“วัดสวนตาล” ถือเป็นหนึ่งในวัดโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดน่าน สร้างขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งเมืองมาแล้วกว่า 600 ปี
จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ “พระนางปทุมมาวดี” ชายาของ “พญาภูเข็ง” ผู้ปกครองนครน่าน เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1955
วัดสวนตาลตั้งอยู่บริเวณนอกกำแพงเมืองน่านทางทิศเหนือ เดิมทีพื้นที่นี้เป็นสวนตาลหลวงมาก่อน ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นวัดและได้ชื่อตามสวนตาลนั้น
จุดเด่นของ “วัดสวนตาล” คือการเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ที่มีชื่อเสียง เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านและผู้มาเยือนจากต่างถิ่น

“พระเจ้าทองทิพย์” ประดิษฐานอยู่ในวิหารขนาดใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อจากสำริด มีหน้าตักกว้าง 10 ฟุต และสูง 14 ฟุต 4 นิ้ว เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในปี 1993
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ “พระเจ้าติโลกราช” แห่งเชียงใหม่เป็นผู้โปรดให้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในการยึดเมืองน่านได้สำเร็จ ในอดีตทุกปีช่วงสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดพิธีสรงน้ำและนมัสการพระพุทธรูปองค์นี้อย่างต่อเนื่อง
“เอวัง โหนตุ อะกิญจิเย อะกิญจิยา พุทธะ พุทธา วิปากะ โหนตุ” สวด 3 ครั้ง
นี่คือคำบูชา “หลวงพ่อทองทิพย์” แห่งวัดสวนตาล เชื่อกันว่าหากได้สักการะและขอพรแล้ว ชีวิตจะประสบแต่ความโชคดีและสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
N N N
เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าพระรูป “หลวงพ่อทองทิพย์” ผมได้โอกาสอันประเสริฐในการกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งจิตให้สงบและแน่วแน่... นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด 3 จบ)
ข้าพเจ้าขอน้อมกราบพระธาตุทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอน้อมกราบทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าพเจ้าขอให้มีความสุขตลอดไป
ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่งในทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขอกราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการระลึกถึงพระคุณอันหาที่สุดมิได้
พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ทรงตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงประกาศธรรมเพื่อนำสรรพสัตว์ออกจากสังสารวัฏ ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาธิคุณ
พร้อมกันนี้ข้าพเจ้าขอน้อมกราบพระธรรมและพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ด้วยอานิสงส์แห่งบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าบรรลุพระนิพพาน แม้จะต้องเกิดในภพชาติใดๆ ก็ขอให้เกิดภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ มีกรรมสัมพันธ์ที่ดี เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร และมีสัมมาทิฏฐิในทุกภพทุกชาติ
การได้ฟังธรรมและปฏิบัติตามธรรมะเป็นเหตุให้เกิดสติปัญญาและปัญญาญาณ ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญทั้งในชาตินี้และชาติหน้า จนกระทั่งบรรลุพระนิพพานในเวลาอันเหมาะสม

กรรมใดที่ได้ล่วงเกินต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมทั้งหมดทุกประการ
ข้าพเจ้าขออุทิศกุศลผลบุญนี้แด่ผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่พยายามทำความดีเพื่อรักษาประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ ทั้งมนุษย์และอมนุษย์
ขอให้ทุกท่านที่ได้กล่าวนามมานี้ จงประสบแต่ความสุขความเจริญทั่วหน้ากันทุกคนเทอญ
N N N
“วัดสวนตาล” ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน มีตำนานที่บันทึกไว้ในวัดระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับนางปทุมมาวดีราชเทวี ซึ่งเป็นชายาของพระยาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านในสมัยนั้น
อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์บางท่านมีความเห็นว่าวัดนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในยุคของพระยาผากอง โดยมีการศึกษาจากเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์องค์เดิมที่พบในภาพถ่ายโบราณ

สำหรับ “องค์พระปรางค์” ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าสุริยพงษ์
ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 พระยาผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สร้างพระปรางค์ครอบองค์เจดีย์เดิมซึ่งมีศิลปะแบบสุโขทัย เนื่องจากเจดีย์เดิมชำรุดทรุดโทรมมากจนยากต่อการบูรณะ
พระองค์จึงมีพระราชดำริให้สร้างพระปรางค์ขึ้นใหม่เพื่อครอบองค์เจดีย์เดิมไว้ดังที่เห็นในปัจจุบัน
“วัด”...“องค์พระปรางค์” และ... “พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปทองสำริดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช
เมื่อกองทัพเชียงใหม่ได้รับชัยชนะเหนือเมืองน่าน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 2
มีหน้าตักกว้าง 6 ศอก ปิดทองทั้งองค์ มีประวัติความเป็นมาที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน และเป็นที่เคารพสักการะของชาวน่านอย่างมาก
พงศาวดารเมืองน่านได้บันทึกไว้ว่า เมื่อมีการสร้างพระเจ้าทองทิพย์ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้ช่างจากหลายกลุ่ม เช่น พม่า เงี้ยว และชาวเชียงแสน ร่วมทำพิธีหล่อทองและหล่อองค์พระพุทธรูป

ปรากฏว่า...ช่างได้พยายามหล่อทองลงในเบ้าพิมพ์หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เพราะเบ้าพิมพ์แตกทุกครั้ง จนกระทั่งมีชายชราหน้าแปลก นุ่งขาวห่มขาวมาช่วย จึงสำเร็จลุล่วงตามความปรารถนา
หลังจากสร้างพระพุทธรูปเสร็จสิ้น...พระเจ้าติโลกราชทรงมีพระราชดำริให้จัดพิธีสวด “ปริตตมงคล” พร้อมทั้งจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โตอลังการเพื่อทำบุญ
ชายชราผู้นั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ชาวเมืองต่างพากันเชื่อว่า...นั่นคือเทวดาที่แปลงกายมาช่วย จึงเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระพุทธรูปทองทิพย์” หรือ “พระเจ้าทองทิพย์” ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน
ความศรัทธาต่อพระเจ้าทองทิพย์ได้สืบทอดมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่า...มีผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จและสมหวังดังใจปรารถนา
“ศรัทธา”...อาจนำมาซึ่งสิ่งอัศจรรย์? จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม...โปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.
รัก-ยม