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณและยักษ์แม่ใหญ่ รวมถึงรูปปั้นฤาษีและอื่นๆ เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ แต่ในช่วงนั้นสายน้ำในคลองได้กัดเซาะตลิ่งหน้าวัดไปเรื่อยๆ จนทำให้ตลิ่งพังทลายลงไปในแม่น้ำ
ในครั้งนั้นสามารถกู้ขึ้นมาได้เพียง “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์เดียวเท่านั้น ส่วน “ยักษ์แม่ใหญ่และรูปปั้นองค์อื่นๆ” กลับจมลงกลางแม่น้ำและหายไปนานหลายปี จนไม่มีใครพูดถึงหรือเล่าต่อกันในช่วงเวลานั้น

จนกระทั่งในปี 2551 ชาวบ้านในแถบนั้นได้ฝันเห็น “ยักษ์แม่ใหญ่” ซึ่งเข้าฝันบอกว่า ตัวท่านอยู่ในแม่น้ำและรู้สึกหนาว ต้องการให้ช่วยนำท่านขึ้นมา แม้ในตอนแรกจะไม่มีใครเชื่อ แต่หลังจากนั้นก็ได้นำความฝันไปปรึกษากับผู้รู้หลายคน
การสำรวจที่ดำเนินอยู่หลายวันทำให้พบว่าใต้ผืนน้ำมีรูปปั้นพระนางอยู่จริง แต่ไม่สามารถยกขึ้นมาได้ จึงต้องใช้เรือเครนเพื่อพยายามยกขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจมาก ต่อมามีชาวบ้านในพื้นที่แนะนำให้ทำพิธีบวงสรวงและตั้งบายศรี เมื่อทำพิธีเสร็จเรือเครนก็สามารถยกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่น่าทึ่งคือการพบ “อ้อมแขนยักษ์แม่ใหญ่อุ้มบุตรชายของตนไว้” แม้ว่าส่วนหัว (เศียร) จะหายไป ซึ่งมีเรื่องเล่าว่าในอดีตเคยมีคนพามาวางไว้ใต้ต้นไทรหน้าวัด และมีนักสะสมของเก่ามาเช่าบูชาไป แต่เมื่อการงมยักษ์แม่ใหญ่จากลำคลองแม่กลองเสร็จสิ้นและนำมาตั้งไว้บนศาลาริมน้ำ ก็เริ่มมีผู้คนเดินทางมาขอพรและขอโชคลาภ
ผลจากการขอพรมีผู้โชคดีที่ถูกรางวัลหวยติดต่อกันหลายคน จึงทำให้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินเพื่อให้มีการปั้นศีรษะของยักษ์แม่ใหญ่ขึ้นมาแทนส่วนที่สูญหาย และจนถึงวันนี้ รูปปั้นนั้นยังคงอยู่
ข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนในสมุทรสงครามและพื้นที่ใกล้เคียงพากันเดินทางมาขอพรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการขอโชคลาภซึ่งมักได้รับผลสำเร็จตามที่ปรารถนาอยู่เสมอ

บางคนที่ประสบปัญหาการขายที่ดินไม่ได้ ก็มาขอพรโดยการจุดธูปเทียนและอธิษฐาน ปรากฏว่าได้ขายที่ดินได้อย่างง่ายดาย ข้าราชการหลายคนที่มีปัญหาในหน้าที่การงานก็มาและประสบความสำเร็จในเรื่องการงาน ได้รับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งมากมาย เช่นเดียวกับคู่รักที่แต่งงานมานานแต่ไม่มีบุตรก็มาขอพรแล้วสมหวัง
ในปัจจุบัน “ยักษ์แม่ใหญ่” ได้ถูกย้ายมาอยู่บริเวณหน้าวิหารหลังเก่าพร้อมกับเหล่าบริวาร โดยมีผู้คนจากทุกทิศทางเดินทางมาสักการะตลอดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
@@@@
การบูชา “พระนางสุพรรณอัปสรจอมเทวี ยักษ์แม่ใหญ่ วัดนางตะเคียน” ให้จุดธูป 9 ดอก พร้อมดอกกุหลาบ 9 ดอก และสวดคาถาบูชา (นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ)
อิติปิโส ภะคะวา พรหมมา จะมหาเทวาเวสะ พุทสะ สัพเพ ยักขา ปะลายันติ อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน จะมหาเทวา
ท้าวเวสสุวรรณโณ พระนางสุพรรณอัปสรจอมเทวี มะระณัง สุขัง อะระหัง สุขะโต อิติปิโส ภะคะวา อะภิลาภา มะหาลาโภ มิเตหาหุหะติ มานี มานะ อุอากะสะ นะชาลิติ สัพภะโภคัง พุทธะสะ สะหวาโหม สัมปะติ ฉามิ พุทโธ นะโม พุทธายะ สิ่งนำมาถวายแก้บนมีทั้งของคาวของหวาน ประทัด บางคนแก้ด้วยละคร ภาพยนตร์ถวายก็มี
นอกจากนี้ยังมี “เรือโบราณ” ซึ่งตามตำนานเล่าว่า “แม่ตะเคียนสิงสถิตอยู่ในเรือ” ได้มาปรากฏตัวในความฝันของเจ้าของเรือ โดยบอกว่า “ท่านอยากมาอยู่ที่วัด” เจ้าของเรือจึงตัดสินใจยกให้วัด ผลลัพธ์คือ “ชาวบ้านในแถบนั้นถูกหวยกันทั้งหมู่บ้าน” ทำให้เกิดความตื่นเต้นและมี “นักแสวงโชคลาภ” เดินทางมากราบไหว้ โรยแป้งขูดหาตัวเลขเด็ด และขอพรอย่างไม่ขาดสาย

เรื่องราวอภินิหารภายใน “วัดนางตะเคียน” ไม่ว่าจะเป็น “ท้าวเวสสุวรรณ...พระนางสุพรรณอัปสรจอมเทวี” เชื่อกันว่ายังมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์และเหนือธรรมชาติอีกมากมายที่รอการค้นพบ จาก “ประสบการณ์ของผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ขอพรและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้”
เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นพลังแห่งความศรัทธา ที่ผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน...
“ศรัทธา” นำพาไปสู่ “ปาฏิหาริย์” เชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่โปรดอย่าได้ “ลบหลู่”
รัก-ยม